"สันธนะ" ฟันธง! คดีแตงโมคือฆาตกรรม 100% ดูออกเพราะเคยเป็นตำรวจมาก่อน

"สันธนะ" ฟันธง! คดีแตงโมคือฆาตกรรม 100% ดูออกเพราะเคยเป็นตำรวจมาก่อน

"สันธนะ" ฟันธง! คดีแตงโมคือฆาตกรรม 100% ดูออกเพราะเคยเป็นตำรวจมาก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“สันธนะ” ลั่นคดีแตงโมคือการฆาตกรรม 100% เผยดูออกเพราะเคยเป็นตำรวจมาก่อน ที่มาให้ปากคำไม่ใช่เพราะหิวแสง

วันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 13.00 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี คดีนักแสดงสาว “แตงโม นิดา” หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตนมาวันนี้เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแตงโมเป็นเหตุน่าสลด จึงเกิดความเห็นใจ ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว และแม้จากไปก็ยังถูกกระทำ ซึ่งตนไม่ได้มาเพราะหิวแสง หาผลประโยชน์ หรือประเด็นการเมืองแต่อย่างใด และไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่น

สำหรับกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ไม่ให้เชื่อถือคำพูดตนมากนักนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่านายอัจฉริยะไม่พอใจตนเรื่องอะไร แต่อยากฝากบอกว่า “ไม่ใช่เพื่อนเล่น” อย่ามาทัก อย่ามาคุย โดยเฉพาะคดีของแตงโม หากนายอัจฉริยะมีข้อมูล ให้มาติดต่อเข้าพบตำรวจเหมือนอย่างตน

ส่วนประเด็นที่ตนเป็นปฏิปักษ์กับ ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ยืนยันว่าแยกแยะได้ ซึ่งแตงโมไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นปฏิปักษ์นี้ ที่มาดำเนินการนี้ไม่ใช่เพราะเหตุดังกล่าว ขอให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ทำคดีนี้ให้เข้มข้นเหมือนคดีตลาดใหม่ดอนเมืองด้วย

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ตนตามบ้างไม่ตามบ้าง แต่น้ำหนักในคดีมีอยู่ โดยล่าสุดที่ชาวโซเชียลช่วยกันหาหลักฐาน ตนเชื่อว่าหากช่วยกัน คดีนี้ต้องหาตัวคนผิดได้ และขอยืนยันว่าคดีดังกล่าวเป็นการฆาตกรรมแน่นอน

สำหรับหลักฐานที่ตนนำมาวันนี้นั้น มีคนทำงานร่วมกันมาด้วย 10 คน เมื่อพบพนักงานสอบสวน ตนจะซักถามเจ้าหน้าที่ในประเด็นต่างๆ ก่อน และจะประเมินว่าตนควรให้หรือไม่ แต่ขอยังไม่ระบุว่าเป็นหลักฐานชนิดใด ส่วนประเด็นการตกเรือของแตงโมนั้น ตนยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะปัสสาวะท้ายเรือแล้วพลัดตก เพราะบาดแผลร่องรอยของแตงโมโหดร้ายมาก

ส่วนเรื่องบิ๊กเบื้องหลังที่มีการบอกกับตำรวจ หากพูดไปตนอาจต้องแตะเบรก เพราะบุคคลดังกล่าวมีตำแหน่งใหญ่โต และตนไม่เชื่อในกระบวนการสืบสวนสอบสวนด้วย อีกทั้งการที่โลกโซเชียลเปิดวาร์ปบิ๊กเบื้องหลังเรื่องนี้นั้น ตนเกรงว่าถ้าหากบุคคลนั้นไม่ใช่ หากไปพาดพิงจะเกิดความเสียหาย แต่หากใช่จริงจะเสียรูปคดี

ทั้งนี้ ตนยังไม่ระบุตัวพยานบุคคลที่มาบอกให้ตนฟัง และวันนี้พาพยานมาไม่ได้ อย่ามองว่าตนมีลูกเล่น แต่เพื่อรักษาความปลอดภัยของพยาน เพราะพยานไม่ไว้ใจและไม่เชื่อถือตำรวจ อย่างไรก็ตาม พยานที่บอกเล่าให้ตนฟังนั้นไม่ได้รับรู้เรื่องราวมาจาก 5 คนโดยตรง ตนอยากคุยกับ 5 คนบนเรือ แต่เกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาว่าตนเข้าไปข่มขู่ ตนขอยืนยันว่าคดีนี้เป็นฆาตกรรม 100% เพราะตนเคยเป็นตำรวจมาก่อน ตนดูออก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook