เหลนแทงย่าทวด 60 แผล ดับคาเตียง ญาติเผยป่วยจิตเวชมา 10 ปี เพราะถูกสาวทุบหัว

สลด เหลนแทงย่าทวดกว่า 60 แผล ดับคาเตียงในอะพาร์ตเมนต์ ญาติเผยป่วยจิตเวชมา 10 ปี เพราะถูกสาวทุบหัว 

(7 ก.พ.65) เมื่อเวลา 09.45 น. พ.ต.ท. พงษ์เดช ชูสงค์ สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและมีผู้เสียชีวิต ภายในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 117 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช รพ.ตร.

ที่เกิดเหตุเป็นอะพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้น ที่ห้องเลขที่ 103 ชั้นล่าง พบผู้เสียชีวิตถูกแทงด้วยอาวุธมีด ทราบชื่อต่อมา น.ส.พิมพ์วรัชญ์ อายุ 71 ปี อาจารย์พิเศษสอนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน พบบาดแผลรวมเกือบ 60 แผล เป็นบาดแผลฉกรรจ์ ตามท้อง ลำตัว ร่างกาย 26 แผล และรอยถูกฟันทั้งหน้าหลัง 

และพบ นายศุภโชติ อายุ 27 ปี มีศักดิ์เป็นเหลนชายของผู้เสียชีวิต นั่งนิ่งอยู่บนพื้นภายในห้องข้างเตียง เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมพร้อมนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ลาดพร้าว

ด้านนายธนาวิน เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงอะพาร์ตเมนต์ เปิดเผยว่า พบทั้งสองคนพักอาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้มาหลายปีแล้ว มักจะชอบเดินผ่านหน้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทุกอย่างดูปกติ ไม่มีพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าจะใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้เคยได้ยินมาว่าผู้ก่อเหตุเคยรับการรักษาอาการเกี่ยวกับยาเสพติดขณะที่อยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ แต่ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด

พ่อค้าร้านอาหารตามสั่งบริเวณใกล้เคียง เปิดเผยว่า ทั้งสองคนมักจะมาทานข้าวที่ร้านเป็นประจำ โดยผู้เป็นย่ามักจะมาทำอาหารให้หลานกินด้วยตัวเอง ส่วนเวลาที่มานั่งทานข้าวตัวเหลนชาย ก็จะมารยาทดี ยกมือไหว้เสมอ ไม่มีพฤติกรรมที่บ่งบอกว่ามีพฤติกรรมรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด หรือ อาการจิตเวชนั้น ก็ทราบข่าวมาบ้าง รวมถึงได้มีการพาไปบำบัดและหายแล้ว

ด้านน้องชายผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ผู้ตายเป็นย่าทวดของนายศุภโชค และเลี้ยงดูมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากอาการทางจิตเวช เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อสิบปีที่แล้ว นายศุภโชคเคยถูกอดีตแฟนทำร้ายร่างกายใช้หินทุบที่ศีรษะจะได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองได้รับความกระทบกระเทือน และเข้ารักษาอาการจิตเวชมาโดยตลอด ทานยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ตายพาไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่คาดว่าช่วงหลังอาจจะขาดการทานยา รวมถึงไม่ได้เข้ารับการรักษาจึงทำให้อาจเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ ส่วนเรื่องที่นายศุภโชคเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประเด็นนี้ตนไม่ทราบ

น้องชายผู้เสียชีวิต เผยอีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ตัวนายศุภโชคเองก็จะเป็นคนเงียบๆ ชอบนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ พูดจารู้เรื่อง เคยให้ไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ และอยู่กับพ่อที่จังหวัดชลบุรี ก็สามารถทำได้ แต่หลังจากพ่อเสียชีวิตก็ไม่ได้ทำงานและกลับมาอยู่กับผู้ตายที่กรุงเทพฯ โดยตั้งใจจะพานายศุภโชคไปทำบุญที่จังหวัดลำพูนในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์คุยกับผู้ตาย ก่อนจะนัดแนะมารับกันที่อะพาร์ตเมนต์ เพื่อไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ในช่วงเช้าวันนี้ แต่ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น

เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวนายศุภโชคไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ลาดพร้าว จากการสอบสวนทราบว่าสาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงกับผู้ตาย ส่วนจะมาจากเรื่องใดนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป