เดือด! "ประยุทธ์" สอนมารยาท "ยุทธพงศ์" ทำตัวแบบนี้เหมือนนักเลงข้างถนน

เดือด! "ประยุทธ์" สอนมารยาท "ยุทธพงศ์" ทำตัวแบบนี้เหมือนนักเลงข้างถนน

เดือด! "ประยุทธ์" สอนมารยาท "ยุทธพงศ์" ทำตัวแบบนี้เหมือนนักเลงข้างถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ประยุทธ์" สอนมารยาท "ยุทธพงศ์" เป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่ทำตัวเหมือนนักเลงข้างถนน แจงเข้าใจคนจนเพราะเคยลำบากมากก่อน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงหลัง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายประเด็นหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจมิชอบส่อเอื้อประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับ BTS ด้วยท่าทีขึงขัง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากคำกล่าวของ ส.ส. เมื่อสักครู่ ตนพยายามฟังทุกอัน เพราะวันนี้เป็นการให้รัฐมนตรีได้มาฟังในเรื่องของคำแนะนำในการปฎิบัติหน้าที่ทุกเรื่อง

"กิริยาที่ท่านแสดงออกมานั้นไม่น่าฟังไม่น่าดูเลย เพราะฉะนั้นกรุณารักษามารยาทด้วย ในการรู้จักให้เกียรติคนอื่นเขา ผมคิดว่าท่านถูกเขาเรียกว่า ส.ส. ผู้ทรงเกียรติแต่ถ้าทำตัวแบบนี้เหมือนนักเลงข้างถนนข้างนอก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ตนขอขอบคุณในเรื่องคำแนะนำต่างๆ โดยเฉพาะข้อห่วงใยของท่านในเรื่องการแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็รับฟังคำแนะนำและข้อปฏิบัติต่างๆ นำไปสู่การหารือเพราะทั้งหมดในเรื่องนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนำผลการพิจารณาต่างๆทั้งร่างสัญญาร่วมลงทุนที่นำมาเสนอคณะรัฐมนตรีนั้นจะได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีรอบคอบและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน และเราต้องคำนึงถึงภาระทางการเงินของรัฐที่จะต้องรับผิดชอบต่อไปด้วย ไม่ได้มุ่งหมายจะไปเอื้อประโยชน์กับใครหรือต้องการจะทิ้งทวนอย่างที่ท่านว่ากรุณาให้เกียรติกันบ้าง ตนไม่เคยไปก้าวล่วงอะไรท่านมากมายอะไรขนาดนี้ในการใช้คำพูดใช้กิริยาที่ไม่เหมาะสม

"สำเนียงสอบภาษากิริยาส่อสกุล" นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายก่อนเข้าสู่การชี้แจงเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อว่า ที่อภิปรายกันว่าตนไม่เคยลำบาก ไม่เคยเป็นหนี้ ชี้แจงว่าตนเคยลำบากมาเหมือนกัน เป็นคนๆ หนึ่งที่เติบโตแบบคนทั่วไป เช่นเดียวกับพวกท่าน เคยเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ต้องทำงานแลกเงินเดือน แบบมนุษย์เงินเดือนคนนึงเหมือนกัน อยู่ท่ามกลางความเสี่ยง ซึ่งก็มีค่าตอบแทนไม่มากนัก ฉะนั้นผมย่อมเข้าใจว่าความยากลำบากเป็นอย่างไร ถ้ามองความยากลำบากเป็นรายคนรายครอบครัวแน่นอน มันต้องมีความแตกต่างกันอยู่ แต่รัฐบาลก็มีความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะทำให้คนเหล่านั้นสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ และมีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าปัญหาที่เกิด เมื่อเกิดก็ต้องแก้ไข เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรออกมาก็ระวังสักนิดนึง และให้เกียรติซึ่งกันและกันบ้าง อย่าพูดในทำนองดูถูกเหยียดหยาม ตนพยายามอดทนอดกลั้นเต็มที่แล้ว

จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นทวงถามนายกรัฐมนตรีว่าตนเพิ่งอภิปรายเรื่องตำรวจ แล้วนายกรัฐมนตรีจะเดินหนีโดยไม่ตอบคำถามจริงๆหรือ? ท่านจะใจดำอำมหิตอย่างนี้จริงๆหรือ? แม้จะเป็นสิทธิ์ของนายกฯ แต่ถ้าให้เกียรติสภาก็ควรจะชี้แจง ถ้าใจดำอำมหิตก็ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงเพื่อให้นายรังสิมันต์ ถอนคำพูด

ด้าน นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานการประชุม จึงให้นายรังสิมันต์ ถอนคำว่า "อำมหิต" แต่นายรังสิมันต์ไม่ถอนคำพูด เนื่องจากเห็นว่าเป็นสิ่งที่เห็นอยู่กับตา เพราะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จึงเดินออกจากห้องประชุมตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook