อึ้ง! "เจ้าคุณแจ๊ค" แจงเหล้าเบียร์-ถุงยางในกุฏิเป็นของศิษย์ รับโยกเงินมาซื้อที่ดิน

อึ้ง! "เจ้าคุณแจ๊ค" แจงเหล้าเบียร์-ถุงยางในกุฏิเป็นของศิษย์ รับโยกเงินมาซื้อที่ดิน

อึ้ง! "เจ้าคุณแจ๊ค" แจงเหล้าเบียร์-ถุงยางในกุฏิเป็นของศิษย์ รับโยกเงินมาซื้อที่ดิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เจ้าคุณแจ๊ค” ยอมรับสนิทสนมกับอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ จริง เผยเป็นคนยักย้ายเงินมาซื้อที่ดิน อ้างเหล้า-เบียร์-ถุงยาง ที่เจอในกุฏิเป็นของลูกศิษย์

วันนี้ (18 ก.พ.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป., นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บก.ปปป., เจ้าหน้าที่ บก.ปอท., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., เจ้าหน้าที่ บก.รฟ. และ เจ้าหน้าที่ บก.ทล. ร่วมกันแถลงข่าว “ปฏิบัติการล้างบาป ปราบอลัชชี” ดำเนินคดีขบวนการทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดิน เสียหายกว่า 110 ล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ บก.ปปป. นำกำลังเข้าตรวจค้น 5 เป้าหมาย ได้แก่ บ้านภรรยา บ้านลูกสาว วัดเขาทุเรียน และที่ดินที่มีการซื้อขาย 2 แปลง โดยสืบเนื่องมาจาก เจ้าคุณแจ๊ค มีการนำเงินที่ได้จากเงินทอนวัดไปซื้อที่ดินให้ นายนพรัตน์ (อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) โดยโอนในชื่อลูกสาวบุญธรรม พร้อมทั้งเรียก เจ้าคุณแจ๊ค มาสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งเรียกเจ้าอาวาสทั้ง 11 วัดในพื้นที่ จ.นครนายก เข้ามาเป็นพยานร่วมด้วย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังไม่พบของกลางที่เกี่ยวข้อง แต่พบสิ่งที่ไม่เหมาะสม อาทิ เหล้า ถุงยาง เบียร์ และเสื้อผ้าเด็ก ซึ่งเมื่อสอบถามเจ้าคุณแจ๊ค ก็อ้างว่า เหล้า มีประชาชนนำมาถวายแก้บน ส่วนถุงยางและเบียร์เป็นของลูกศิษย์ และเสื้อผ้าเด็กที่พบในห้องเป็นเด็กที่นำมาเลี้ยงไว้ โดยอ้างว่าเป็นหลาน

ทางด้าน นายศรชัย กล่าวว่า สำหรับคดีเงินทอนวัดนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งได้มีการจับกุมอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยการจับกุมครั้งนั้นได้มีการขยายผลไปทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้พบมีคดีใน ป.ป.ช. 108 คดี ชี้มูลความผิดแล้ว 42 คดี รวมถึงคดีนี้ด้วย และทำการส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อ

โดยกรณีดังกล่าว พบทรัพย์สินที่มีการซื้อที่ดินและการใช้ในส่วนอื่นมูลค่า 110 ล้านบาท และภาพรวมความเสียหายเกิดขึ้นเยอะมาก โดยถือว่าเป็นสิ่งที่ร่วมมือกัน

นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นของวันนี้ เนื่องจากพบว่ามีที่ดิน ปปง. และยังไม่ถูกสอบสวนตรวจยึดมาก่อน 2 แปลง มูลค่า 8.6 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาขณะนี้อยู่ต่างประเทศ รวมทั้งภรรยา และลูกบุญธรรมซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินด้วย สำหรับกรณีเจ้าคุณแจ๊ค จะแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 117

ทั้งนี้ จากการซักถามเจ้าคุณแจ๊ค ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์โดยระบุว่า สนิทสนมกับนายนพรัตน์ และนายนพรัตน์ไว้วางใจให้เจ้าคุณแจ๊คประสานวัดต่างๆ ในการรับมอบเงินอุดหนุน รวมทั้งการเจรจาเสนอเงินคืนต่อนายนพรัตน์ สำหรับประเด็นการซื้อที่ดินนั้น เจ้าคุณแจ๊ค ระบุว่า ไม่คิดว่าเป็นความผิด แต่ยอมรับว่าเงินทั้งหมดเป็นผู้ดำเนินการยักย้ายถ่ายเทมาซื้อที่ดิน และไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเงิน 110 ล้าน ขณะนี้นำไปใช้กับส่วนใดบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ดิน ซึ่ง นายนพรัตน์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัด และพระสิทธิวรนายก ร่วมกันกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้าน โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน

ด้านเจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า เจ้าคุณแจ๊ค หรือ พระสิทธิวรนายก ได้พาอดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาซื้อที่ดินจากตนในราคา 17.5 ล้านบาท ซึ่งตนได้รับเงินเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้รับเงินในส่วนค่าดูแลรักษา ซึ่งตนดูแลมากว่า 8 ปี ในราคาราว 1 ล้านบาท

โดยที่ดินผืนนี้ ตนยืนยันว่า ซื้อในชื่อ นายนพรัตน์ แต่มีการโอนไปไว้ในชื่อลูกสาวบุญธรรม ซึ่งในวันซื้อได้เดินทางมากับเจ้าคุณแจ๊ค ส่วนการจ่ายเงินค่าที่ดิน เจ้าคุณแจ๊คเป็นผู้เรียกให้ไปรับเงินที่วัดเขาทุเรียน โดยนำเงินสดมาให้เป็นจำนวน 3 ครั้ง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook