ระทึกบนโรงพัก สาวจีนชักมีดแทงเจ้าของโรงแรมต่อหน้าร้อยเวร ทะเลาะปมค่าเช่าห้อง

ระทึกบนโรงพัก สาวจีนคลุ้มคลั่งชักมีดแทงหนุ่มไทยเจ้าของโรงแรมต่อหน้าร้อยเวร ทะเลาะปมค่าเช่าห้อง

(19 ก.พ.65) เวลา 14.10 น. วันนี้ เกิดเหตุระทึกขึ้นบนโรงพัก สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่งเกิดควบคุมตัวเองไม่อยู่ ควักมีดพกแทงหนุ่มไทยคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บเลือดพุ่ง ระหว่างนั่งเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเช่าห้องพัก ต่อหน้าต่อตา พ.ต.ท.คนอง คุณารูป พนักงานสอบสวนที่กำลังสอบถามปากคำทั้งคู่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตื่นตกใจให้กับทั้งตำรวจและประชาชนที่พากันไปติดต่อราชการ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวหญิงสาวชาวจีนคนดังกล่าวเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องคุมขัง พร้อมแจ้งให้หน่วยกู้ภัยเข้ามาปฐมพยาบาล โดยพบว่าผู้บาดเจ็บคือ นายวีธรา ถูกคมมีดแทงเข้าที่ต้นแขนด้านซ้ายรวม 3 แผล หน่วยกู้ภัยได้ทำแผลก่อนนำส่งไปตรวจอาการและรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลลานนา

หญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าไปแจ้งความในช่วงเวลาเกิดเหตุ บอกว่า ขณะที่นั่งรอคิว เห็นคู่กรณีเดินเข้าไปนั่งคุยกันที่โต๊ะร้อยเวร จู่ ๆ เห็นผู้หญิงลุกขึ้นทำร้ายคู่กรณีโดยที่ไม่มีเสียงดังทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นบนโรงพักท่ามกลางตำรวจจำนวนมาก

พ.ต.ท.คนอง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุสายตรวจ สภ.ช้างเผือก ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทเรื่องค่าเช่าห้องพัก ที่โรงแรมดิโอเปี้ยม ถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จึงเข้าไประงับเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าคู่กรณีคือนางสาวซู อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้เช่าห้องพัก กับ นายวีธรา เจ้าของโรงแรม ทั้งสองพูดคุยตกลงกันไม่ได้ โดยเจ้าของโรงแรมแจ้งว่านางสาวซูค้างค่าเช่าประมาณ 1 หมื่นบาท จึงแนะนำให้ทั้งคู่ไปเจรจาไกล่เกลียนกันที่โรงพัก

ปรากฏว่าระหว่างที่นั่งเจรจากันอยู่ นางสาวซูอ้างว่าไม่ได้ติดค่าเช่าพร้อมกับเกิดคลุ้มคลั่งชักมีดพกสั้นที่ติดตัวมาฟันไปที่แขนของนายวีธราจนเกิดชุลมุนกันขึ้นดังกล่าว

หลังเกิดเหตุได้ประสานไปยังตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาพูดคุยสอบถามข้อมูลเนื่องจากนางสาวซูใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามาอยู่ประเทศไทยนานกว่า 5 ปี ล่าสุดมาเช่าห้องพักที่โรงแรมดังกล่าวนานเกือบปี โดยนางสาวซูอ้างว่าสงสัยเจ้าของโรงแรมหรือพนักงานโรงแรมแอบใส่ยาพิษในน้ำดื่มหลายครั้ง จนทำให้ระยะหลังเมื่อดื่มน้ำแล้วจะเกิดอาการร้อนวูบวาบ หน้าแดง ส่วนที่ก่อเหตุทำไปโดยไม่รู้ตัว อ้างว่าหวาดระแวงคนรอบข้างจะทำร้าย จึงต้องป้องกันตัวเอง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติดและประเมินสภาพจิต ก่อนจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ