จับสาวแสบ อ้างตัวเป็นหมอทำงานในคลินิก เคยถูกจับหลายครั้งแต่ไม่เข็ด

จับสาวแสบ อ้างตัวเป็นหมอทำงานในคลินิก เคยถูกจับหลายครั้งแต่ไม่เข็ด

จับสาวแสบ อ้างตัวเป็นหมอทำงานในคลินิก เคยถูกจับหลายครั้งแต่ไม่เข็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับสาวแสบ อ้างตัวเป็นหมอสมัครทำงานในคลินิก พบประวัติเคยถูกจับหลายครั้งแต่ยังกลับมาก่อเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่แถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมผู้ต้องหาสวมตัวรอยเป็นหมอรับจ้างทํางานในคลินิก

โดยจับกุมตัว น.ส.ณัฐชานันท์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ฐานความผิด "ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ใช้คําหรือข้อความที่แสดงให้ ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีประกอบวิชาชีพเวชกรรม ,ฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน และ เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายผู้อื่นหรือประชาชน"

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.ณัฐชานันท์ฯ มีพฤติกรรมหลอกลวง โดยหลอกเอาเอกสารใบประกอบวิชาชีพแพทย์ นํามาสวมรอยเป็นแพทย์ เข้าไปทํางานในคลินิกหลายแห่ง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ป คบ. จับกุมดําเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังผู้ต้องได้รับการประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่อง ร้องเรียนจากแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) ได้ถูก น.ส.ณัฐชานันท์ฯ นําใบประกอบวิชาชีพและเอกสารสําคัญไปแอบอ้าง เข้าทํางานคลินิกย่านบางบอน กรุงเทพ จํานวน 1 แห่ง และคลินิกในจังหวัดปทุมธานี จํานวน 2 แห่ง ทําให้ได้รับความ เสียหาย เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงดําเนินการเพิกถอนการประกันตัวและออกหมายจับ น.ส.ณัฐชานันท์ฯ ภายหลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 พบน.ส.ณัฐชานันท์ฯ อยู่ที่บริเวณถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ จึงแสดงตัวเพื่อจับกุม

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ได้กระทําความผิดจริง โดยได้นําสําเนาใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิง จํานวนหลายท่านที่ได้จากการโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์ต่าง ๆ อ้างว่า จะเปิดสถานเสริมความงาม ต้องการรับสมัคร แพทย์มาทํางาน พร้อมให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์จากนั้นก็นําเอกสารดังกล่าวมาใช้ เพื่อสมัครทํางานในสถาน เสริมความงามในกทม. เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่กระทําความผิดในลักษณะเดิมอีก น.ส.ณัฐชานันท์ฯ อ้างว่าตนต้องการเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจําวันและตนทําอย่างอื่นไม่เป็น จึงต้องหวนกลับมากระทําความผิดในลักษณะเช่นเดิมอีก

ทั้งนี้ตรวจสอบพบว่ามีคดีซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวน ไปจนถึง ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ และรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล อีก 4 คดี และในระหว่างที่ผู้ต้องหาประกันตัวไป ได้นําใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) สวมรอยเป็น แพทย์ทํางานในคลินิกจํานวนทั้งหมด 3 แห่ง โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกคลินิกดังกล่าวมาสอบปากคําและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook