"ใบเตย อาร์สยาม" ไม่มีใครแก่เกินเรียน เปิดใจหลายคนตั้งคำถาม ไปเรียนมาตอนไหน?

"ใบเตย อาร์สยาม" ไม่มีใครแก่เกินเรียน เปิดใจหลายคนตั้งคำถาม ไปเรียนมาตอนไหน?

"ใบเตย อาร์สยาม" ไม่มีใครแก่เกินเรียน เปิดใจหลายคนตั้งคำถาม ไปเรียนมาตอนไหน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงกับออกปากเองเลยว่าเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต สำหรับศิลปินลูกทุ่งสาวชื่อดัง ใบเตย-สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย อาร์สยาม หลังจากที่เรียนจบระดับปริญญาตรี สาขาศิลปกรรมศาสตร์ เอกขับร้อง วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA (Superstar College of Arts) มหาวิทยาลัยสยาม และมีกำหนดการเข้ารับปริญญาบัตร ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้

นอกจากนั้นแล้วเจ้าตัวได้ถือโอกาสตอบข้อสงสัยของหลายๆ คนที่ทักเข้ามาถามไถ่กันค่อนข้างเยอะในทำนองว่า ไปเรียนมาตั้งแต่ตอนไหน? รวมถึงฟีดแบคสุดปังกับซิงเกิ้ลล่าสุด ที่พึ่งทางไลน์ ที่มาพร้อมกับความเซ็กซี่ระดับตัวแม่ ไม่เสียชื่อเจ้าของฉายา สั้นเสมอหู 

ไปเป็นคุณแม่มาหลายปี กลับมาครั้งนี้ต้องเตรียมพร้อมยังไงบ้าง ?
“คือจริงๆ ใจพร้อมมาก เพราะเราคิดถึงความเป็นเรา คิดถึงคอนเสิร์ต ที่ได้เจอคนเยอะๆ เป็นหมื่นๆ ที่เราได้ไปเล่น คือความเป็นนักร้อง ทำงานเพลงออกมา สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ก็คือการเล่นคอนเสิร์ตให้คนดู เราไม่ได้อยากทำอย่างอื่น นอกเหนือจากการได้ขึ้นโชว์ ได้เต้นสิ่งที่อยู่ในเอ็มวีทั้งหมด ต่อหน้าแฟนเพลงทั่วประเทศ”

ปีนี้คัมแบคงานเพลงเต็มที่ ?
“คือตัวเราจริงๆ แล้ว ไม่ได้มองว่าคัมแบคหรืออะไร แต่ว่าที่ผ่านมา เราก็ได้ทำมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแค่หยุดไปตั้งแต่แต่งงาน มีน้อง ช่วงโควิดพอดี แต่อันนี้เราก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่งการทำงาน ในฐานะนักร้อง ว่ามันก็จะต้องมีซิงเกิ้ลตลอด จนกว่าจะหมดสัญญาถึงจะไม่ทำแล้ว อันนี้ก็เป็นโปรเจกต์ เป็นเพลงที่ไม่คาดถึง ว่ามันจะได้กลับไปเหมือน 10 ปีที่แล้ว”

กลับมาทวงบัลลังก์ตัวแม่คืนไหม ?
“จริงๆ ไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นได้ถึงขนาดนั้น แต่ว่าขอบคุณมาก ที่ทุกคนในคอมเมนต์ตามกระแสโซเชียลต่างๆ บอกว่าแม่กลับมาแล้ว แม่คัมแบค เราดีใจมาก สุดท้ายแล้วเราทำเพราะเราก็รักแฟนเพลงมากๆ เราคือนักร้องจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ให้ทุกคนมองแล้วกัน ว่าแม่กลับมาแล้วจริงหรือเปล่า วันนี้ก็กลับมาแล้วจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม)”

ก็ยังมีความสั้นเสมอหูอยู่ ?
“ที่สุด ทิ้งไม่ได้ ทิ้งไม่ได้จริงๆ เป็นสไตล์เราแหละ ชุดนี้ไม่ติดอะไรเลย คุณสามีเห็นแรกๆ ก็อุ๊ย ตกใจเหมือนกัน ไม่เห็นเมียใส่อะไรแบบนี้นานมาก แต่เขาก็รู้ว่าเราคือใบเตยเนาะ ณ วันนี้ในส่วนของการทำงานนางไม่ค่อยว่าอะไร เพราะชีวิตจริงแต่งยิ่งกว่านี่อีก (หัวเราะ)”

ชุดสีเขียวได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ?
“แรงบันดาลใจก็คือ เหมือนช่วงนี้รู้สึกว่า เราลดน้ำหนักมา จนได้ตัวเลขที่เราพอใจ ก็เลยอยากกลับมาใส่อะไรที่แซ่บๆ เหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งท้องคลอดลูกมาเนี่ย เราแอบปกคลุมเยอะ เพราะรู้สึกยังไม่มั่นใจในส่วนของสรีระ อย่างวันนี้ก็รู้สึกว่าโอเคแล้ว เราได้บริหารร่างกายจนถึงจุดที่พอใจ ใส่อะไรแล้วก็ดูดีมากขึ้น”

คุณสามีว่ายังไงบ้าง ?
“ก็โอเค (สะกิดเลยไหม?) อ๊าย (หัวเราะ) แต่คือเอาจริงๆ นางชอบอวบๆ นะ ไม่อยากให้หนูผอมอย่างนี้ ชอบให้หนูอวบๆ กว่านี้ แต่สุดท้ายก็เหมือนชอบแหละ โอเคแหละ แฟนรูปร่างดี เป็นใครใครก็ชอบ กับชุดนี้ตอนแรกนางก็บอกว่า หนูใส่อะไรของหนูเนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ คือวันนั้นตอนเช้า เราหลอกพี่แมนว่าเราไปอควอเรียม ให้เขาออกจากบ้าน นางก็บอกว่าหนูพาลูกไปดูสัตว์น้ำ คือใส่ขนาดนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ก็เลยตามเลย เขาก็เซอร์ไพรส์มาก ก็คงงงๆ ว่าทำไมอะไรขนาดนี้ พอกลับมาบ้านก็ดีใจไป”

เราใส่ชุดนั้นไปอควอเรียมมาจริงๆ เหรอ ?
“จริงค่ะ แต่มีเสื้อคลุมนะคะ (หัวเราะ)”

ความหวานกับชีวิตครอบครัวลงตัวดีไหม ?
“ก็ดีค่ะ แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่อยาก และมันก็ไม่ง่ายนะ ที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งงานและมีลูก มันก็ต้องจับมือกันแน่นมาก ชีวิตคู่ถ้าจับมือกันไม่แน่นพอ เชื่อว่ายังไงก็อยู่กันไม่ได้ ต้องจับมือกันแน่นพอมากๆ”

ระหว่างทางมีอะไรที่ต้องปรับต้องจูนกันบ้างไหม ?
“มีเยอะมากค่ะ รายละเอียดชีวิตมันเยอะมาก แต่ใบเตยก็โชคดีตรงที่ใบเตยเป็นคนตรงๆ ในทุกเรื่อง เป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจน ฉะนั้นเวลามีอะไรใบเตยก็จะพูดกับพี่แมนตรงๆ และพี่แมนก็เป็นคนที่ยอมใบเตยทุกอย่าง ทุกคนก็น่าจะเห็นกันตามช่องยูทูบ คือใบเตยด่าสามียืนหนึ่ง ซึ่งพี่แมนนี่แหละค่ะที่เป็นฝ่ายยอม ดังนั้นเวลาเราพูดเราอะไรก็ต้องปรับกัน ต้องจับมือกันให้แน่นมากๆ”

วันเกิดสามีที่ผ่านมาก็จัดเต็มจัดหนักเลย ?
“จัดเต็ม ก็ดี เพราะปกติไม่ค่อยได้เซอร์ไพรส์อะไรพี่แมนนะคะ ก็นานๆ ที”

ของขวัญวันเกิด เปย์หนักเหมือนกัน ?
“สำหรับใบเตย ใบเตยมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เราให้ของขวัญกับพ่อของลูก แต่จริงๆ เราเองก็เคยให้กันมามากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าปีนี้พี่แมนเขาเน้นไปที่การดูแลสุขภาพ ชอบใช้อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ดังนั้นพอให้นาฬิกาเขาไปและเขาได้ใช้ เราก็ดีใจค่ะ”

วางแพลนเรื่องน้องอีกคนไว้ยังไงบ้าง ?
“ถ้าเป็นตัวสามีคือทุกวันค่ะ ทุกวันในที่นี้หมายถึง พูดทุกวัน พูดทุกวันว่าอยากมีปีนี้เพราะว่าปีเสือมันดีมากถ้าหากมีลูกชาย แต่ใบเตยก็ต้องบอกไปตรงๆ ว่าใบเตยไม่สามารถจริงๆ”

ตอนนี้ตัวเราเองพร้อมกลับมารับงานเต็มที่แล้วหรือยัง ?
“พร้อมนะคะ เพราะเราเองก็ยังรักการทำงานมากที่สุด และใบเตยก็รู้สึกว่า 2 ปีที่มีโควิด มันทำให้เราได้อยู่กับลูกแบบเต็มเวลาจริงๆ เพราะถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ใบเตยมีลูกและมีงานคอนเสิร์ตเข้ามาทุกวัน ใบเตยคงไม่ได้ทำหน้าที่คุณแม่เต็มเวลาแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาใบเตยก็รู้สึกว่าใบเตยได้ทำหน้าที่ตรงนี้ของใบเตยแบบเต็มที่มากๆ ค่ะ”

เราอยากมีคนที่สองไหม ?
“ใบเตยเฉยๆ แล้วนะ ใบเตยรู้สึกเรามีน้องเวทมนต์มาเติมเต็มคนเดียวมันก็ที่สุดในหัวใจแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนรอบข้างก็บอกว่าต้องมีอีกคน”

ปีนี้ถ้ายังไม่พร้อม แสดงว่าอาจจะเป็นปีหน้า ?
“ให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าค่ะ เพราะใบเตยเองก็ยังกำหนดอะไรไม่ค่อยได้”

กลัวไหมว่าถ้าหากเรากลับมาทำงานเต็มตัว น้องเวทมนต์อาจจะงอแง ?
“ไม่ค่อยหรอกค่ะ เพราะวันนี้ใบเตยได้มอบหมายหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว คือเราเริ่มวางแผนตั้งแต่เขาเข้า 1 ขวบเลยค่ะว่า ให้เขาได้ใกล้ชิดกับพี่เลี้ยงมากที่สุด เพราะถ้าต่อไปเราทำงานตัวเราและตัวลูกจะได้ไม่เสียใจกันมาก แต่ว่าโชคดีอีกเรื่องหนึ่งก็คือน้องเวทมนต์เป็นคนที่อยู่กับใครก็ได้ ไม่งอแง”

ตัวเราก็โอเคใช่ไหม ?
“ไม่ซีเรียสเลยค่ะ เพราะใบเตยเชื่อว่าถ้าเด็กเขาโตขึ้น เขาก็จะรู้ว่าใครรักเขาที่สุด และใครคือพ่อกับแม่ของเขา แต่ ณ วันนี้ใบเตยก็รู้สึกว่าใบเตยโอเคนะ เพราะถึงใบเตยจะออกมาทำงาน แต่พอกลับไปถึงบ้านใบเตยก็ได้เจอกับเขาอยู่ดี ก่อนนอนเราก็ต้องกู๊ดไนท์กัน”

หลายคนชื่นชมการทำหน้าที่แม่ของเรา ?
“ขอบคุณค่ะ แต่จริงๆ ใบเตยเองก็อยากจะทำหน้าที่แม่ให้ได้มากกว่านี้ในหลายๆ ด้านนะคะ เพราะใบเตยก็ยังมีหลายหน้าที่ที่ใบเตยยังบกพร่อง อย่างเช่นการทำอาหารให้ลูก แต่ก็พยายามให้ความสุขเขาในมุมที่ใบเตยทำได้”

ถามถึงเรื่องเรียนบ้าง 7 ปีที่รอคอย ?
“(ยิ้ม) ทุกคนก็จะถามว่า เรียนมาตอนไหนเหรอ คือเอาจริงๆ ก็หลายปีแล้วนะ ก็หลายปีจริงๆ แต่มันมาคาบเกี่ยวกับช่วงโควิดนี่แหละที่กินเวลาไปประมาณ 3 ปี และมีการงดรับปริญญา จนกระทั่งเริ่มมารับกันอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยของใบเตยก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน”

เราจบจากคณะอะไร ?
“คณะวิทยาลัยศิลปะการร้องและการดนตรี สาขาขับร้องค่ะ สายตรงเลย”

ความรู้สึกของเราเป็นยังไงบ้าง ตื่นเต้น ภูมิใจ ?
“ตอนแรกที่เขาโทรมาให้ไปรับปริญญาใบเตยตกใจมาก เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แบบ…เหมือนเราลืมไปเลย คือเรื่องการรับปริญญาตอนแรกใบเตยตั้งใจว่าจะก่อนแต่งงาน แต่ปรากฎว่าพี่แมนดันขอแต่งงานก่อน และพอหลังจากแต่งงาน เราก็รู้สึกว่าเราวางมือเรื่องนี้ไปเลย แค่มหาลัยโทรมาว่าจบแล้ว ก็คงจะแค่ไปรับใบจบ แต่พอมาเป็นตอนนี้ แต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว มันก็เลย เฮ้ย! จริงเหรอคะ ใช่หนูหรือเปล่า ซึ่งพอทางมหาลัยแจ้งว่าพร้อมที่จะให้นักศึกษาได้รับปริญญาแล้ว เราก็โอเค เขินๆ เหมือนกันค่ะ เพราะอย่างที่บอกตอนแรกแค่คิดว่าไปรับใบจบก็พอ แต่พอน้องลุกซ์บอกว่า ‘ไปรับเถอะ มันก็ดีนะ เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก’ เราก็โอเค และก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในชีวิตที่ดีใจที่สุดเลยนะ เพราะว่าสุดท้ายแล้วเริ่มต้นของชีวิตคือพ่อแม่อยากให้ใบเตยได้รับปริญญา อยากให้เรียนจบ ซึ่งนี่ก็เป็นของขวัญให้กับพ่อแม่ค่ะ”

กำหนดการจะมีขึ้นเมื่อไหร่ ?
“วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค่ะ ที่ไอคอนสยาม ก็ไปกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ”

เรามีอะไรอยากจะบอกกับแฟนๆ ไหม ?
“ใบเตยอยากจะบอกว่า ไม่มีใค่แก่เกินเรียน ใบเตยทำงานมาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีความคิดว่า พ่อแม่เราอยากให้จบ ฉะนั้นเราต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะเว้นกี่ปีหรืออะไรก็ตามแต่ ต้องสู้ค่ะคนเรา การศึกษาสำคัญที่สุดในชีวิต”

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ "ใบเตย อาร์สยาม" ไม่มีใครแก่เกินเรียน เปิดใจหลายคนตั้งคำถาม ไปเรียนมาตอนไหน?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook