สามีร่ำไห้ เตรียมเผาภรรยาสุดรัก จนท.รพ.โร่ห้าม เหตุเพราะส่งศพสลับกัน (คลิป)

สามีร่ำไห้ เตรียมเผาภรรยาสุดรัก จนท.รพ.โร่ห้าม เหตุเพราะส่งศพสลับกัน 

5 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อครอบครัวของ น.ส.การย์สิริ อายุ 55 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากรักษาตัวจากโรคมะเร็ง และเป็นโควิด จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ภายหลังครอบครัวไปรับศพเพื่อนำมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่ วัดหนังราชวรวิหาร แขวงบางคอ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร แต่ขณะนำร่างใส่โลงที่เตรียมมาพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ เข้าสู่เตาเผา และกำลังจะฌาปนกิจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติมิตร กลับมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาห้ามไม่ให้เผาศพ พร้อมระบุว่ามีการสลับศพเกิดขึ้น และให้นำศพใหม่มาฌาปนกิจแทน

ด้านนายปิติภัทร สามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนไปรับศพภรรยาเมือประมาณ 12.00 น. ที่รพ.แห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งเตรียมรถและโลงไปเอง เมื่อขึ้นไปรับเห็นร่างใส่ถุงซีลแพ็ค 3 ชั้น เพราะเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด ตรวจสอบไม่พบป้ายชื่อ ก็ย้ำกับเจ้าหน้าที่รพ.แล้วว่าศพนี้เป็นศพของภรรยาตนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าใช่ จึงนำร่างมาทำพิธีที่วัด

นายปิติภัทร กล่าวต่อว่า แต่ขณะที่นำโลงเข้าสู่เตาเผา ญาติพี่น้องที่มาร่วมงานด้วยความโศกเศร้า ก็มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข้ามาหยุดการเผาศพ ระบุว่าหยิบศพให้ผิด โดยที่รู้เพราะว่าญาติของอีกฝั่งมารับแล้วหาร่างไม่เจอ ทำให้เชื่อว่าถูกหยิบสลับกัน ซึ่งเมื่อมาถึงตนก็ยืนยันว่ายังไงก็ต้องเปิดถุงซีลออกมาให้เห็น ไม่เช่นนั้นหากผิดพลาดอีกจะทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ยอม เมื่อรู้ว่าเป็นภรรยาตนจริง จึงได้ดำเนินพิธีศพต่อไป

“เรื่องอย่างนี้กระทบกระเทือนจิตใจตนและครอบครัวมาก หากเจ้าหน้าที่มาไม่ทัน เผาไปแล้วจะทำอย่างไร ข้าวของเครื่องใช้ก็เตรียมไว้ในโลง ต้องมาสับเปลี่ยนกัน ชุลมุนไปหมด อีกทั้งยังต้องเปิดถุงซีลมาพิสูจน์ว่าใช่ศพภรรยาจริงหรือไม่ ทั้งที่เป็นผู้ป่วยโควิด ก็สุ่มเสี่ยงกันไปอีก จึงอยากเรียกร้องทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไม่สะเพร่า และปล่อยให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้อีก” นายปิติภัทร กล่าว