7วันยิง“สุนัทที“คดีคืบ"อัศวิน"มั่นใจจับคนร้ายได้
ประชุมสรุป 7 วัน ยิง สุนัทที คดีคืบหน้า อัศวิน มั่นใจจับคนร้ายได้แน่นอน เร่งเกาะรอยซุ้มมือปืน ตะวันออก-ใต้ตอนบน ดึงเทคนิคใหม่ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ คนร้าย-ผู้ตาย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 6 ธ.ค. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา (สบ.10) รับผิดชอบด้านการสืบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมติดตามความคืบหน้ากับการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายยิงนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทย โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และคณะทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนทั้งในส่วนของกอง บัญชาการตำรวจนครบาลและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองปราบปรามเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกว่า 30 นาย
ต่างหอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดีเข้ารายงานความคืบหน้าผลการสืบ สวน รวบรวมพยานหลักฐาน เบาะแสการติดตามตัวคนร้ายลงลึกในรายละเอียดประเด็นสำคัญความขัดแย้งต่างๆ ทั้งเรื่องของความขัดแย้งในครอบครัว "มรดกกงสีตลาดบ้านบึง " มูลค่ามหาศาล การฟ้องร้องทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นธุรกิจบ้านและที่ดิน และอื่นๆที่นำไปสู่การสังหารโหด โดยที่ประชุมวันนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้วทั้งพยานหลักฐานและการติดตามตัว ผู้ต้องสงสัยหลังจากทีมสืบสวนแต่ละชุดลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่วัน เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ครบ 7 วันแล้ว
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวเพียงสั้นๆภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะขึ้นรถเดินทางกลับว่า การสืบสวนสอบสวนทางคดีมีความคืบหน้าไปมาก ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอีกระยะหนึ่งก่อน ส่วนจะจับคนร้ายได้เมื่อไหร่นั้น ยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ หากจับได้เมื่อไหร่จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เดินทางกลับไป บรรดาเจ้าหน้าที่สืบสวนทั้งของนครบาลและกองปราบปรามก็ทยอยกันออกมา โดยแต่ละคนต่างหลบหลีกผู้สื่อข่าวไม่ยอมปริปากพูดถึงคดีแต่อย่างใด บอกเพียงสั้นๆว่า พลงต.ท.ภาณุพงศ์ จะเป็นผู้ให้ข่าวแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน พร้อมด้วยทีมงานสืบสวนได้ออกจากห้องประชุมเป็นชุดสุดท้าย ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าวเป็นจำนวนมากว่า มีการตกลงในที่ประชุมว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์จะเป็นผู้ให้ข่าวความคืบหน้าทางคดีเท่านั้น แต่หากจะถามในส่วนของความรับผิดชอบของตนเองนั้นก็พอจะพูดได้บ้าง คือได้รับมอบหมายให้ติดตามจับกุมตัวคนร้าย ตรวจสอบซุ้มมือปืนและเทคนิคต่างๆ การเก็บเกี่ยวในส่วนของพยานหลักฐานการใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารทั้งในส่วน ของผู้ตายและคนร้ายโดยนำเรื่องเทคโนโลยีการตรวจสอบเซลไอดีซิมการ์ดเข้ามา เกาะรอย ส่วนการตรวจสอบพยานที่เกิดเหตุภาพสเก็ตซ์คนร้ายและประเด็นความขัดแย้งต่างๆ เป็นเรื่องของตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และกองสืบดำเนินการกันไป
ต่อข้อถามว่า ผ่านมา 7 วันแล้วสามรถสรุปประเด็นความขัดแย้งที่เป็นชนวนเหตุของการสังหารนางสุนัททีได้ หรือยัง พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ยังให้น้ำหนักในทุกประเด็นยังตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไม่ได้ ตอนนี้ยังครอบคลุมหมด 5-6 ประเด็นทั้งเรื่องธุรกิจที่ทำ การฟ้องร้อง และอื่นๆ เหมือนกับมือเรามี 5 นิ้วทุกนิ้วสำคัญหมดต้องคิดก่อนว่า จะตัดนิ้วไหนออกบ้าง ต้องดูไปเรื่อยๆก่อนดูในรายละเอียดทุกประเด็น ที่ผ่านมาติดเงื่อนไขเรื่องเวลาเพราะมีวันหยุดหลายวันอีกทั้งญาติครอบครัว และคนใกล้ชิดยังอยู่ในอาการโศรกเศร้ายังไม่พร้อมให้รายละเอียดเขาขอเวลาให้ ผ่านงานศพไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งวันอังคารนี้จะเดินหน้าตรวจสอบข้อมูลในธนาคาร บริษัทเงินทุน และธุรกรรมด้านการเงินของผู้ตายและคนใกล้ชิดทั้งหมด
"หน้าที่หลักที่ผมได้รับมอบหมายคือ จับคนร้าย ตอนนี้ก็ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบซุ้มมือปืนทั่วประเทศทุกภาค เน้นที่ซุ้มตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ถ้าถามว่ามือปืนอยู่ซุ้มไหนนั้น ยังตอบไม่ได้เพราะถ้ารู้ก็จับไปนานแล้ว เราไม่อยากคาดการณ์ว่าจะจับคนร้ายได้เมื่อไหร่. อยากจับได้วันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ นักข่าวอย่าไปคาดการณ์กันเลยเอาไว้รอดูของจริงดีกว่า ผมเชื่อมั่นว่าไม่เกิน 30 วันอย่างที่ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ประกาศไว้อย่างแน่นอน " พล.ต.ท.อัศวินกล่าวและว่า ภาพรวมทางคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว
ต่อข้อถามกรณีการสืบสวบพว่า มีผู้ต้องสงสัยหายตัวไปจากอพาร์ทเม้นท์ในระแวกที่เกิดเหตุในวันเกิดเหตุว่า ยังไม่มีการพูดถึงในที่ประชุมคงเป็นเรื่องของการสืบสวนของ บก.น.4 ต้องไปสอบถามเอาเอง ส่วนกรณีที่พบซิมการ์ดโทรศัพท์ตกอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ