อนันต์ อัศวโภคิน ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย

ด้าน มาลีนนท์  รั้งเบอร์ 1 ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 11 ปี ล้มแชมป์เก่า ชินวัตร ที่ขยับจากอันดับ 48 มาอยู่ที่ 38

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วารสารการเงินธนาคาร ได้ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นปีที่ 16 โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นในปี 52 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 ก.ย.52 จำนวน 5,095 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 454,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 51 ถึง 56,559 ล้านบาท หรือ 14.21%

ทั้งนี้ จากภาวะหุ้นไทยที่เริ่มฟื้นตัว โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 30 ก.ย. 52 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณมูลค่าการถือครองหุ้นของบรรดาเศรษฐีหุ้นประจำปี 52 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 120.13 จุด จากปี 51 โดยปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 717.07 จุด เพิ่มขึ้น 20.12%% ส่งผลให้ความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 56,000 ล้านบาท

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธ.ค. 52 พบว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 52 ยังตกอยู่ในความครอบครองของ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บิ๊กบอสแห่งวงการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 15,967.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,309.90 ล้านบาท หรือ 8.94% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 23.76% และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล 1.67% ส่งผลให้นายอนันต์ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ซึ่งเป็นสถิติการครองแชมป์สูงสุดในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย

เช่นเดียวกันกับ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ แห่งบริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท ที่ยังรักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 15,830.43 ล้านบาท จากการถือหุ้นพฤกษาเรียลเอสเตท ในสัดส่วน 61.60% ซึ่งรวยเพิ่มขึ้น 6,231.27 ล้านบาท หรือ 64.91% ส่วนนักลงทุนรายใหญ่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาท นายสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ แห่งบริษัท โอสถสภา ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ในปีนี้ หลังจากที่ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 10 ในปี 49 มาอยู่อันดับ 9 เมื่อปี 50 และอันดับ 5 ในปี 51 โดยปีนี้นิติลงทุนในหุ้นทั้งหมด 15 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 5,733.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,361.09 ล้านบาท หรือ 31.13%

ขณะที่เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ยังเป็นของ นายประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 โดยถือครองหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ 11.42% มูลค่ารวม 5,161.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296.92 ล้านบาท หรือ 6.10% ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 15 เมื่อปีที่แล้ว คือ นาย วิโรจน์ ธนาลงกรณ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อชั้นในยี่ห้อ ซาบีนา โดยถือครองหุ้น บมจ. ซาบีน่า 74.59% มูลค่ารวม 4,380.60 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 1,218.27 ล้านบาท หรือ 38.52% อันดับ 6 เป็นเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาติดทำเนียบปีนี้เป็นครั้งแรก คือ นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ เจ้าของสยามแก๊ส หรือที่คุ้นเคยกันในนาม "เถ้าแก่โบ๊เบ๊" ที่นำ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 51 ที่ผ่านมา โดย นายวรวิทย์ ถือหุ้นสยามแก๊สฯ 54.13% รวมมูลค่า 4,319.70 ล้านบาท

ด้าน อากู๋ แกรมมี่ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก้าวขึ้นจากอันดับ 8 มาอยู่ในอันดับ 7 โดยรวยขึ้น 779.19 ล้านบาท หรือ 22.10% มูลค่าหุ้นที่ถือครอง 4,304.94 ล้านบาท ตามด้วยนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ แห่งบางกอกแอร์เวย์ส ที่ปีนี้หล่นจากอันดับ 3 ไปอยู่อันดับ 8 โดยถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ 13.52% และ บมจ.โรงพยาบาล นนทเวช 0.79% รวมมูลค่า 4,240.75 ล้านบาท รวยลดลง 870.46 ล้านบาท หรือ 17.03%

ขณะที่ นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน บิ๊กบอส บมจ. เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 9 จากปีที่แล้วที่อยู่ในอันดับ 16 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 3,680.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 971.07 ล้านบาท หรือ 35.84% ส่วนนายประชุม มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 หล่นจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้วมาอยู่อันดับ 10 ในปีนี้ โดยถือครองหุ้นรวม 3,598.31 บ้านบาท เพิ่มขึ้น 208.31 ล้านบาท หรือ 6.14%

สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 52 ที่ถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดถึง 25,870.11 ล้านบาท คือ ตระกูลมาลีนนท์ โดยครองตำแหน่งแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยสูงสุดถึง 11 ปี ซึ่งในปีนี้ตระกูลมาลีนนท์มีความมั่งคั่งจากมูลค่าหุ้นที่ถือครองเพิ่มขึ้น 1,443.18 ล้านบาท หรือ 5.91% อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตระกูลมาลีนนท์ นำ บมจ.บีอีซี เวิล์ด เจ้าของไทยทีวีสี ช่อง 3 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 39 ส่งผลให้อีก 1 ปีต่อมาคือในปี 40 ตระกูลมาลีนนท์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยที่มั่งคั่งมากที่สุด ล้มแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 3 ปีซ้อน (ปี 37-39) อย่าง ตระกูลชินวัตร ลงได้ จากนั้น ตระกูลมาลีนนท์ ก็ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเรื่อยมาเป็นเวลาถึง 7 ปี คือ ปี 40-46 ก่อนที่จะเสียตำแหน่งกลับคืนไปให้ ตระกูลชินวัตร เป็นเวลา 2 ปี คือ ปี 47- 48 และในที่สุดก็สามารถทวงแชมป์คืนมาได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 49 มาจนถึงปี 52 ในปัจจุบัน

ด้านตระกูลชินวัตรของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ก้าวขึ้นจากอันดับ 48 มาอยู่อันดับ 38 ในปีนี้ โดยรวยขึ้น 588.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43% ซึ่งคงเหลือแค่ลูกสาวคนโต น.ส.พิณทองทา ชินวัตร (เอม) และลูกสาวคนสุดท้อง น.ส. แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) เท่านั้นที่ยังคงติดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย โดยน้องสาว แพทองธาร อยู่ในอันดับ 78 ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท 29.13% มูลค่า 981.72 ล้านบาท และพี่สาว พิณทองทา อยู่ในอันดับ 79 ถือหุ้นบมจ.เอสซีฯ 28.97% มูลค่า 976.40 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ 2 สาวถือครองทั้งสิ้น 1,958.12 ล้านบาท

ส่วน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 680 ถือหุ้นบมจ.เอสซีฯ 2.88% และ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี 0.53% รวมมูลค่า 107.94 ล้านบาท ขณะที่พี่ชาย นายบรรพจน์ ดามาพงศ์ ก้าวขึ้นเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับที่ 15 จากอันดับ 20 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 3,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,039.68 ล้านบาท หรือ 41.53% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.เอสซีฯ 4.95% มูลค่า 166.95 ล้านบาท บมจ.ธนาคารกสิกรไทย 1.21% มูลค่า 2,384.25 ล้านบาท และ บมจ.ทุนธนชาต มูลค่า 991.80 ล้านบาท.