รอง ผบช.ภ.1 ยันไม่ได้บอกว่า 2 คนบนเรือใช้ยาเสพติด พิธีกรทีวีถามนำ-สรุปเอง
รอง ผบช.ภ.1 ยัน ไม่ได้พูดในรายการโทรทัศน์ ว่ามี 2 คนบนเรือใช้สารเสพติด แต่พิธีกรสรุปเอง ขณะที่ "แซน" เข้าให้ปากคำแล้ว แต่ยังยืนยันคำเดิม "แตงโม" ปัสสาวะท้ายเรือ ส่วนผลค้นบ้าน "จ๊อบ" มีแอลกอฮอล์หลายขวด สอดคล้องกับบนเรือ ล่าสุด เลื่อนเวลาแถลง หลัง ผบ.ตร.เรียกประชุมชุดทำงานด่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ในฐานะโฆษกคดีแตงโม เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" นางสาวนิดา พัชระวีรพงษ์ ดาราชื่อดัง โดยระบุว่า จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปผลการสอบปากคำ 5 คนบนเรือ มีการใช้สารเสพติด 2 คน นั้น ซึ่งในการออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเมื่อช่วงเช้า เป็นการตั้งคำถามนำของพิธีกร ซึ่งตนได้อธิบายกระบวนการตรวจสอบ ไม่ได้พูดว่า 2 ใน 5 คนบนเรือใช้สารเสพติด จึงคิดว่าเป็นการสรุปของพิธีกรที่ตั้งคำถามนำเอง พร้อมกล่าวอีกว่า การดื่มบนเรือมันมีอยู่แล้ว แต่จะดื่มมากดื่มน้อยอยู่ที่ผลการตรวจสอบ แต่มีคนให้การว่าดื่มสุราบนเรือ
ส่วนการให้ปากคำเพิ่มเติมของ แซน หรือ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยังให้การเหมือนเดิม สอดคล้องกับคำให้การครั้งที่ 2 และ 3 ขณะที่หลังจากตำรวจได้ข้อมูลมาเพิ่มเติมก็ถามพยานไป เพื่อให้ดูว่าจะสอดรับกับข้อหา ตำรวจกำลังจะดู แต่ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม แซน ยังยืนยันว่า แตงโม ไปปัสสาวะท้ายเรือ
สำหรับ กระติก หรือ นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ นั้น ตำรวจเรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกรอบ หลังจากที่สอบปากคำไปก่อนหน้า และนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ ที่มาให้ปากคำหลังจากตำรวจไปค้นบ้านเพื่อหาเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หลังจากที่พบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์บนเรือ จ๊อบ เป็นผู้จัดหา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ตรวจค้น ต้องเอาไปพิสูจน์ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีของแตงโมหรือไม่
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นพบว่า มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายขวดที่สอดคล้องกับบนเรือลำที่เกิดเหตุ ทั้งเหล้า ไวน์ แชมเปญ ส่วนจะตรงกับยี่ห้อที่พบบนเรือหรือไม่ ต้องส่งตรวจพิสูจน์ว่ามีลายนิ้วมือแฝงบนเรือหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับคนบนเรือบ้าง
อีก 2-3 วัน รอลุ้นผลชันสูตรอย่างละเอียด
พล.ต.ต.อุดร ยังเปิดเผยความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า วันนี้มีการส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อบริเวณบาดแผลที่ขา และจุดอื่นๆ ไปให้โรงพยาบาลศิริราชช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากโรงพยาบาลศิริราชมีอุปกรณ์ที่สามารถตรวจหาได้ว่าบาดแผลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเสียชีวิต และเกิดขึ้นจากวัตถุชนิดใด จึงต้องใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษและผู้เชี่ยวชาญของทางโรงพยาบาล เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากแต่จำเป็นต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน และผลการชันสูตรศพอย่างละเอียดจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งโรงพยาบาลศิริราช คาดว่าอีกประมาณ 2-3 วัน ผลอย่างเป็นทางการน่าจะเสร็จสิ้น
สำหรับการแถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทีมโฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จำเป็นต้องยกเลิก เนื่องจากมีการเรียกประชุมด่วนสรุปคดีดังกล่าวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คาดว่าจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น.