รามเกียรติ์ก็มา! "ประยุทธ์" ยกตนเป็นพระราม เตือนฝ่ายค้านรอดูตอนจบทศกัณฐ์

รามเกียรติ์ก็มา! "ประยุทธ์" ยกตนเป็นพระราม เตือนฝ่ายค้านรอดูตอนจบทศกัณฐ์

รามเกียรติ์ก็มา! "ประยุทธ์" ยกตนเป็นพระราม เตือนฝ่ายค้านรอดูตอนจบทศกัณฐ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ รวมเวลา 30 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2565 นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จี้ นายกฯ ลาออก-ยุบสภา หลังบริหารประเทศไม่มีศักยภาพทำ "แพงจนพังทั้งแผ่นดิน" แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยต่อปัญหา อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจทรุด ประเทศเป็นหนี้, การใช้งบเงินกู้ที่ไม่เหมาะสม, ของแพง ค่าแรงถูก เป็นความผิดพลาดการบริหารต้นทุน ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ที่เกิดจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เป็นภาวะเงินฝืด ราคาเฟ้อ, ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศย่ำแย่ มีการผูกขาดไม่สร้างโอกาสให้ประชาชน ทั้งยังใช้มิติทางการเมืองทำลายล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิ่งที่ชัดเจนคือการลดทอนอำนาจการปกครองตนเองของท้องถิ่น ใช้ฐานอำนาจท้องถิ่นต่อรองเข้าสู่อำนาจ ในทางลงโทษผู้บริหารท้องถิ่น เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ รวมถึงการสร้างธุรกิจการเมือง

ทั้งนี้ จากการสัมผัส พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ภาพขณะนั้นเป็นผู้ชายอบอุ่น เมตตา มีความรับผิดชอบ แต่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไร้ความเมตตา จิตสำนึกความเป็นมนุษย์กับประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้นำ ตอนนี้ตนเองอภิปรายไม่ได้มีอคติ แต่ต้องทำหน้าที่เป็นยักษ์

"ขณะนี้ผมทำหน้าที่เป็นยักษ์ ผมมีโอกาสได้สัมผัสได้พูดคุยกับท่านผมรู้สึก ภาพของท่านในขณะนั้นเป็นผู้ชายที่มีความอบอุ่นมาก รับผิดชอบ เมตตา แต่แปลกมาก เวลาท่านบริหารราชการแผ่นดินกลับไร้ซึ่งความเมตตา ไร้เยื่อใยต่อมนุษยชาติ ไร้จิตสำนึกที่เป็นมนุษยชาติต่อพี่น้องประชาชนคนไทย ด้วยวิธีการอย่างนั้นท่านคือตัวปัญหา เราได้นักบริหารราชการที่เป็นปัญหา จนสร้างปัญหาที่แพงจนพังทั้งแผ่นดิน" ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวทิ้งท้าย

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยกรามเกียรติ์ เปรียบฝ่ายค้านเป็นทศกัณฐ์ ตนพร้อมรับฟังด้วยเหตุผล อะไรที่ต้องนำไปแก้ไขก็จะดำเนินการ รัฐบาลพยายามดำเนินการมาตลอด

"เคยคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกว่าผมเข้ามาในสภาควรวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ ผมเล่นในบทพระราม พระลักษณ์ ฉะนั้น อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องเล่นบททศกัณฐ์ ผมไม่ได้คิดว่าประเทศชาติจะต้องเป็นแบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายที่สุดของเรื่องรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้ายก็รู้อยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ยืนยันรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมจากปี 57 เพราะเข้ามาตามรัฐธรรมนูญปี 60 เข้ามาตามกฎหมายใหม่ มีคนที่อยู่ในอำนาจเดิมเข้า ครม.เพียงไม่กี่คน แต่อีก 32 คนใน ครม. เป็นคนใหม่ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่านโยบายก็ต้องใหม่ทั้งหมด ทุกประเด็นชี้แจงได้หมด ทั้งวัคซีน เศรษฐกิจ โรคระบาด ยาเสพติด ปฏิรูปการเมือง การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะการบริหารที่ส่อทุจริตจนส่งผลต่องบประมาณ อย่าพูดคำนี้กับตนหากไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ ยืนยันตนจะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาดทั้งด้านนโยบายและส่วนตัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายว่า ทุกเรื่อง แพง จน พัง ทั้งแผ่นดินที่ฝ่ายค้านกล่าวมา รัฐบาลรับไว้หมดเพื่อดำเนินการดูแลแก้ไข ต่างคนต่างเล่นคนละบทบาท จะให้ตนเล่นเป็นพระลักษณ์ พระรามก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็นทศกัณฐ์ก็แล้วแต่ ดูหนังดูละครก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ตนก็โดนพวกท่านดูอยู่ ฉะนั้น ต้องดูตัวละครอื่นด้วย มันถึงจะสำเร็จ ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์มาก

ในวรรณคดีรามเกียรติ์ ตอนจบทศกัณฐ์ถูกศรพรหมมาศของพระรามสังหาร ขณะที่กล่องดวงใจที่ฝากไว้กับฤาษีโคบุตร ก็ถูกหนุมานกับองคตล่อลวงมา และก่อนตายทศกัณฐ์ก็ได้เห็นภาพว่าพระรามคือพระนารายณ์อวตาร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook