"ผู้ดูแลคนไข้" สารภาพ แอบขโมยบัตร ATM ผู้ป่วยไอซียูไปกดเงิน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ
พยาบาลสารภาพแล้ว แอบขโมยบัตร ATM ผู้ป่วยไอซียูไปกดเงิน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ครอบครัวผู้เสียหายยังรอโรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบ
จากกรณี นางวิไลวรรณ อายุ 35 ปี พร้อมด้วย นางสาวณัฐกฤตา อายุ 40 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด พนักงานสอบสวนร้อยเวรประจำวัน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพ่อได้ไปรักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ต่อมาในช่วงเที่ยงของวันที่ 8 ก.พ. ทาง รพ.ได้แจ้งกับทางญาติว่า พ่อได้เสียชีวิตแล้ว ติดต่อให้ทางญาติผู้เป็นลูกมารับทรัพย์สินของผู้ตายกลับ ซึ่งหลังจากที่ตนเองไปรับกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของพ่อกลับมา ก็พบว่าบัตร ATM ของพ่อหายไปพร้อมกับธนบัตรเก่าหลายใบและเงินสดจำนวนหนึ่ง อีกทั้งในโทรศัพท์ได้มี SMS แจ้งเตือน การถูกถอนเงินไปจำนวน 4,500 บาท เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เวลา 18.15 น. ซึ่งเป็นวันที่พ่อนอนไม่มีสติอยู่ในห้องไอซียู และก็ห้ามญาติเยี่ยม อีกทั้งมีการลบแอปธนาคารออกจากเครื่องอีกด้วย
ความคืบหน้าล่าสุด (10 ก.พ.65) เมี่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรบางละมุง นางวิไลวรรณ และ นางสาวณัฐกฤตา บุตรสาวและหลาน ได้เดินทางเข้าพบท่านพ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เพื่อขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ทำงานอย่างรวดเร็วทันท่วงที ในเบี้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้ติดตามภาพจากกล้องตู้ ATM โดยมีหน้าคนที่กดเงินออกจากตู้ ของธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดผู้ใหญ่กุ่ย หมู่ 13 บ้านนาโต้ ต.หนองปรือ พบว่าเป็นผู้หญิงลักษณะผมสั้น สวมเสี้อสีเขียวสะพายกระเป๋า มากดเงินสดออกไปจากบัญชีผู้ตาย ทั้งเวลาและจำนวนเงินตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้
จึงได้ติดต่อประสานงานไปยัง รพ.บางละมุง ก็ทราบว่า หญิงดังกล่าวเป็นพยาบาลอัตราจ้างที่ประจำอยู่ในตึกผู้ป่วยจริง เป็นผู้ดูแลคนไข้จริง ทาง รพ.จึงได้นำตัวเข้าพบต่อพนักงานสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวศิริพรรณ อายุ 29 ปี เป็นพยาบาลอัตราจ้าง ทำงานมานานกว่า 10 ปีแล้ว จากการสอบถามผู้ต้องหาได้เล่าว่า ตนเองยอมรับว่าได้ขโมยบัตร ATM ของผู้ป่วยไปกดเงินสดจริง โดยขโมยไปเมี่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.พ. และนำบัตรไปกดเงินสดในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 18.15 น. เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เงินไม่พอใช้ รายจ่ายเยอะ จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้ และยอมรับว่าทำแบบนี้เป็นครั้งแรก ได้กราบขอโทษญาติผู้ป่วยไปแล้ว
ในเบี้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้พาผู้ต้องหามาทำแผน ประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยแจ้งขอกล่าวหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและนำไปเบิกถอนเงินสด
ในส่วนของทางญาติผู้ตาย ได้กล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่มีผู้บริหารของ รพ.บางละมุง ติดต่อมาแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติลูกหลาน ยังรอความรับผิดชอบของทาง รพ. อยู่กับการกระทำเช่นนี้ของพยาบาล ซึ่งเมี่อวานนี้วันเกิดเหตุ ทางด้านรอง ผอ. ของโรงพยาบาลยังติดต่อประสานงานมาทั้งวัน พร้อมทั้งได้แจ้งกับญาติว่า หากผู้ก่อเหตุเป็นคนของโรงพยาบาลจริง ทางโรงพยาบาลยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างให้ พร้อมทั้งจะออกมาขอโทษ ซึ่งทางญาติก็ยังจะรอให้ทางโรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย