พิษรักรุ่นใหญ่ ลุงวัย 63 ยิงอดีตแฟนสาวใหญ่ดับพร้อมเพื่อน ไม่สนเสียงร้องขอชีวิต

พิษรักรุ่นใหญ่ ลุงวัย 63 ยิงอดีตแฟนสาวใหญ่ดับพร้อมเพื่อน ไม่สนเสียงร้องขอชีวิต

พิษรักรุ่นใหญ่ ลุงวัย 63 ยิงอดีตแฟนสาวใหญ่ดับพร้อมเพื่อน ไม่สนเสียงร้องขอชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พิษรักรุ่นใหญ่ ลุงวัย 63 ยิงอดีตแฟนสาวใหญ่ดับพร้อมเพื่อน 2 ศพคาวงเหล้า ไม่สนเสียงร้องขอชีวิต อีก 2 คนวิ่งหนีตายไปซ่อนตัวถึงรอด

เมื่อเวลา 02.20น. ร.ต.ท.พิสิษฐ์  จองจารูวงศ์ รองสว.สอบสวนสภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ที่เกิดเหตุบ้านหลังหนึ่ง ซอย28 ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก. สภ.ปากคลองรังสิต กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ด้านล่างข้างวงเหล้าพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อ น.ส.สุชาดา อายุ 54 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ต้นขาขวา แขนขวา และศีรษะ รวม3นัดเป็นเหตุให้เสียชีวิต ห่างกันเล็กน้อยพบผู้เสียชีวิตอีกรายชื่อ นายจณุกิตติ์ อายุ 49 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ ท้อง และหน้าอก รวม3 นัดเป็นเหตุให้เสียชีวิต ที่พื้นบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน6ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานโดยคมกระสุนยังเจาะทะลุเสาบ้านที่เป็นเหล็กทะลุกำแพงบ้านเป็นรูโหว่ นอกจากนี้ยังพบผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวน 2 รายที่อยู่ในอาการตื่นตกใจ ทราบชื่อนางเชาว์ อายุ64ปี และ น.ส.ประชวน อายุ 55 ปี

นางเชาว์ พยานให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของตนเอง โดยกลุ่มเพื่อนๆ น้องๆ ได้มาตั้งวงดื่มเบียร์กันตั้งแต่เวลา 20.00 น.ซึ่งตนเองนั้นไม่ได้กินแต่ก็นั่งคุยเป็นเพื่อน โดยมีผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ตนเอง น้องสาวที่รอดชีวิตและนายเลิศ อายุ 63 ปี มือปืน โดยก็นั่งกินนั่งคุยกันตามปกติลักษณะล้อมวงข้างโต๊ะเหล็กพับ ขณะนั่งกินก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน กระทั่งเวลา 02.00 น.ตนเองก็บอกว่ากลับกันได้แล้วเพราะเช้าต้องไปทำงาน ต่างกันก็ต่างจะแยกย้ายกันกลับ นายเลิศ ได้ลุกขึ้นแล้วเดินวนไปมาก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ขา น.ส.สุชาดา จนทรุดลง จากนั้นนายจณุกิตติ์ จึงได้เข้าแย่งอาวุธปืนยิงถูกยิงเข้าที่ศีรษะเป็นเหตุให้เสียชีวิต ก่อนที่นายเลิศจะกลับไปยิงใส่น.ส.สุชาดา อีกครั้งโดยเจ้าตัวยังร้องขอชีวิตว่า “ข่อยยอมแล้ว ข่อยยอมแล้ว” ก่อนจะหลบหนีโดยการขับขี่รถ จยย.ไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองและน้องสาวต่างพากันวิ่งหลบหนีคมกระสุนเข้าไปในห้องน้ำและห้องเก็บของและแอบดูผ่านช่องกระจก จนเสียงปืนสงบจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานหน่วยกู้ภัยเพื่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

นางเชาว์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับนายเลิศ  มือปืนซึ่งมีอาชีพขับจยย.รับจ้าง กับ น.ส.สุชาดา ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่บ้านของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เคยคบหากันมาระยะหนึ่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ต่อเนื่องวันที่ 6 มีนาคม 2565 ทั้งคู่ก็ได้มานั่งดื่มสุรากันที่บ้านตนเอง ก่อนจะทะเลาะกันถึงขั้นไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยฝ่ายชายต้องการนำสร้อยทอง แหวนทองที่ซื้อให้คืน แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าขายไปนานแล้วและต้องการเลิกรากัน จากนั้นนายเลิศก็พยายามตามง้อขอคืนดีหลายครั้งโดยที่ผ่านมาทั้งคู่ก็รักๆ เลิกๆ กันมาหลายครั้งแล้ว

กระทั่งเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2565 ทราบว่านายเลิศได้ขับ จยย.เข้ามาที่บ้านเพื่อมาหา น.ส.ประชวน น้องสาวตนเองให้เป็นคนกลางเพื่อนำเงินไปซื้อทองให้กับ น.ส.สุชาดา เพื่อตามง้อขอคืนดี แต่ทราบว่าฝ่ายหญิงบอกว่าไม่กลับไปอีกแล้วเลิก นายเลิศจึงกลับไปและมาอีกครั้งช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น ส่วนสาเหตุตนเองคาดว่ามาจากการหึงหวงเพราะนายเลิศคิดว่า น.ส.สุชาดา อดีตแฟนที่เลิกลากันไปไม่กลับมาคืนดี แถมยังไปคบกับนายจณุกิตติ์   จึงใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก. สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนเร่งสอบปากคำพยานบุคคลในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งจัดชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายและทางสืบหาทางวิธีของตำรวจเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook