ดับไฟได้แล้ว! โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนปลอดภัยไม่ระเบิด ไม่พบกัมมันตรังสีรั่วไหล

ดับไฟได้แล้ว! โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนปลอดภัยไม่ระเบิด ไม่พบกัมมันตรังสีรั่วไหล

ดับไฟได้แล้ว! โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนปลอดภัยไม่ระเบิด ไม่พบกัมมันตรังสีรั่วไหล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โอเลกซานเดร์ สตารุกฮ์ หัวหน้าหน่วยทหารแคว้นซาปอริซเซีย เปิดเผยในเฟซบุ๊กถึงกรณี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ในเมืองซาปอริซเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่ถูกเพลิงไหม้หลังถูกกองทัพรัสเซียบุกโจมตี โดยระบุว่า "ตอนนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปลอดภัยแน่นอนแล้ว จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโรงไฟฟ้า ส่วนอาคารฝึกซ้อมและห้องทดลองได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้"

ก่อนหน้านี้ แอนดรี ตุส โฆษกของโรงไฟฟ้าระบุว่า สถานการณ์การปะทะในบริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้สงบลงแล้ว และโรงไฟฟ้าไม่มีความเสียหายที่รุนแรง แม้ว่าจะเหลือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานเพียง 1 ใน 6 เครื่องก็ตาม ในขณะที่ระดับของกัมมันตภาพรังสีอยู่ในสภาวะปกติ

นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า เตาปฏิกรณ์ที่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ในยูเครน ได้รับการป้องกันด้วยระบบโครงสร้างของอาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่แข็งแกร่ง และได้มีการปิดเตาปฏิกรณ์อย่างปลอดภัยแล้ว

นางแกรนโฮล์มโพสต์ทางทวิตเตอร์ว่า เธอได้พูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเครนเกี่ยวกับสถานการณ์ในโรงไฟฟ้า หลังถูกยิงโจมตีระหว่างการสู้รบของกองกำลังรัสเซียและยูเครน โดยนางแกรนโฮล์มกล่าวว่า "เราไม่พบข้อมูลปริมาณสารกัมมันตรังสีที่เพิ่มขึ้นใกล้กับโรงไฟฟ้า"

ทั้งนี้ นายดมิโทร ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองอีเนอร์โกดาร์ของยูเครนเปิดเผยว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย หลังจากกองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้าโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว และได้เกิดการยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่าย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต

ทางด้านนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนได้แสดงความกังวล และระบุว่า "หากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียระเบิด มันจะใหญ่กว่าเชอร์โนบิล 10 เท่า"

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน หลังจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้เกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งส่งผลให้หลายฝ่ายวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย รวมทั้งวิตกว่าปฏิบัติการรุกรานยูเครนภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook