"หนูเล็ก ก่อนบ่าย" เคลียร์ดราม่า! ถูกวิจารณ์ปม ขายของขลังจากช้าง อธิบายเหตุผลละเอียด

โดนผลกระทบจากพิษโควิด-19 แบบเต็มๆ จนทำให้สาวสวยอารมณ์ดี หนูเล็ก-ภัทรวดี ปิ่นทอง หรือ หนูเล็ก ก่อนบ่าย  ต้องผันตัวเป็นแม่ค้าออนไลน์ แถมยังต้องเจอกับดราม่ามาทุกรูปแบบ

ล่าสุดเจ้าได้มีโอกาสเปิดใจในรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา ถึงปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเด็นที่ถูกวิจารณ์หนักมาก อย่างเรื่องการขายของขลังจากช้าง!!!

อยู่ในวงการมากี่ปีแล้ว ?
"ประมาณ 13 ปีได้ค่ะ"

ผันตัวมาขายของออนไลน์ได้อย่างไร ?
"จริงๆ เราขายของตั้งแต่ก่อนเข้าวงการอยู่แล้ว เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราจะไปขายของที่ตลาด พอได้มาประกวด เข้าวงการ เราก็ยังคงขายครีมบำรุงผิวบ้าง ครีมกันแดดบ้าง เราขายหมดทุกอย่าง เรารักการเป็นแม่ค้าอยู่ก่อนแล้ว"

ช่วงโควิด ขายของดีสวนกระแส ยอดขายพุ่ง 40-50 เปอร์เซ็นต์ ?
"ขายดีมากๆ ค่ะ ตื่นเช้ามาอาบน้ำแต่งหน้าก็ไลฟ์สดแล้ว เสร็จแล้วมาไดร์ผม ก็ขายไดร์ผมได้อีก กลับบ้านมาตอนเที่ยงมากินข้าว ก็ขายแกงไตปลาอีก แต่ที่สำคัญคือ เราขายในราคาที่จับต้องได้ ขายในราคาหลักสิบ หลักร้อย ปรากฏว่ามีคนมาบอกว่า ขายแบบนี้เมื่อไหร่จะรวย เชื่อไหมว่ามันทำให้เราสตั้นไป 1 เดือนเต็ม เรารู้สึกว่าท้อ มาถามตัวเองว่า นี่เราขยันผิดที่หรอ คำพูดที่คนเขาบอกเรา มันเป็นคำพูดนิ่มๆ แต่ฟังแล้วมันเจ็บ แทบจะเลิกขายเลยตอนนั้น

แล้วเราก็มานั่งคิดว่า จะขายอะไรให้มันได้เงินเยอะเหมือนคนอื่นเขา ไปคิดหาหนทาง สุดท้ายก็คือมานั่งคุยกับแฟน แล้วสรุปว่าเราทำไม่ได้ เราเป็นแบบนี้ เราอยากทำให้สิ่งที่เป็นทางของเรา เราเป็นคนบ้านๆ แล้วถ้าเกิดจู่ๆ เราไปขายของแพง แล้วใครจะมาซื้อ เราเอาแค่ที่ได้ เพราะว่าที่เราได้อยู่ทุกวันนี้ มันก็ไม่ได้ลำบาก ไม่เดือดร้อนอะไร"

ชีวิตปังจนต่อเติมบ้าน ซื้อรถหรู ?
"ต้องบอกว่า ถ้าหลายคนที่ติดตาม จะรู้ว่าเราทำงานอย่างเดียวไม่มีทางได้ เราต้องทำหลายอย่าง แล้วจะบอกว่า มีคนเข้ามายืมเงินเยอะมาก วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 คน แรกๆ เราก็ช่วยทุกคน เพราะเขาขอแค่ 200 บางคน 50 บาท เล็กๆ น้อยๆ เราก็โอนให้เขาไป แต่พอหลังจากนั้นมันมาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่หน้าที่เรา เราอยากจะบอกว่า เราจะไม่เชื่อแล้ว ต่อไปนี้คุณลองหยุดเล่นโทรศัพท์ ลองหยุดนั่งแชทดู แล้วทำงาน"

ขอเคลียร์ดราม่า หลังโพสต์ภาพ ของขลังจากช้าง ?
"คือเราไปเจอพี่คนหนึ่ง ที่เขาเลี้ยงช้าง ที่จังหวัดสุรินทร์ เขาไลน์มาบอกว่าตกงาน ที่หมู่บ้านช้าง นักท่องเที่ยวเข้าไม่ได้เลย เพราะโควิด ไม่มีเงินที่จะไปซื้ออาหารให้ช้าง เขาก็เลยส่งตะกรุดมาให้เราช่วยขาย แต่เชื่อไหม ตั้งแต่ที่เขาส่งมาแล้วเราโพสต์ขาย อีกวันก็คือละครเข้า 3 เรื่อง

แล้วหลายคนที่บอกว่าไม่เห็นด้วย เราก็ไม่ได้ว่านะคะ แต่เราจะอธิบายกับเขาว่า หางช้างที่เราใส่อยู่ ไม่ว่าจะเป็น กำไลหางช้าง งาช้างต่างๆ ไม่ได้เป็นการทำร้ายสัตว์ ไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ได้ไปทำให้เขาเจ็บปวด แต่มันคือหางช้าง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ผมของเรา แต่ผมของมนุษย์เราคือ ตัดแล้วทิ้ง แต่ช้าง เป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมือง เราจะต้องเก็บ งาช้างไม่ใช่ว่าอยู่ๆ แล้วไปตัดได้

พี่เขาบอกว่า ไม่ได้เป็นงาช้างที่ไปตัดมา แต่เป็นงาช้างที่ช้างตัดของเขาเอง หรือเรียกว่า หลุดเอง เพราะเขาจะไปสีกับต้นไม้ เพื่อเอาออก มันคือธรรมชาติของเขา"

คนที่มาว่ามาแซะเขาว่าอย่างไรบ้าง ?
"ก็ประมาณว่า สงสารสัตว์ใหญ่ ไม่เห็นด้วยต่างๆ นานา เขาคิดว่าเราทำร้ายสัตว์ เพราะคงอาจจะมีแหละที่ไปตัดมา มันก็มีสำหรับคนบางประเภท แต่ของเราคือมาจากหมู่บ้านช้าง ซึ่งเป็นที่ที่รักช้างที่สุดแล้ว เขาจะไม่ทำร้ายช้าง เพื่อที่จะเอาของเหล่านี้มาทำเครื่องรางของขลังออกมาขายแน่นอน"

กำลังใจที่สำคัญที่สุด คืออะไร ?
"ครอบครัวค่ะ คุณเอกสามี ซึ่งคบกันมาประมาณ 13-14 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่เราเข้าวงการเลย"

คุณสามี ดูแลดีประดุจเราเป็นเจ้าหญิง อย่างไรบ้าง ?
"เราโชคดีตรงที่เขาเป็นคนที่ตามใจเรา อย่างเช่น เวลาไปทำงาน ตื่นเช้ามาเขาจะวางกุญแจรถ วางกระเป๋าไว้ให้แล้ว ข้าว น้ำ เตรียมไว้ให้พร้อมหมด เรียกว่าแต่งตัวแล้วออกจากบ้านได้เลย แต่สามีไม่ได้เป็นคนขี้หึง หรือขี้หวงนะ ตั้งแต่คบกันมา อยู่กันมาจนมีลูก เราไม่เคยหึงกันเลย

แต่มันมีอยู่ครั้งหนึ่ง เพิ่งรู้ใจตัวเองว่า เราเป็นคนหึงหรือนี่ วันนั้นหมาเราไม่สบาย แล้วเราก็ตกลงกันว่า เดี๋ยวเราเอาหมาไปโรงพยาบาลเอง แล้วเขาก็ออกไปข้างนอก ปรากฏว่า พอเราขับรถไปจอดที่หน้าโรงพยาบาลหมา เราก็ไปเจอรถของเราอีกคัน ขับเข้ามาจอดพอดี เราก็คิดว่าสามีเนอะ เลยรีบหยิบโทรศัพท์มาถ่าย มันรถฉันนี่นา แล้วป้ายแดงเหมือนกัน เราก็ตกใจมากเพราะว่าผู้หญิงลงมา ถ้าดูคลิปนั้นจะรู้เลยว่า เราสั่นมาก มือสั่น ปากสั่น ใจสั่นแล้ว ปรากฏว่า สักพักมีผู้ชายลงตามมา อ้าว ไม่ใช่สามีเรา แล้วพอสังเกตดูดี อ๋อไม่ใช่รถเราจริงๆ"

พูดถึงโซ่ทองคล้องใจ ลูกชายตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?
"เดือนหน้าก็จะครบ 3 ขวบพอดีค่ะ รักการทานอาหารที่บันไดเหมือนแม่ น้องชอบเอาชามข้าวไปทานตรงบันไดมาก ไม่เว้นแม้แต่ ขนม นม น้ำ ก็ต้องไปทานที่บันได งงมาก ปรากฏว่าเราเพิ่งมาเห็น แฟนเราเขาแคปรูปจากกล้องวงจรปิด เป็นเรานั่งกินข้าวตรงบันได ลูกเห็นเขาก็คงทำตามเรา แล้วเราชอบถ่ายคลิปลูกมาก เพราะเรารู้สึกว่า ลูกของเรามีนิสัยตลก และที่สำคัญก็คือ เขาช่วยเราขายของได้

อย่างล่าสุดเรางงมาก ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ เราไม่เคยสอนเขามาก่อนเลยนะ คือวันนั้น เขาเล่นถูพื้นอยู่ เราก็บอกว่า วินมากินข้าว แม่จะป้อนข้าว เขาก็บอกว่า ไม่เอา ไม่กิน ไม่ชอบ ไม่อยากกินข้าว เราก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลย แล้วบอกว่า รัตนา แล้วเขากลับตอบเราว่า ว่ายังไง เราก็ต่อไปว่า รัตนามากินข้าว เขาก็ตอบ ไม่เอา ไม่กิน เราก็เล่นอีก รัตนา เขาก็ ว่ายังไงล่ะ เห็นไหมล่ะ การที่เราหยิบโทรศัพท์มาถ่ายวิน มันได้ผลมาก คือเขาชอบดูยูทูบ"

ได้ข่าวว่า เราส่งลูกเรียนเร็ว ขวบกว่าๆ ก็ส่งไปแล้ว ?
"การที่ส่งลูกเราไปเร็วขนาดนั้น ก็เคยมีดราม่านะคะ เหมือนมาต่อว่าก็มี ทำไมเธอจิตใจบาป บังคับให้ลูกไปเรียน จริงๆ แล้ว เรื่องนี้มันเกิดจาก มีพี่ข้างบ้าน มีโรงเรียนมาเปิดข้างบ้านด้วย ไปดูกันไหม เขารับเด็กตั้งแต่ 1 ขวบ 5 เดือนด้วย พอไป สรุปว่า วินเขาชอบคุณครู เขาชอบของในโรงเรียน เดินเล่นจนไม่กลับบ้าน แค่ไปดูนะ ก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนั้น คือเราไม่ได้บังคับลูก เขาเล่นเต็มที่มาก เขามีความสุขที่ได้ไป เราก็เลยบอกว่า เราไม่ได้บังคับลูก ก็เลยลองให้เขาเรียน

เชื่อไหมว่า ที่เรียนมา 1 เดือน วินท่องภาษาอังกฤษได้หมดเลย ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 5 เดือน พอผ่านไป 3-4 เดือน เขาสามารถแบบว่า เราถามว่านี่อะไร เขาบอกว่า Dog เขาพูด เขาตอบเราได้หมดเลย เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้หรอก เพราะยังเด็กอยู่ แต่เขาจำคำศัพท์ได้เยอะมาก"

ถ้าอยากติดตามหนูเล็กและครอบครัว สามารถติดตามได้ทางไหนบ้าง
"ติดตามได้ทางยูทูบ GAGA CHANNEL และถ้าอยากซื้อของ สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจ หนูเล็ก ก่อนบ่าย" 

ติดตามทุกประเด็นร้อน เพิ่มเติมความแซ่ด ในรายการ Z Story Z Holiday เม้าท์ให้ Z เหมือนเดิม ในรายการ Z Story Z Holiday ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 -11.00 น.ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : AMARINTV