ศาลเขมรตัดสินจำคุกวิศวกรไทย7ปี

ศาลเขมรตัดสินจำคุกวิศวกรไทย7ปี

ศาลเขมรตัดสินจำคุกวิศวกรไทย7ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บัวแก้วมั่นใจผล ศาลกัมพูชาตัดสินคดี ศิวรักษ์ ไม่ขยายเป็นปมการเมืองระหว่างประเทศ ด้านแม่วิศวกรไทยเครียดขณะฟังการสืบพยาน ขณะที่ลูกชายมีสีหน้าและกำลังใจดี

(8ธ.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางกระทรวงได้รับแจ้งจาก น.ส.มธุรสพจนา อิทธิรงค์ รองอธิบดีกรมการกงศุล ว่า ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดี"ศิวรักษ์ ชุติพงษ์" วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชากล่าวหา ฐานจารกรรมข้อมูลการบิน ในเวลา 16.30 น.วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาการเบิกความของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกกล่าวหาจารกรรมข้อมูลการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกว่า 1 ชั่วโมง นายศิวรักษ์มีสีหน้าและกำลังใจดีมาก และตอบคำถามชัดเจน ขณะที่ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาที่เข้าฟังการพิจารณาคดีด้วยมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา

โดย การพิจารณาคดี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของอดีตนายกรัฐมนตรี ของศาลกัมพูชา ผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง โดยขณะนี้ศาลได้สืบพยานโจทก์ทั้งสองคนเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสืบพยานตำรวจที่เข้าจับกุมตัวนายศิวรักษ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนกัมพูชาและสื่อมวลชนไทยจำนวนมาก บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีผู้สน ใจเข้าฟังเต็มห้อง ซึ่งนางสิมารักษ์ น้องชาย และเพื่อนร่วมงานของนายศิวรักษ์ เข้าไปให้กำลังใจตั้งแต่เช้า โดยนั่งบนเก้าอี้แถวที่สอง ห่างจาก นายศิวรักษ์ เพียง 2 เมตร และตลอดการพิจารณาคดี นางสิมารักษ์ สีหน้าเคร่งเครียดตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการสืบพยานทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่มีคำพิพากษาออกมา โดยศาลได้เรียกพยานแต่ละคนไปซักถามในประเด็นที่ยังสงสัย

ล่าสุดศาลประเทศกัมพูชาได้อ่านคำตัดสินจำคุกนายศิวรักษ์ 7 ปี ปรับ 1 แสนเรียว

กต.มั่นใจผลคดีไม่ขยายเป็นปมการเมืองระหว่างปท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นเช่นไร และนายศิวรักษ์จะมีความผิดหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีผล หรือขยายวงกว้างไปเป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ถ้ายืนอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล และเรื่องนี้ไม่ใช่คดีของประเทศ พร้อมขออย่าเอาชีวิตของศิวรักษ์เป็นเกมการเมืองระหว่างกัน

ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์นั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ต้องดูว่านายศิวรักษ์มีความผิดเพราะอะไร เป็นความผิดที่แท้จริงหรือถูกปิดบังความผิดที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ และต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคงของกัมพูชาจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังเปลี่ยนทนายความใหม่ กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนข้อมูลให้ แต่ในส่วนของกระทรวงฯยังไม่มีการเตรียมการขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะไม่ทราบกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาว่าเหมือนกับกระบวนการยุติธรรมของ ไทยหรือไม่ แต่กระทรวงการต่างประเทศก็พร้อมให้การช่วยเหลือ และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาตามขั้นตอนต่อไป สำหรับกระแสข่าวที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ร่างหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเตรียมไว้แล้วนั้น ถือเป็นการเตรียมการ แต่ในส่วนของกระทรวงฯยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว

เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศตกเป็นรองพรรคเพื่อไทยหรือไม่ในการ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ นายชวนนท์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างต็มที่ และไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือจากฝ่ายใด แต่ถ้าใครจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องการให้มีความจริงใจ

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกลาโหม กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทยทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม ว่า พรรคเพื่อไทยทำเพื่อการเมืองของพรรคเพื่อไทย แต่ที่พูดขึ้นมาลอยๆ ว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องของคนไทยที่ถูกจับกุมและพยายามช่วยเหลือ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนจะเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามดูแลเรื่องนี้เต็มความสามารถ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้รัฐบาลต้องทำงานตามหน้าที่ แต่เมื่อมีเรื่องของการไปร้องขอพรรคการเมืองที่เป็นพรรคฝ่ายค้านให้เข้ามา ช่วยดูแล ก็เป็นเรื่องของความเป็นแม่พยายามที่จะดูแลทุกอย่างเพื่อให้ลูกของตัวเองพ้น ผิดให้ได้ทุกวิถีทาง เป็นใครคงต้องทำอย่างนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เป็นแม่ด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook