เมียหนุ่มโจ หัวหน้าวงหมอลำดัง โร่แจ้งความ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญ 2 ล้าน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเมียเจ้าของวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง หลอกให้โอนเงินรวมกว่า 2 ล้านบาท อ้างตรวจสอบธุรกรรมผิดกฎหมาย สุดท้ายโดนตัดสายติดต่อไม่ได้ โร่แจ้งความตำรวจตามจับ
เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.พ.) ที่ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม นางสาวอนงค์นุช นามวงษา ภรรยา นายยมนิล นามวงษา หรือ "หนุ่มโจ" ผู้ก่อตั้งวงดนตรีหมอลำคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.จตุรงค์ ดรอ่อนเบ้า สว. (สอบสวน) สภ.โกสุมพิสัย ภายหลังจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน รวมเป็นเงินกว่า 2,000,000 บาท
นางสาวอนงค์นุช หรือ ซ้อนุช เล่าว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือของตน โดยอ้างว่าเป็นพนักงาน DHL สาขาเชียงใหม่ บอกว่ามีพัสดุจะส่งไปประเทศจีนถูกตีกลับ แจ้งว่าในกล่องพัสดุมีหนังสือเดินทางจำนวน 14 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ ซุกซ่อนไว้ในเสื้อผ้า 8 ชุด พนักงาน DHL ซึ่งก็คือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะนำว่าต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ใน สภ.ที่เกิดเหตุ ซึ่งก็คือ สภ.เชียงใหม่ แต่ตนไม่สามารถเดินทางไปได้ ทางพนักงานจึงโอนสายไปที่ สภ.ที่เกิดเหตุ
จากนั้นก็มีผู้ชายอ้างว่าเป็นตำรวจมาคุยด้วย ทางปลายสายถามตนว่า ได้ทำออนไลน์มั้ย ซึ่งตนทำธุรกิจออนไลน์อยู่ด้วย ตนจึงบอกว่ามี จากนั้นปลายสายบอกว่าขอตรวจสอบก่อน จากนั้นก็มาบอกว่าตนมีส่วนพัวพันกับนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน ซึ่งตนก็ปฏิเสธไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่คนร้ายพยายามพูดโน้มน้าวให้ตนหลงเชื่อ และให้ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตน โดยถามว่าตนมีบัญชีกี่บัญชี ต้องมีการโอนเงินให้ตรวจสอบ ซึ่งทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเป็นความลับ เกรงว่าหากคนรู้เยอะ การดำเนินการก็จะล่าช้า
และต้องโอนเงินไปตรวจสอบกับ ปปง. หากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะโอนเงินกลับคืนมาภายในเวลา 2 ชั่วโมง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนจึงโอนเงินให้ไป 6 ครั้ง ช่วงเวลาประมาณ 14.37 – 15.44 น. ครั้งแรกโอนไป 1,027,000 บาท ครั้งที่ 2 โอนไป 193,000 บาท ครั้งที่ 3 โอนไป 494,000 บาท ครั้งที่ 4 โอนไป 224,001 บาท โดย 4 ครั้งแรก เป็นธนาคารทหารไทยธนชาติ ชื่อบัญชี นางสาวศุภาวรรณ หงษา ครั้งที่ 5 โอนไป 100,000 บาท ที่ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายณัฐพนธ์ พุดสาดแสง และครั้งที่ 6 โอนไป 50,000 บาท ที่ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นางสาวพรรัตน์ วงละคร รวมเป็นเงิน 2,088,001 บาท
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พูดคุยกัน ปลายสายจะไม่เปิดโอกาสให้วางสาย หรือไปคุยกับคนอื่นเลย อ้างว่าเป็นการสืบสวนทางลับ แต่ก็เอะใจอยู่ว่าทำไมเป็นชื่อบัญชีบุคคล แต่ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย ยังไงก็ต้องได้เงินกลับคืนมา
แต่หลังจากที่โอนเงินเสร็จแล้ว อยู่ๆ สายก็ตัดไป จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ และถูกบล็อกเบอร์ จึงเชื่อว่าตนถูกหลอกแล้ว เมื่อตั้งสติได้จึงไปบอกเรื่องนี้กับสามี และเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นได้ติดต่อธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีปลายทางแล้ว แต่ต้องรอหนังสือจากทางเจ้าหน้าที่ส่งไปที่ธนาคารเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน สิ่งที่อยากจะบอกกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตอนนี้ก็คือ ขอเงินเราคืนเถอะ เพราะเป็นเงินเก็บมาทั้งชีวิต
ทางด้าน นายยมนิล นามวงษา หรือ หนุ่มโจ ผู้ก่อตั้งคณะหมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง กล่าวว่า วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2565) ทางคณะเรากำลังดีใจกับยอดวิวในยูทูบของศิลปินในสังกัดที่ร้องเพลงแล้วมีคนเข้ามาดูล้นหลามจนยอดวิวทะลุ 2 ล้านวิว แต่กลับต้องมาเสียเงิน 2 ล้านกว่าบาทโดยไม่คาดคิด และไม่รู้เรื่องว่าภรรยาจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหว่านล้อมและหลอกให้โอนเงินจำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งเงินส่วนนี้ตนวางแผนจะเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อดินมาถมที่และสร้างกำแพงสถานที่ฝึกซ้อมการแสดงของคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง พร้อมทั้งปรับปรุงห้องพักให้นักแสดงในคณะได้อยู่อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากทราบเรื่องนี้ตนตกใจมากจนตัวสั่น ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว และไม่คิดว่าภรรยาของตนจะโดนแก๊งโจรมาหลอกและโอนเงินให้อย่างสนิทใจ เรื่องนี้จะไม่โทษภรรยา แต่จะถือว่าเป็นบทเรียน ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือให้กำลังใจกันและกัน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบจับกุมแก๊งโจรนี้มาดำเนินคดีเป็นการด่วน เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนคนอื่นต่อได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีบุคคลในวงการบันเทิงและหมอลำ ถามไถ่และส่งกำลังใจให้กับครอบครัวของหนุ่มโจ คณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง อาทิ นายห้างประจักษ์ชัย และแม่นกน้อย
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ