ย้อนไทม์ไลน์สัมภาษณ์ "แม่แตงโม" ตั้งแต่วันแรกที่ลูกตกเรือ จนมาออกโหนกระแส

ย้อนไทม์ไลน์สัมภาษณ์ "แม่แตงโม" ตั้งแต่วันแรกที่ลูกตกเรือ จนมาออกโหนกระแส

ย้อนไทม์ไลน์สัมภาษณ์ "แม่แตงโม" ตั้งแต่วันแรกที่ลูกตกเรือ จนมาออกโหนกระแส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คดีของดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.65 เวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งที่ผ่านมาสังคมยังคงตั้งคำถาม และค้นหาความจริงเบื้องลึกของเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเป็นอุบัติเหตุ ความประมาท หรือจงใจ 

ล่าสุดหลัง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม นิดา มาให้สัมภาษณ์ หนุ่ม กรรชัย ในรายการโหนกระแส ก็เกิดปฏิกิริยาร้อนแรงในโลกออนไลน์ เนื่องจากชาวเน็ตรวมถึงคนที่ติดตามข่าวมาตลอดสัปดาห์ ไม่พอใจกับท่าทีและคำพูดของคุณแม่ จนทำให้แฮชแท็ก #มีแม่เมื่อพร้อม ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ 

ย้อนไทม์ไลน์ ท่าทีและคำสัมภาษณ์ของคุณแม่ตั้งแต่วันแรก

25 ก.พ. 65

เวลา 04.00 น. คุณแม่ของแตงโม ได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณท่าเรือ มาติดตามการค้นหาลูกสาว โดยเผยว่า ตั้งแต่มาที่เกิดเหตุ แม่ยังไม่ได้เจอกลุ่มเพื่อนที่มากับแตงโม ซึ่งคุณแม่บอกว่า อยากเจอเพื่อนมาก อยากรู้ว่าเรื่องราวว่าอะไรเป็นยังไง เพราะแม่ไม่รู้เหตุการณ์จริงๆ โทรหาแตงโมแล้ว ไม่มีคนรับสาย โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย

"ได้ข่าวว่าเรือที่น้องนั่งไปก็หนีไปเเล้ว เจ้าของเรือ เพื่อนฝูง ไม่มีใครบอก แม่เลยสันนิษฐานไม่ถูก ทุกคนก็อยู่ดี แต่ทำไมแตงโมต้องตกไป"

หลังจากนั้นเพื่อนของแตงโมขอให้คุณแม่เดินออกจากบริเวณท่าเรือที่กู้ภัยกำลังค้นหา เดินออกมาเจอกันที่รถสีขาวซึ่งจอดอยู่ไกลออกไป โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้แม่เจอแตงโมเป็นคนแรก ซึ่งในระหว่างพูดคุย แม่ได้ถามคำถามสำคัญหลายอย่าง โดยบทสนทนาที่คุณแม่คุยกับคนในสาย ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็น "ฮิปโป" เพื่อนสนิทแตงโม ระบุว่า

เจอแล้วเหรอคะ ที่ไหนอ่ะ? คุณแม่ถามหน่อยว่าเจอตัวหรือยัง อ๋อ ยัง
แล้วทำไมกระติกซึ่งเป็นผู้จัดการไม่ติดต่อคุณแม่เลย?
มันเกิดอะไรขึ้น คุณแม่ถามจริงๆ ทำไมกระติกไม่ตอบอะไร ไม่ติดต่อคุณแม่เลย คุณแม่รู้จากคนอื่นทั้งนั้นเลย
ที่ไหนคะ (เพื่อนบอกให้คุณแม่ไปหา) อีกไกลไหมคะมันไปด้วยวิธีไหน คุณแม่เดินไปได้ไหม ทำไม ต้องไปไกลๆ ขนาดนั้น เพื่ออะไรคะ?
คุณแม่ว่ามันปิดไม่ได้หรอกนะ ปิดข่าวไม่ได้ แต่ต้องการให้คุณแม่ไปตรงนั้น เพื่อคุณแม่จะได้เจอน้องก่อนคนอื่นใช่ไหมคะ?
กระติกอยู่ตรงนั้นด้วยไหม เหตุเกิดเพราะอะไร รถสีขาวเหรอคะ

26 ก.พ. 65 

คุณแม่ของแตงโม เข้าพบเพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ภายหลังมีเจ้าหน้าที่พบร่างดาราสาว ระบุว่า ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนประเด็น เรื่องไม่มีชูชีพ เรื่องความปลอดภัยเรือ และการว่าจ้าง ตนยังติดใจเรื่องเรือไม่ปลอดภัย และเรื่องการว่าจ้างน้องโมถ่ายแบบในเรือ ใครเป็นคนจ้างเราต้องสืบให้รู้ เพราะน้องโมแต่งตัวสวยมากเป็นชุดไปถ่ายรูป ส่วนตัวแม่ไม่ทราบเลยว่ารู้จักเจ้าของเรือ รู้จักแค่กระติก ผู้จัดการส่วนตัวน้องโมเท่านั้น แต่วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว กระติกไม่เคยโทรติดต่อแม่สักครั้งว่าลูกตกเรือ

“ไม่ว่าขึ้นเรือขึ้นเครื่องบิน ลงเรือต้องบอกกัน ส่วนกรณีที่ไม่บอกแม่ทำให้ไม่สบายใจ ปิดบังอะไร แม้แต่คนในบ้านพี่เลี้ยงโมก็ไม่บอก เปิดเผยเลยก็ได้ว่า ผู้หญิงเป็นเพื่อนเป็นคนแต่งหน้าสนิทกับโม วันนั้นที่ท่าเรือ มีนักข่าวรุมสัมภาษณ์ มีกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้พยายามดึงแม่ออกไป เพื่อให้ไปพบพวกกลุ่มเพื่อนดังกล่าวขอให้แม่ไม่ให้สัมภาษณ์ข่าวใดๆ ทั้งสิ้น แม่ตั้งข้อสังเกตอาจจะมีผู้หญิง ในเรือไม่พอใจก็เป็นไปได้ ผู้ชายแม่ก็ไม่รู้จัก ทั้งนี้ แม่เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้โมนั่งปัสสาวะท้ายเรือ เพราะใส่ส้นสูงโมไม่ทำแบบนี้ เนื่องจากมีข่าวว่าผู้ชายคนหนึ่งจอดเรือ เพื่อเข้าห้องน้ำของเรืออีกลำ ทำไมไม่ให้โมเข้าห้องน้ำด้วย เชื่อว่าโมไม่ได้ตกน้ำธรรมดาอย่างแน่นอน”

ต่อมา เวลา 20.00 น. คุณแม่แตงโม เข้ามาติดต่อพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อขอเอกสารไปเอาทรัพย์สินมีค่าในตัวแตงโม เพราะยังไม่ได้รับทรัพย์สินคืน มีสร้อยจำนวนหลายเส้นและสิ่งของอื่นๆ ยังได้ไม่ครบ 

ส่วนเรื่องบาดแผลของศพ ด้านขาด้านซ้ายเห็นบาดแผลของน้องโมมีรอยเลือดอยู่ เป็นรอยยาวใหญ่มาก และที่หน้ามีเลือดติดอยู่แต่ใบหน้าบาดแผลไม่มี แต่มีบริเวณลูกตาปลิ้นออกมา หน้าตาไม่สมบูรณ์แบบ พอญาติๆ ทุกคนเห็นใจสลาย ตนรับไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้กำลังใจเยอะ ก็ดีใจที่มีคนช่วย ขอบคุณที่เสนอข่าวด้วยความเป็นจริง เพราะตนก็เป็นคนจริงและจะพูดความจริง ไม่ใช่คนโกหก ตนเป็นลูกทหารจะมีความอดทนและมีระเบียบ มีความคุ้นเคยกับผู้สื่อข่าวจึงไม่มีความกลัวกับการสัมภาษณ์ ไม่ได้กลัวเหมือนบางคน ทำไม ผจก.ไม่บอกแม่ว่าน้องตกน้ำ จนเจอศพโมแล้ว ผจก.ก็ยังไม่ติดต่อมา แล้วก็ไม่อยากเปิดเผยว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

ตอนเกิดเหตุมีคนมาสะกิดว่ามีคนสำคัญรออยู่แล้วน้องโมก็รออยู่ด้วยให้เปลี่ยนท่าน้ำคุยเพราะไม่มีคนและให้หนีนักข่าว ซึ่งตนก็ไปไม่เห็นมีใคร มีแค่เพื่อนน้องโม ตอนนี้ตนจะพูดความจริงทั้งหมด เขามาขอว่าคุณแม่ไม่ต้องให้ข่าวได้ไหม และโน้มน้าวจิตใจ ซึ่งตนคิดว่าอะไรจะเกิดก็เกิด ไม่ต้องโกหกกัน และก็เพื่อนน้องโมก็ค่อยๆ หายไปทีละคน เพราะตนสวนไปด้วยคำพูดที่แรง แต่คนที่มาเสี้ยมให้เพื่อนน้องโมมาพูดแบบนี้คือใคร ซึ่งไม่รู้ว่าใครสั่งให้เพื่อนลูกทำแบบนี้ ว่าลูกเราตายทั้งคนจะไม่ให้ข่าวได้ไง 

27 ก.พ. 65

คุณแม่ของแตงโม เปิดเผยว่าหน้าประตูห้องพักของอะพาร์ตเมนต์มีซีดีปริศนาถูกสอดเข้ามาในประตูห้องพัก เป็นซีดีของวงเมทัลลิกา วงฮาร์ดคอร์ชื่อดัง เมื่อหยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียดก็พบว่าภายในปกซีดีซึ่งมีความยาวหลายพับนั้น ถูกเขียนด้วยตัวอักษรลักษณะแปลกประหลาดที่อ่านไม่ออกแทบทุกหน้า เชื่อว่าเป็นการข่มขู่ไม่ให้ตนพูดหรือติดใจเอาความในเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวตน อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พอตนมาเสียลูกสาวไปแล้วพยายามติดตามคดีก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประกันตัวคนขับเรือทั้งสองรายไปนั้น แม้ว่าตนจะได้ไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ แต่ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้คนขับเรือทั้งสองรายประกันตัวออกไปในวงเงินเพียงคนละ 2 แสนบาท

ต่อมา คุณแม่ของแตงโม เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อนำเอกสารมามอบให้กับพนักงานสอบสวนและมาพบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมถึงกรณีการเยียวยา และพูดถกรณีกระติกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ติดต่อแม่ไม่ได้ไม่สนิทกันเป็นไม่ได้ เพราะจ้างลูกแม่ไปหากิน และหากินอยู่ด้วยกัน คุยกันบ่อย เวลามีงานที่ทำด้วยกันเราก็ไปด้วยกัน แม่ยังแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เขาเลยบางงาน และเจอกันบ่อย เวลาน้องโมมีงาน เพราะโมมีงานเยอะ และบางทีก็มีแม่พ่วงไปด้วย ซึ่งครั้งล่าสุดที่เจอกันประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้คุยกัน เมื่อวานไปที่นิติเวช ก็ประชุมงานน้องกับเพื่อนๆ ก็ไม่เห็นมีกระติก และไม่ได้คุยไม่ได้เจอกระติกเลย และมองว่า เขาพูดโกหกทั้งหมด ก็ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจเพราะตำรวจก็ยังมีความสงสัยประเด็นนี้ มันมีเรื่องที่ลึกกว่านั้นที่คุณแม่ยังพูดไม่ได้ เขาไม่ได้มีความจริงใจกับลูกเรา ส่วนการทำร้ายร่างกายโมมีมากกว่านั้น เป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจ  มีบุคคลหนึ่งที่เชื่อถือได้ เขาส่งเอกสารมาให้คุณแม่ดู แต่แม่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่มีความเชื่อถือได้ พอแม่เห็นแม่ก็ตกใจมาก เลยจะนำมาให้ตำรวจดู

วันนั้นเขาบอกแตงโมว่าไปทานข้าวกัน แต่หลังจากทานข้าวบนเรือแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ซึ่งเอกสารที่ได้รับ เป็นข้อความที่เชื่อถือได้ และเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือ เป็นเหตุทำให้น้องโมไม่พอใจ ทำให้มีปัญหากันในเรือ และไปนั่งหน้าบึ้งอยู่ริมเรือ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องราวของการมีปัญหากันในเรือ ซึ่งเชื่อว่าถ้าแตงโมรู้ความจริงว่าต้องไปทำอะไรบนเรือ แตงโมไม่มาแน่นอน โดยจะให้ตำรวจตรวจสอบในประเด็นนี้ข้อความที่แม่ได้รับ เป็นข้อความแรงมาก เป็นข้อความที่มีการคุยกันเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเรือ ซึ่งคนที่ส่งมา เป็นเพื่อนของคนที่อยู่บนเรือที่เขารู้เรื่อง เขาก็ปรารถนาดีส่งมาให้เพื่อนคุณแม่ แล้วเพื่อนคุณแม่ก็ส่งต่อมาให้คุณแม่อีกที ซึ่งเชื่อว่าข้อความนี้เป็นข้อความหลุดมาจากหนึ่งในคนบนเรือที่ไประบายเรื่องราวให้เพื่อนฟัง ซึ่งเป็นผู้ชายในเรือ ข้อเท็จจริง กระติกเขาไม่ยอมพูด แต่ตอนนี้คุณแม่รู้แล้วคืออะไร แต่เขาไม่ยอมรับ มิเช่นนั้นเขาจะหนีหน้าแม่ทำไม นี่ 4 วัน แล้วยังไม่ได้คุยกันเลย 

28 ก.พ. 65

แม่ของแตงโมได้นำบทความที่เขียนโดยบุคคลหนึ่ง ที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ และโทรศัพท์มือถือของแตงโม เครื่องที่ 2 มาให้ตำรวจตรวจสอบ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตของแตงโม โดยส่วนตัวเชื่อว่าถูกลวนลาม แล้วไม่ยินยอมจึงพลัดตกเรือ ไม่ใช่การไปปัสสาวะตามคำกล่าวอ้างของบุคคลในเรือ

ส่วนกรณีที่บุคคลในเรือทั้ง 4 คน ไปออกรายการโทรทัศน์ ยอมรับว่ายังไม่ได้ดู และไม่ทราบรายละเอียด ถึงแม้ว่าจะมีการขอโทษและจะขอดูแลครอบครัวแทนแตงโมผ่านรายการ นางพนิดา กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องปรึกษากับตำรวจก่อนว่าจะเกี่ยวข้องกับรูปคดีหรือไม่ ยังคงติดใจกับคำกล่าวอ้างของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเรือ

ขณะที่ นายปอ เจ้าของเรือที่นำคลิปวิดีโอ ไปเผยแพร่ในรายการ และบอกว่าแตงโมมีความสุขดี ซึ่งคุณแม่เห็นแล้วยังไม่เชื่อ เนื่องจากได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ก่อนที่จะตกน้ำ พบว่ามีอาการเศร้าอย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่เสื้อของนายจ๊อบ บุคคลในเรือที่พบว่าขาด ก็ยังติดใจ ถึงแม้จะชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับการตกน้ำของแตงโมก็ตาม

คุณแม่ของคุณแตงโม ยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับติดต่อจากบุคคลในเรือ มีการส่งข้อความไลน์มาแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน และยังไม่พร้อมพบเจอทั้ง 5 คนในช่วงนี้ รวมทั้งยังไม่ขอไปออกรายการโทรทัศน์ใดๆ เนื่องจากยังมีสภาพจิตใจที่ยังไม่พร้อม

1 มี.ค. 65

ไฮโซปอ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ได้เข้ามาขอขมา แม่ของแตงโม นิดา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยมี น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท หรือ โรเบิร์ต ร่วมด้วย โดยหลังจากคุณแม่ได้ขอสอบถามกระติกด้วยตนเอง และมีการโต้เถียงกันเป็นเวลากว่า 12 นาที คุณแม่ของแตงโมได้บอกว่าตนรับการขอโทษจากไฮโซปอและโรเบิร์ต แต่ยังไม่ขอให้อภัยกระติก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด และพิสูจน์ได้ว่ากระติกไม่ได้ทำผิด

4 มี.ค. 65

นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของ แตงโม นิดา มาร่วมพูดคุยในรายการโหนกระแส เรื่องประเด็นการเสียชีวิตของลูกสาว ซึ่งในรายการ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรของรายการ ได้ถามคุณแม่ถึงประเด็นกลุ่มเพื่อนๆ ของแตงโม ซึ่งก่อนหน้านี้แม่เคยเปิดเผยว่า ไม่พอใจ "ฮิปโป ฉันท์ชนะ" เพื่อนของแตงโม โดย คุณแม่เผยว่า แม่ได้พูดคุยกับฮิปโปในเรื่องนี้แล้ว และก็ยกโทษให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือแม่ยังรู้สึกแปลกๆ ทั้งกับฮิปโป แอนนา และกลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มนี้ของแตงโม เพราะเขาไม่เคยมาคุยอะไรกับคุณแม่มากนัก แต่ยังคอยไปให้ข่าวเกี่ยวกับแตงโมโดยไม่ได้มาปรึกษาคุณแม่ก่อน โดยเฉพาะเรื่องพิธีศพของแตงโม ที่คุณแม่ได้วางแผนร่วมกับโบสถ์ไปเรียบร้อย เตรียมตัวจัดงานไว้หมด แต่เขากลับไปให้ข่าวว่าจะเปลี่ยนที่จัดงาน ทั้งที่ไม่ได้มาปรึกษาคุณแม่เลย

ส่วนกรณีของ ไฮโซปอ และ โรเบิร์ต ที่มากราบเท้าขอขมา และสัญญาว่าจะดูแลคุณแม่เหมือนลูกของคุณแม่คนหนึ่ง แม่ยกโทษให้ทั้งสองคนไปแล้ว ด้วยความจริงใจของปอ เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ปอโทรมาขอโทษตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ เขาสม่ำเสมอ แม่มองว่าเขาจริงใจตรงนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook