ไม่เชิญก็จะมา "สันธนะ" บุกโรงพักเมืองนนท์ ยันคนมีสีระดับบิ๊กเอี่ยวคดีแตงโม
ไม่เชิญก็จะมา "สันธนะ" บุกโรงพักเมืองนนท์ เข้าพบพนักงานสอบสวนในฐานะพยานบอกเล่า ยันคดีแตงโมคนมีสีระดับบิ๊กเอี่ยว
(5 มี.ค.65) เมื่อเวลา 16.00 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ รองต่อ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปร่วมไว้อาลัย แตงโม นิดา ที่โป๊ะท่าเรือพิบูลสงคราม 1
นายสันธนะ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนเองเดินทางมาในฐานะพยานบอกเล่าเพื่อนำข้อมูลที่ตนเองได้รับมาคนใกล้ชิดในกลุ่มคนที่บนเรือทั้ง 5 คน ที่มีการพูดคุยถึงเหตุการณ์บนเรือที่เกิดขึ้น คดีนี้มีการทำลายหลักฐานที่สำคัญด้วย ตนรู้ดีเพราะเคยมีอาชีพเดียวกัน ตนไม่เชื่อว่าการตกจากเรือของน้องแตงโมมาจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะประเด็นฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนมีสีนั้น ตนได้สื่อสารออกไปแล้วแต่ทางตำรวจเลือกที่จะเงียบไม่ออกมาชี้แจงใดๆ การเลือกที่จะเงียบเท่ากับยอมรับ ทั้งๆ ที่ตนทำหน้าที่ถามแทนประชาชน
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ตนไม่แปลกใจที่ทำไมตำรวจถึงรีบสรุปสำนวนในคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุมาจากความประมาท เพราะจากข้อมูลที่ตนได้รับมานั้นคนที่เหลืออยู่บนเรือทั้ง 5 คน จะต้องร่วมกันรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด ทำให้ทุกคนต้องให้การไปแบบนั้นจะแตกคอกันไม่ได้เลย
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าน้องแตงโมซึ่งตอนอยู่บนเรือนั้นเป็นผู้ถูกกระทำถูกบีบคั้นให้อยู่ในสภาพกดดันจากคนบนเรือ ทำให้ต้องกระโดดน้ำเพื่อหลบหนีจากเหตุการณ์บนเรือหรือไม่ก็การกระทำบางอย่าง ที่มีเจตนาจะทำให้น้องตกน้ำไปเพราะประสงค์กับชีวิต โดยเกี่ยวข้องกับบิ๊กคนมีสีคนหนึ่ง ซึ่งถ้าวันจันทร์นี้ทางพนักงานสอบสวนยินยอมให้ตนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยานบอกเล่า ตนก็ยินดีจะนำข้อมูลที่ได้รับมาส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากถ้าไม่รับหลักฐานที่ตนมีแล้ววันหนึ่งต่อมาความจริงถูกเปิดเผยว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีจะต้องรับผิดชอบตามมาตรา 157 ไปด้วย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับนายสันธนะ ไว้เป็นพยานบอกเล่า และนัดเข้าสอบปากคำในวันที่ 7 มี.ค.65 เวลา 13.00 น. สำหรับวันนี้นายสันธนะก่อนเดินทางมา สภ.นนทบุรี ได้เดินทางไปที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 เพื่อดูสภาพจุดพบศพและดูจุดวางดอกไม้ไว้อาลัย