อัปเดต 7 ที่กิน-เที่ยว จ.อุดรธานี ปี 2565 สนุกเต็มอิ่ม เติมแต้มบุญรัวๆ
“อุดรธานี” หนึ่งในจังหวัดที่อุดมไปด้วยถิ่นธรรมชาติ หลากวัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตที่ถูกเล่าผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย จึงตอบโจทย์นักเดินทางทุกสไตล์รวมถึงคนที่อยากค้นหาประสบการณ์การท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ รับรองว่าจะค้นพบได้ที่จังหวัดอุดรธานี
เตรียมลางานแล้ววางแผนเดินทางไปเยือน 7 สถานที่ห้ามพลาด 2565 รับประกันความม่วนหลายที่ Sanook คัดมาให้แล้ว
พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เดิมทีเป็นอาคารเรียนของ ‘โรงเรียนราชินูทิศ’โรงเรียนสตรีประจำมณฑลอุดร ที่เพิ่งผ่านการบูรณะทั้งภายในและภายนอกมาได้ไม่กี่ปี รวมถึงนิทรรศการที่ออกแบบใหม่พาทุกคนย้อนไปในยุคหลายล้านปีก่อน บอกเล่าความเป็นมาของเมืองอุดรธานีตั้งแต่อดีตที่แผ่นดินภาคอีสานยังจมอยู่ใต้ท้องทะเล สู่การสร้างอารยธรรมที่เล่าความเป็นมาและวิถีชีวิตของคนอีสาน การก่อตั้งเมืองอุดรฯ จากยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ตัวอาคาร 2 ชั้น แบ่งเป็น 26 ห้อง แบ่งแต่ละห้องตามธีมต่าง ๆ เช่น ห้องเมื่อพื้นดินอีสานอยู่ใต้ทะเล ห้องเกี่ยวกับบุคคลสำคัญที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับเมืองอุดรธานี ห้องของดีเมืองอุดรธานี จำลองสถานีรถไฟในยุคสมัยเหตุการณ์ รศ.112 และห้องจัดแสดงวิถีชีวิตของชาวอุดรธานี ใกล้กันยังมีอาคารศูนย์บริการพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เป็นอาคารคล้ายโดมห่อหุ้มด้วยโลหะ ที่ออกแบบด้วยการนำโครงเหล็กมาฉลุลายหมี่ขิดลงสีสำริด ซึ่งเป็นลายจากผ้าทอมือที่ชุมชนในจังหวัดอุดรธานีน้อมเกล้าฯ ถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อาคารหลังนี้จึงเหมือนการเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ของตัวอาคารระหว่างความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว จะเดินชมอาคารไหนก็เที่ยวได้อย่างอุ่นใจเพราะที่นี่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA เรียบร้อย เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 08.30 – 16.30 น.
วัดสันติวนาราม
พระอุโบสถกลางน้ำทรงดอกบัวหนึ่งเดียวในสยาม ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางหนองน้ำอีสานเขียว ภายในวัดสันติวนาราม พุทธอุทยานบ้านเชียง อำเภอหนองหาน แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวอุดรธานีอย่างมาก ด้วยความงดงามของประติมากรรมที่หลอมรวมความงามของศิลปะเข้ากับเรื่องราวทางพุทธศาสนาได้อย่างกลมกลืน ทรงดอกบัว 24 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางถึง 19 เมตร สูง 19 เมตร มีพญานาค 2 ตัวอยู่ด้านหน้าสะพานที่ทอดยาวไปถึงตัวอุโบสถ ภายในวิจิตรตระการตาด้วยภาพวาดฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ มีองค์พระประธานสีขาวโดดเด่นอยู่ภายในอุโบสถ บริเวณหนองน้ำรอบพระอุโบสถมีปลาตัวน้อยใหญ่อาศัยมากมาย สามารถให้อาหารปลาได้ด้วย บรรยากาศโดยรอบก็สงบร่มเย็น จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ
วัดป่าภูก้อน
นี่คือวัดที่ถูกยกให้เป็นอันซีนของจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม และยังเป็นรอยต่อระหว่าง 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เลย และหนองคาย ปี 2544 วัดป่าภูก้อนยังได้รับมอบประกาศนียบัตรจากกรมป่าไม้ ให้เป็นวัดอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ดีเด่นอีกด้วย วิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ มีประตูทางเข้าออกวิหาร 3 ด้าน ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธรูปปางไสยาสน์ยาว 20 เมตร ที่แกะสลักหินอ่อนจากอิตาลีที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน ด้วยความมุ่งหมายให้เป็นพุทธศิลป์แห่งสมัยรัชกาลที่ 9 และหากเดินถัดลงมาอีกหน่อยจะพบพระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย ไม่แปลกหากที่นี่จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสาน และเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เดินทางมาเที่ยวอย่างอุ่นใจ ทางวัดจึงเตรียมความพร้อมและความสะอาดจนผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus
คำชะโนด
“ป่าคำชะโนด วังนาคินทร์” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “คำชะโนด” แหล่งท่องเที่ยวสายมูอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย มีลักษณะเป็นเกาะบนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ปกคลุมด้วยต้นชะโนด ไม้หายากสูงตระหง่านทั่วทั้งเกาะ และยังถือเป็นป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่ผืนสุดท้ายที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ในเมืองไทย ไฮไลต์ของการมาเยือนคำชะโนดคือการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะศาลพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา องค์พญานาคราชและนาคราชเทวี ที่เป็นองค์ประธานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของคำชะโนด รวมถึง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกว่า บ่อคำชะโนด ซึ่งมีสะพานปูนรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร บริเวณกึ่งกลางสะพานจะมีรอยแยก ตามความเชื่อที่ว่าเป็นทางเข้าออกระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ของเหล่าพญานาค หากมาช่วงกลางเดือนหรือสิ้นเดือนคนอาจจะเยอะหน่อยเพราะที่นี่ร่ำลือว่าให้โชคลาภเลขเด็ดแม่นยิ่งนัก ส่วนเรื่องความรักทักกันว่าห้ามขอเพราะจะไม่สมหวัง จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องความศรัทธา แต่ที่เชื่อได้แน่ ๆ คือ ที่นี่ได้รับมาตรฐาน SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแล้ว สายบุญเดินทางมาไหว้ขอพรได้อย่างอุ่นใจ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.
ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน
ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ที่สวยเหมือนยกเมืองจีนมาไว้กลางอุดรฯ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี ตั้งใจให้เป็นแหล่งสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวจีนที่อพยพจากประเทศจีน ภายในเก็บรักษามังกรยาวถึง 99 เมตร ซึ่งใช้แสดงในงานทุ่งศรีเมืองในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่ “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู” สวนสไตล์จีนที่ตกแต่งด้วยไม้มงคลของจีน ไม่ว่าจะเป็นหลิว ไผ่ดํา หงส์ฟู่ ประทัดจีน โป๊ยเซียน หรือเทียนหอม แต่ละจุดมีเรื่องราวและความหมายที่น่าเรียนรู้ อาทิ ริมบ่อน้ำที่จําลองเป็นหุบเขา ใช้หินทรงสูงปลูกมอสส์ปกคลุมทั่วทั้งก้อน สื่อถึงเขาที่อุดมสมบูรณ์ ส่วนรูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาว แกะสลักเป็นรูปขงจื่อ เป็นหินที่นำมาจากเมืองชวีฟู่ บ้านเกิดของขงจื่อ ซึ่งมอบให้กับศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน อย่าลืมแวะเข้าไปใน พิพิธภัณฑ์คุณธรรม ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่เดินทางมาอาศัยอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2442 จวบจนถึงปัจจุบันรวมถึงประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าปู่-ย่า ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมที่ชาวอุดรธานีให้ความศรัทธามากที่สุดและยังมีส่วนจัดแสดงประวัติ คําสอน และเรื่องราวของท่านขงจื่ออีกด้วย เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 19:00 น.
บ้านนาคาเฟ่
คาเฟ่วิวทุ่งที่เห็นแล้วอยากจะพุ่งตัวไปนั่งชิลล์ทั้งวัน อาคารขนาดกลางที่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวด้านในคือคาเฟ่สุดน่ารัก ที่ผันมาจากสตูดิโอสอนทำขนมที่ชื่อ Jammie's recipe ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนให้กลายเป็นคาเฟ่น่ารักอย่างที่เห็น ภายในแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนคาเฟ่ มีมุมริมกระจกหน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปเห็นบ่อน้ำและสวนสวย ส่วนโซนร้านอาหารจะอยู่ภายในอาคารโรงนาขนาดใหญ่เพดานสูง เติมแต่งกิมมิคด้วยดอกไม้พื้นถิ่นที่หมุนเวียนปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล จริง ๆ แล้วบรรยากาศแบบนี้สั่งเมนูไหนมากินก็อร่อย แต่ถ้าให้แนะนำ ควรลองเมนูซิกเนเจอร์ อาทิ ผัดไทยคุณยาย ยำส้มโอ ข้าวผัดสับปะรด และยำสลัดบ้านนา แล้วตบท้ายด้วยของหวานที่เมนูจะเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันแต่ละวัน แต่ที่บอกเลยว่าเด็ดแน่ ๆ คือ เค้กมะพร้าว, Lemon Meringue Tart, เค้กหม้อแกง และเค้กกล้วยบวชชี แวะมาชิมหรือนั่งชิลล์กันได้แบบอุ่นใจด้วยนะเพราะที่นี่ได้รับมาตรฐาน SHA แล้วด้วยเช่นกัน
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-18.30 น.
โทร. 095 426 4624
ขอบคุณภาพประกอบจากร้าน บ้านนาคาเฟ่ https://www.facebook.com/barnnaacafe/?ref=page_internal
Dose Espresso
โรงงานกาแฟใจกลางเมืองอุดรฯ สุดเท่ จากเดิมพื้นที่ร้านเคยเป็นโกดังร้างแต่ก็ถูกรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นร้านกาแฟสไตล์ลอฟต์ เพดานสูงโปร่ง เติมความเท่ด้วยภาพถ่ายขาวดำและสีแบบวินเทจของร้านตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง กลายเป็นมุมที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูป คนที่ชอบบรรยากาศสบาย ๆ ก็มีโซนเอาท์ดอร์ที่ได้แบ็กกราวด์ดิบ ๆ จากผนังสังกะสีตัดกับสีเขียวของต้นไม้ได้แบบลงตัว อย่าลืมเลือกเมนูกาแฟแก้วโปรดมาจิบเพลิน ๆ ด้วย ทางร้านจะใช้เมล็ดกาแฟไทยและเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศมาเบลนด์เป็นสูตรเฉพาะคือ โดสเฮาส์เบลนด์ และ กาเบรียลเบลนด์ ใครชอบกาแฟติดเปรี้ยวหวานบาง ๆ แนะนำ Ethiopia Drip on iced รับรองติดใจ และที่ใคร ๆ ก็บอกว่าเด็ดคือ Dose Delight กาแฟดริปผสมเลม่อน เปรี้ยว หวาน ละมุนลงตัว แต่ถ้าไม่ใช่คอกาแฟร้อน ๆ แบบนี้ลองเป็น มะยงชิดปั่น เมนูหวานฉ่ำ อมเปรี้ยวชื่นใจ และถึงแม้จะตั้งต้นมาจากร้านกาแฟแต่อาหารของที่นี่อร่อยจนต้องยกนิ้ว อาทิ BBQ Pork Ribs ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว, Spicy Carbonara หรือ Baked Tomato & Feta Linguine ลิงกวินีมะเขือเทศอบเฟตาชีส ที่สำคัญร้านนี้ยังเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับมาตรฐาน SHA มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอิ่มอร่อยได้แบบอุ่นใจกันไปเลย
เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 น. – 16.30 น.
โทร. 098 661 4641
ขอบคุณภาพประกอบจากร้าน Dose Espresso https://www.facebook.com/doseespressoth/?ref=page_internal
[Advertorial]