ข่าว มาร์คบินสู่เวียงจันทร์ร่วมพิธีเปิดซีเกมส์

เจอกันแน่! "อภิสิทธิ์-ฮุนเซ็น" หลังจากทั้งคู่เตรียมเดินทางมาร่วมเปิดซีเกมส์ ตามคำเชิญของประเทศลาว "มาร์ค" กำหนดเดินทางถึง 15.30 น.พร้อมกับเข้าพบ ประธานประเทศลาวอีกด้วย ขณะที่ เอกอัคราชฑูตไทย ณ เวียงจันทร์ ยืนยันบรรยากาศการจัดดีเยี่ยม หวังนักกีฬาไทยครองเจ้าเหรียญทองและชนะใจคนดู

การแข่งขันกีฬาของชาวอาเซียน หรือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทร์เกมส์" ที้จะได้ฤกษ์เปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา นายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัคราชทูตไทย ประจำกรุงเวียงจันทร์ ส.ป.ป.ลาว ได้เดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์สื่อมวลชน IBC และได้ชมการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนไทยที่เดินทางมาทำข่าวการแข่งขันครั้งนี้ อย่างคับคั่ง

ภายหลังเยี่ยมชมการทำงานของผู้สื่อข่าว นายวิบูลย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการมอบคู่มือสำหรับคนไทยเพื่อส่งเสริมความเข้าใจไทยV ลาว "ไขประตูสู่ลาว" ไปเมื่อ 3 วันที่แล้ว ทำให้คนมีความมั่นใจว่าทุกคนจะสามารถปฎิบัติตามกฎของที่นี่ได้ แม้ว่าประเทสลาวจะมีการปกครองอย่างเข้มขวด แต่ก็เริ่มมีความเสรีมากยิ่งขึ้น เพราะต้องการเปิดประเทศให้ทั่วโลกยอมรับ

"ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากทางเจ้าภาพให้การเข้มงวดกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ขนาดในบ้านพักของเอกอัคราชทูตนั้นมีเพียงรถทูตเข้าออกได้เพียงแค่คันเดียว เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นถึงมาตรการที่ลาวเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการเป็นเจ้าภาพ กีฬาครั้งแรกได้เป็นอย่างดี และทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไรเลย หากว่าทุกฝ่ายช่วยกันคนละไม้คนละมือ"

เอกอัครราชฑูตไทย กล่าวต่อไปอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยจะเดินทางมาร่วมพิธีเปิดการแข่งขันในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ หลังจาก ท่านนายกฯ ได้ยืนยันว่าจะเดินทางมาร่วมพิธีเปิดการแข่งขันอย่างแน่นอนตามคำเชิญของลาว ที่เชิญเฉพาะประเทศที่มีชายแดนติดต่อกับลาว ประกอบด้วย กัมพูชา, เวียดนาม, พม่า และ ไทย โดยทางนายกรัฐมนตรีของไทย จะเข้าพบ ฯพณฯ จูมมาลี ไชยะสอน ประธานประเทศแห่งส.ป.ป.ลาว และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดก็จะเดินทางกลับประเทศไทยทันที

"นอกจากนี้ยังอยากให้นักกีฬาไทยได้เหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านกันทุกคน และผงาดเป็นเจ้าเหรียญทองอีกสมัย แต่สิ่งที่จะสร้างความประทับใจให้กับทุกคนมากที่สุดก็คือ นักกีฬาไทยจะต้องเอาชนะใจคนลาว และมิตรประเทศที่มาแข่งอีกด้วย จึงจะเป็นความภูมิใจสูงสุดของประเทศเรา

นาย วิบูลย์ กล่าวตอนท้ายอีกด้วยว่า หลังจากมีหลายฝ่ายออกมาบ่นว่าค่าใช้จ่ายในการครองชีพในลาวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน หรือที่พัก ซึ่งล่าสุดทางการของลาวได้ออกมาขอความร่วมมือกับประชาชนว่าอย่าฉวยโอกาสเอา เปรียบขึ้นราคาสินค้าต่างๆในช่วงนี้ เพราะอาจจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศได้ ทั้งนี้ก่อนหน้าการแข่งขัน รัฐบาลลาว ได้มีมาตรการในการสุ่มสำรวจและตรวจจับการค้าขายเกินราคาไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปรากฏว่า ไม่ได้ผล เนื่องจากอาหารกลับมีราคาสูงขึ้นอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะอาหารตามข้างทางธรรมดามีราคา อาทิ ผัดกะเพราไก่ มีราคาพุ่งสูงไปถึงจานละ 80 บาทเลยทีเดียว