ครูสาวเอารถเข้าอู่ทำสี เจ้าของอู่เอาไปชน รถเละเป็นซาก แถมบอกก็อยากเอามาซ่อมเองนี่
ครูสาวที่ จ.อุดรธานีสุดช้ำใจ เอารถเก๋งไปให้อู่เปลี่ยนแบตและทำสีรถ เจ้าของอู่แอบเอาไปไปซิ่ง รถเกิดเสียหลักลงข้างทาง พังเหลือแต่ซาก รอมา 11 เดือนไม่มีอะไรคืบหน้า แถมปัดความรับผิดชอบตลอด เมียเจ้าของอู่บอก "ก็คุณอยากเอารถมาซ่อมที่อู่เอง"
วันนี้ (25 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กของครูสาวคนหนึ่งใน จ.อุดรธานี โพสต์เรื่องราวของตนเอง ที่นำรถไปเปลี่ยนแบตเตอรี่และทำสีรถ แต่เจ้าของอู่ดันแอบเอาไปขับ และเกิดอุบัติเหตุจนรถพังทั้งคัน ผ่านมากว่า 11 เดือน ยังปัดความรับผิดชอบ โดยครูสาวท่านนี้ได้โพสต์ว่า
"11 เดือนกับการถามหาความรับผิดชอบ รถเราสภาพขนาดนี้ ใจเย็นมานานเกินไป เพราะเพียงไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ยอมบอกใคร ใจเขาใจเรา อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิด แต่คุณตอบได้แค่เพียงไม่มีเงิน จะคืนรถให้เรา มันใช่เหรอ เราเอารถไปทำสีนะ ไม่ได้เอารถไปให้คุณทำคว่ำ แต่คุณคือเจ้าของอู่แล้วเอารถเราไปคว่ำในยามวิกาล มันไม่ใช่การลองรถแล้วไหม?? (ตอบมาได้) รอไปตอบในศาลแล้วกัน ได้เสียเยอะกว่าค่าประเมินรถแน่นอน หรือถ้าโดนสั่งปิดอู่ก็คงเป็นเพราะตัวคุณไม่มีความรับผิดชอบเองนะ ไม่ใช่เพราะเรา ฝากไว้ให้คิด"
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.อมรรัตน์ หรือ "ครูปลา" ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยครูปลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.64 ตนเองได้นำรถโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์เงินไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ และทำสีรถที่อู่แห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน เพราะเป็นอู่ที่รู้จักกับเจ้าของร้าน ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ผ่านมา 3 เดือน สีก็ยังไม่เสร็จ แต่พอมาถึงคืนวันที่ 18 เม.ย.64 ได้รับโทรศัพท์จากน้องที่รู้จักว่า รถเก๋งที่ตนเองนำไปทำสีเกิดอุบัติเหตุ บนถนนสาย อ.หนองหาน-บ้านสะแบง เราเห็นครั้งแรกก็ตกใจ เอ๊ะนั่นรถเรา ใครเอาไปใช้ มารู้ทีหลังว่า เจ้าของอู่ขับรถจะไปเยี่ยมแม่ เวลาประมาณ 3 ทุ่มและเกิดเสียหลักลงข้างทาง และรู้เบื้องต้นว่าเขาเมาด้วย วันนั้นเราก็ห่วงน้องเขาอยู่สงสารน้องเขา กลัวน้องเขาได้รับบาดเจ็บหนัก ก็บอกว่าไม่เป็นไร รีบไปดูคนก่อน รถเอาไว้ทีหลัง พอรู้ว่าคนไม่เป็นอะไรมาก ก็เลยมาดูรถ ปรากฏว่าสภาพด้านหน้าพังยับเยิน บริเวณห้องเครื่องดูไม่ได้เลย เละไปหมด หม้อน้ำแตก คานปีกหน้ารถหักไปเลย ก็อยากรู้ทำไมเขาไม่บอก หรือแจ้งเราด้วย ถือวิสาสะอะไรถึงเอารถลูกค้าไปใช้แบบนี้ แล้วพอเกิดอุบัติเหตุบ่ายเบี่ยงมาตลอด ไม่รับผิดชอบ โดยวันนั้นเขาบอกกับคนอื่นอ้างว่าเอารถเอาไปทดสอบ สงสัยว่าทำไมไปทดสอบรถในเวลาสามทุ่ม
ผ่านมาแล้วเกือบปีรถเรายังซ่อมไม่เสร็จ พอติดต่อไปหาเขาเพื่อไปดูรถ แต่ปรากฏว่ารถไม่มีอะไรคืบหน้าเลย รถยังมีสภาพพัง ยังไม่ได้ประกอบอะไรเลย เราก็รอ เราก็ทน จนถึงตอนนี้ 11 เดือนแล้ว เราทนไม่ไหว เราก็บอกเขาว่า เราไม่เอารถคืนแล้ว อยากให้ตีราคาประเมินรถ ให้เขาเอารถไปเลย เพราะเขาซ่อมนานมาก ตอนแรกติดต่อเขาได้ เขาบอกว่าพี่ผมยังไม่มีเงิน และบ่ายเบี่ยงมาตลอดจนถึงวันนี้เราทนไม่ไหว เราก็ใช่ว่าเราจะเอาเงินทันทีเลย เราก็บอกน้องเขาว่า รีบซ่อมแล้วขายรถ ได้ค่อยเอาเงินมาให้พี่ ยื้อเวลามานานเกือบปีและก็ยังบ่ายเบี่ยง และที่น่าเจ็บใจ เพราะภรรยาของเจ้าของอู่มาบอกเราว่า เพราะคุณเอารถไปซ่อมที่อู่เราเองถึงเป็นแบบนี้ อยากให้เขามีจิตสำนึก และมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ติดต่อเขาไปตอนนี้ไม่ได้แล้ว บล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกโทรศัพท์ เราเห็นท่าแล้วไม่ไหวจึงให้ทนายดำเนินการเลย
สุดท้ายๆ จริงๆ ก็อยากให้เขาติดต่อมาไกล่เกลี่ยดีกว่าจะไปขึ้นศาล ก็อยากเป็นอุทาหรณ์ความไว้เนื้อเชื่อใจอู่ซ่อมรถไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อเจ้าของอู่เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แต่ไม่มีใครรับสาย
อัลบั้มภาพ 24 ภาพ