โทรสายด่วน 1330 ทะลุ 45,000 ครั้ง! สปสช.ขอกำลังเสริม-แนะมีอีก 2 ช่องทาง

โทรสายด่วน 1330 ทะลุ 45,000 ครั้ง! สปสช.ขอกำลังเสริม-แนะมีอีก 2 ช่องทาง

โทรสายด่วน 1330 ทะลุ 45,000 ครั้ง! สปสช.ขอกำลังเสริม-แนะมีอีก 2 ช่องทาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชนโทรเข้าสายด่วน 1330 ถล่มทลาย! เมื่อวานนี้ทะลุ 45,000 ครั้ง - สปสช.เร่งเพิ่มเจ้าหน้าที่รับสาย พร้อมประกาศรับจิตอาสาช่วยตอบคำถามผ่านไลน์

วันนี้ (22 ก.พ.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการรักษาผู้ป่วยโควิดยังรักษาตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในอนาคตหากมีการปรับระบบเรื่องการบริการฉุกเฉิน ชี้แจงว่าโควิดเป็นโรคติดต่อที่สามารถรับบริการได้ทุกที่ ซึ่งเป็นนโยบายยกระดับบัตรทอง โดยบริการทั้งหมด ทั้งการดูแลที่บ้านและชุมชน (HI/CI) หรือโรงพยาบาล หรือโรงแรม ระบบจะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายให้

ส่วนกรณีที่ประชาชนไม่สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาในระบบสายด่วน 1330 ได้ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) มีประชาชนติดต่อเข้ามายัง สปสช. สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 45,009 สายในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งปีที่แล้วสถิติสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 20,000 กว่าสายในเดือน ส.ค. 64

ดังนั้น เมื่อวานนี้จึงมีข้อสั่งการเพิ่มเติม ให้เพิ่มเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์อีก 150 คน อย่างไรก็ตาม ในทุกวินาทีจะมีประชาชนรอสายประมาณ 50 สาย จึงขอให้ประชาชนที่ไม่สามารถติดต่อ 1330 ได้ แอดไลน์สปสช. @nhso เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ และส่งข้อมูลว่าติดเชื้อโควิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ และไม่เป็นการเสียเวลาในการรอสาย

“กรณีที่ตรวจ ATK เป็นบวก ให้ติดต่อหน่วยบริการเพื่อเข้ารับการรักษา หรือ 1330 หรือไลน์ หรือเว็บไซต์ของ สปสช. เพื่อจับคู่หน่วยบริการเพื่อการรักษาต่อไป ซึ่งโรงพยาบาลจะจับคู่รับรักษาผู้ป่วยภายใน 6 ชั่วโมง” นพ.จเด็จ กล่าว

ส่วนแนวทางการคัดกรองในเดือน มี.ค. 65 นั้น จะมีการปรับปรุงหน่วยบริการในระบบการคัดกรองเพิ่มเติม และวันที่ 1 มี.ค. 65 จะมีการกระจายชุดตรวจ ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามร้านยาต่างๆ ซึ่งจะมีการสื่อสารในภายหลังต่อไป

นอกจากนี้ สปสช.ยังเปิดรับสมัครจิตอาสาช่วยตอบคำถามผ่านไลน์ สปสช. ช่วยในการตอบแชท Line ช่องทางการสื่อสาร @nhso เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้ทุกคนได้รับการดูแลโดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

โดย สปสช.จะทำการอบรมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานและจิตอาสาที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทราบถึงแนวปฏิบัติและช่องทางการส่งต่อข้อมูลและการประสานหน่วยบริการต่างๆ

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครจิตอาสาช่วยตอบคำถามผ่านไลน์ สปสช. สามารถกรอกข้อมูลรายละเอียดผ่าน link https://forms.gle/TdEwnNHT9PmoLWin6 หรือ แจ้งข้อมูลมาได้ที่ Line @nhso หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6

ขอกำลังเสริมสายด่วน 1330 ช่วยผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าระบบการรักษาที่บ้าน

สปสช.ขอกำลังเสริมคอลเซ็นเตอร์ด่วน หลังจำนวนผู้ป่วยโควิดพุ่งทำสายด่วน 1330 แทบไหม้ มีคนโทรเข้าสูงสุด 49,005 สายในวันจันทร์ที่ 21 ก.พ. จนเกิดปัญหาโทรไม่ติดเพิ่มสูงขึ้น ชี้หากหน่วยงานใดที่มีบริการคอลเซ็นเตอร์และต้องการช่วยเหลือประชาชน สามารถติดต่อเข้ามาได้ทันที พร้อมแนะประชาชนลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation ผ่านไลน์ @nhso หรือ สแกน QR code เพื่อลงทะเบียนด้วยตัวเอง เพื่อเลี่ยงปัญหาโทรเข้าสายด่วน 1330 ไม่ติด

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้ติดเชื้อโทรเข้ามาที่สายด่วน 1330 เพื่อประสานเข้าระบบการดูแลรักษาที่บ้านหรือ Home Isolation หรือขอความช่วยเหลืออื่นๆ รวมประมาณวันละ 20,000 สาย ล่าสุดวานนี้ (21 ก.พ. 65) มีคนโทรเข้าสูงสุด 49,005 สาย ทำให้เกิดปัญหาโทรติดแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย หรือ Abandon Call (มีผู้โทรเข้า 1330 จำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกัน)

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อไปว่า สปสช.ได้แก้ปัญหาในหลายๆ รูปแบบ เช่น การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ Call Center เพิ่มอีก 70 ที่นั่ง การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ติดเชื้อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ Home Isolation ด้วยตัวเองทางเว็บไซต์ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือผ่านไลน์ออฟฟิเชียล @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6

อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้ทุกคนได้รับการดูแลโดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง สปสช.จึงขอเชิญชวนหน่วยงานต่างๆ ที่มีบริการ Call Center เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานของ 1330 ในการรับสายจากประชาชนและประสานเข้าสู่ระบบการดูแลแบบ Home Isolation อีกทางหนึ่ง รวมถึงรับสมัครจิตอาสาช่วยตอบคำถามผ่านไลน์ สปสช. โดย สปสช.จะทำการอบรมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานและจิตอาสาที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทราบถึงแนวปฏิบัติและช่องทางการส่งต่อข้อมูลและการประสานหน่วยบริการต่างๆ

"จุดเด่นของคนไทยอย่างหนึ่งคือเมื่อใดที่เกิดวิกฤติอะไรก็ตาม คนไทยเรารวมพลังช่วยเหลือกันและกันอยู่เสมอ ที่ผ่านมาเราสามารถฝ่าวิกฤติการระบาดของโควิด-19 มาได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชนและจิตอาสากลุ่มต่างๆ และตอนนี้เป็นอีกครั้งที่เราอยากขอรับการสนับสนุน Call Center จากท่าน หากว่าหน่วยงานใดที่มี capacity เพียงพอ และประสงค์จะช่วยเหลือประชาชน ขอเชิญชวนท่านติดต่อเข้ามาที่ สปสช.ได้ทันทีครับ" ทพ.อรรถพร กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า ในระยะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการโทรเข้าสายด่วน 1330 แล้วโทรไม่ติดหรือไม่มีคนรับสาย ขอเชิญชวนให้ใช้ช่องทางอื่นอีก 2 ช่องทาง คือ

  1. ไลน์ออฟฟิเชียล @nhso โดยสามารถ Add friend ที่ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 แล้วในนั้นจะมีเมนูเกี่ยวกับโควิด-19 ให้เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อรับการดูแลแบบ Home Isolation ได้เช่นกัน หรือหากกรอกข้อมูลไม่เป็น ก็สามารถพิมพ์สอบถามแอดมินได้ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. และ
  2. ลงทะเบียนด้วยตัวเองผ่านการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือที่ลิงค์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI จะมีแบบฟอร์มให้กรอกชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ปัจจุบัน โรคประจำตัว น้ำหนัก ส่วนสูง เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว 15-20 นาที ก็สามารถตรวจสอบได้เลยว่าจะมีหน่วยบริการไหนมาเป็นเจ้าภาพรับดูแลทำ Home Isolation ให้

"อยากแนะนำให้ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ก่อน หรือถ้าหา QR code ไม่เจอ ก็เข้าไป @nhso เพื่อกรอกข้อมูล ทั้ง 2 ช่องทางนี้ข้อมูลจะถูกส่งเข้าระบบเช่นกันและมีข้อดีคือไม่ต้องใช้เวลารอนานเหมือนการโทรเข้า 1330 แต่ถ้าหากไม่ถนัดเรื่องเทคโนโลยีก็สามารถโทรเข้า 1330 ได้ตามปกติ และถ้าโทรไม่ติดหรือไม่มีคนรับก็อย่ากังวลครับ เราจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับไปหาท่าน เพียงแต่อาจจะต้องรอสักพักหนึ่ง" ทพ.อรรถพร กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook