ครอบครัว "หมอกระต่าย" ฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-กทม. หน่วยงานละ 72 ล้าน
จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ซิ่งบิ๊กไบก์ชน แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65
ความคืบหน้าล่าสุด (17 ก.พ. 65) ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล และ นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล พ่อและแม่ของหมอกระต่าย พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ายื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก
นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความกล่าวว่า ในวันนี้ตนได้พาครอบครัวของหมอกระต่าย มายื่นฟ้องคดีละเมิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการฟ้องหน่วยงานต้นสังกัดเป็นจำเลยที่ 1 ส่วน ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก เป็นจำเลยที่ 2 พร้อมเรียกค่าเสียหายการจัดการศพ ค่าเสียหายการเลี้ยงดูที่ครอบครัวเสียไปจากการเสียชีวิตของบุตรสาว เป็นเงิน 72 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด นับตั้งแต่วันที่ถูกละเมิด ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นฟ้องเรียบร้อยแล้ว และทางศาลก็ต้องพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในส่วนนี้ก็ให้เป็นขั้นตอนของศาลต่อไป
นายณัฐพล ระบุด้วยว่า ในวันที่ 20 เม.ย. 65 เวลา 13:00 น. จะมีการนัดคุยประเด็นข้อพิพาทที่ศาลแพ่ง โดยทางจำเลยต้องมาในวันดังกล่าวเช่นกัน
"สำหรับค่าเสียหายที่เรียกไป ได้มีการประเมินจากหลายส่วน ทั้งประเมินตามศักยภาพของหมอกระต่าย ว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ จะสามารถทำงาน ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้เท่าไหร่ การเลี้ยงดูพ่อแม่ หากหมอกระต่ายทำงานจนถึงวัยเกษียณ หรือทำงานหลังจากเกษียณแล้ว จะมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท และจะสามารถจ่ายภาษีให้แก่รัฐได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งการประเมินในครั้งนี้มีนักวิชาการ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยได้ร่วมประเมินด้วย" ทนายความ กล่าว
เมื่อถามว่าหาก ส.ต.ต.นรวิชญ์ ไม่สามารถจ่ายค่าเสียหายตามที่ฟ้องได้ ทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไรนั้น ทนายความ เผยว่า การที่ฟ้องต้นสังกัดถือว่าเป็นหลักประกันด้วย ถ้าศาลพิจารณาให้รับผิดทั้งคู่หรือหน่วยงานใดรับผิด ทางครอบครัวก็จะได้รับเงินค่าเสียหายในส่วนนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมว่า ถ้าหาก ส.ต.ต.นรวิชญ์ ไม่มีกำลังจ่ายค่าเสียหายในครั้งนี้ ทางครอบครัวจะทำอย่างไรต่อไป นายณัฐพล ทนายความ กล่าวว่า แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะไม่มีเงินจ่าย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทางครอบครัวมองว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่
เพราะก่อนเกิดเหตุนั้น ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้ไปรับเอกสารสำคัญที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และทันทีที่ออกมา ก็ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ไกล อีกทั้งวันเวลาที่เกิดเหตุ ก็ยังเป็นวันและเวลาราชการอีกด้วย
นอกจากนี้ ครอบครัวยังพิจารณาเรื่องการจัดการดูแลความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย ซึ่งมีตัวเลขเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่กลับไม่มีการกวดขันหรือแก้ไข เบื้องต้นศาลแพ่งนัดชี้ 2 สถานเพื่อคุยประเด็นข้อพิพาทในวันดังกล่าวข้างต้นที่ตนได้บอกไป จากนั้นศาลจึงจะมีการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
ด้าน นายแพทย์อนิรุทธ์ พ่อของหมอกระต่าย ระบุว่า ไม่ว่าจะเรียกร้องจำนวนเงินมากน้อยเพียงใด ก็ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียลูกสาวได้ ซึ่งตัวเลขที่ประเมินออกมาก็เป็นเพียงแค่เบื้องต้นเท่านั้น แต่ในส่วนของสภาพจิตใจนั้นประเมินไม่ได้ ขณะที่คดีอาญาตอนนี้ให้ทนายความเป็นคนดำเนินการ ปัจจุบันอยู่ในชั้นอัยการ
ในช่วงท้าย นายณัฐพล ทนายความ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งแล้ว ทางครอบครัวก็จะเดินทางไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ยื่นฟ้อง กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานในสังกัด 2 หน่วยงาน คือ สำนักการจราจรและขนส่ง และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เรื่องการปล่อยปละละเลยการจัดให้มีความปลอดภัยในการใช้ทางม้าลายคนข้าม ความเสียหาย 72 ล้านบาท เช่นเดียวกัน