ฤๅสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาชนจีนจะต้องแย่งหมู่เกาะมาร์แชลล์กัน 

หมู่เกาะมาร์แชลล์ หรือ สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ เป็นประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศนาอูรูและประเทศคิริบาส ส่วนทางตะวันออกของประเทศไมโครนีเซีย และอยู่ทางใต้ของเกาะเวกของสหรัฐ

ประกอบด้วย 29 หมู่เกาะ และ 5 เกาะเดี่ยว หมู่เกาะและเกาะเดี่ยวที่สำคัญที่สุดแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ แนวเกาะราตัก (ดวงอาทิตย์ขึ้น) และ แนวเกาะราลิก (ดวงอาทิตย์ตก) รวมพื้นที่ทั้งหมด 181 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 58,413 คน 2 ใน 3 ของประชากรอาศัยในเมืองหลวงมาจูโร และเมืองเอเบเย หมู่เกาะทางด้านนอกมีคนอาศัยอยู่น้อย ภูมิอากาศร้อนชื้น มีฤดูฝนช่วงพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน มีไต้ฝุ่นเป็นครั้งคราว

Lars Baron/Getty Imagesนางสาวฮาลีย์ เนมรา นักกีฬาจากหมู่เกาะมาร์แชลล์ถือธงชาติระหว่างพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2555

หมู่เกาะมาร์แชลล์ตกเป็นอาณานิคมของสเปนเมื่อปี 2417 (ตรงกับต้นสมัยร.5) แล้วเยอรมนีได้ซื้อหมู่เกาะมาร์แชลล์ต่อจากสเปนในปี 2428 จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นจึงเข้ายึดหมู่เกาะมาร์แชลล์ในปี 2457 และเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2463 สภาแห่งสันนิบาตชาติได้อนุมัติอาณัติทะเลใต้ให้ญี่ปุ่นเข้ายึดครองอดีตอาณานิคมของเยอรมนีทั้งหมดในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของเส้นศูนย์สูตร

ในสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐสามารถเข้ายึดครองหมู่เกาะมาร์แชลล์ทั้งหมดได้ เมื่อมีการสถาปนาองค์การสหประชาชาติขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง องค์การสหประชาชาติจึงส่งต่ออย่างเป็นทางการหมู่เกาะมาร์แชลล์พร้อมด้วยหลายๆ กลุ่มเกาะอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในไมโครนีเซียให้กับสหรัฐปกครองดูแลชั่วคราวในปี 2490

ปรากฎว่าสหรัฐทดลองทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่หมู่เกาะมาร์แชลล์ถึง 67 ครั้ง ระหว่างปี 2489-2501 รวมทั้งการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาโดยทำลายเกาะอีลูเกลับในแนวเกาะราตักจนราบเรียบ

เมื่อปี 2499 คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าหมู่เกาะมาร์แชลล์ว่าเป็น "สถานที่ที่มีการปนเปื้อนมากที่สุดในโลก"

AFPภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2495 ที่บันทึกการระเบิดของระเบิดไฮโดรเจนลูกแรกของสหรัฐ เหนือเกาะปะการังเอเนเวตอก ของหมู่เกาะมาร์แชลล์

ในปี 2522 รัฐบาลของหมู่เกาะมาร์แชลล์ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ และประเทศหมู่เกาะมาร์แชลล์ได้ปกครองตนเอง โดยสหรัฐยังให้ความช่วยเหลือและการป้องกันหมู่เกาะมาร์แชลล์นี้ส่วน ขั้นตอนการแยกตัวเป็นอิสระเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในปี 2533 โดยองค์การสหประชาชาติประกาศยุติสถานะภาวะทรัสตีอย่างเป็นทางการและสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ก็ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติอย่างสมบูรณ์ในปี 2534 

ขณะที่ข้อตกลงที่สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์จะอนุญาตให้สหรัฐใช้ที่ตั้งของประเทศหมู่เกาะมาร์แชลล์ในทางการทหารจะสิ้นสุดลงในปีหน้า (2566) การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศนี้หยุดชะงักลงตั้งแต่ปี 2563 เมื่อสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งที่นโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการยับยั้งการขยายอำนาจของสาธารณรัฐประชาชนจีนในภูมิภาคแปซิฟิก เนื่องจากสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ได้เรียกร้องค่าชดเชยเพื่มมากขึ้นจากการที่สหรัฐมาทดลองทิ้งระเบิดนิวเคลียร์บนหมู่เกาะนี้จนกระทั่งหมู่เกาะมาร์แชลล์ เป็นสถานที่ที่มีการปนเปื้อนมากที่สุดในโลกไปแล้ว แต่ทางสหรัฐยืนกรานไม่ยอมจ่ายเพิ่ม

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนก็ไม่แต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้เจรจาเรื่องต่อสัญญาเรื่องการใช้หมู่เกาะมาร์แชลล์ในทางการทหารเสียที ขณะเดียวกันสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แสดงท่าทีอย่างแจ่มชัดว่าสหรัฐควรจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้กับสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์มากกว่าที่เคยปฏิบัติมา 40 ปีแล้ว คือ 57.7 ล้านดอลลาร์ต่อปี ตั้งแต่ปี 2526 – 2556 และเพิ่มขึ้นเป็น 62.7 ล้านดอลลาร์ต่อปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปีสิ้นสุดสัญญาคือปี 2566 

ครับ! สาธารณรัฐประชาชนจีนแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่ายินดีทีจะจ่ายเงินค่าชดเชยตามที่สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์เรียกร้องเพื่อแลกกับการที่ทางหมู่เกาะมาร์แชลล์จะอนุญาตให้สาธารณรัฐประชาชนจีนใช้ดินแดนของหมู่เกาะมาร์แชลล์เพื่อเป็นฐานทัพทางการทหารเหมือนกับที่ทางสหรัฐได้สิทธินี้อยู่ในปัจจุบัน

สนุกแน่ครับ ผู้เขียนว่าสหรัฐคงต้องยอมอ่อนข้อให้กับสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์อย่างแน่นอน คอยดูกันต่อไป