รวบแก๊งค้ากามออนไลน์หลายคดี พ่อเล้า-แม่เล้า อายุแค่ 15 ปี ล่อลวงเด็กหญิงมาขายบริการ
วันที่ 10 มีนาคม 65 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมแถลงผลการปราบปรามคดีการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคเหนือ
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ในห้วงที่ผ่านมาทางตำรวจได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน สืบสวนจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดได้จำนวน 4 คดี ในพื้นที่จังหวัดลำปางและเชียงใหม่
คดีที่ 1 ชุดปฏิบัติการ TICAC ร่วมกับ มูลนิธิ HUG PROJECT และ สภ.เมืองลำปาง ร่วมกันสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์โฆษณาขายบริการทางเพศ โดยให้ผู้สนใจแอดไลน์สอบถามผ่านทางคิวอาร์โค้ดไลน์ และมีการโพสต์ภาพหญิงที่ขายบริการทางเพศ พร้อมให้ไอดีไลน์ติดต่อตรง ซึ่งต่อมาชุดปฏิบัติการสืบสวนทราบว่า มีรูปแบบพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือพ่อเล้าจะทำการโพสต์โฆษณาว่าสามารถจัดหาหญิงมาค้าประเวณีได้ แจ้งประกาศลงในทวิตเตอร์ เมื่อมีลูกค้าสนใจติดต่อเข้ามาผ่านไอดีไลน์ตามที่แจ้งไว้ พ่อเล้าจะส่งข้อมูลของหญิงที่จะมาให้บริการทางเพศให้ลูกค้าทราบ โดยคิดค่าบริการทางเพศ ราคาประมาณครั้งละ1,500 -2,000 บาท ซึ่งลูกค้าจะโอนเงินเข้าบัญชีพ่อเล้า หรือใช้วิธีจ่ายเป็นเงินสดให้กับเด็กหญิงที่ไปให้บริการ จากนั้นพ่อเล้าจะทำการหักหัวคิว ไว้ประมาณ ครั้งละ 500 บาท โดยภายหลังทราบว่า พ่อเล้าเป็นเยาวชนชาย อายุเพียง 16 ปีเศษ เป็นแอดมินของทวิตเตอร์ดังกล่าว จะทำหน้าที่คอยชักชวนติดต่อหาลูกค้า พร้อมนำเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปีจำนวน 2 คน มาส่งให้กับลูกค้า ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง ภายหลังสามารถทำการเข้าจับกุมพ่อเล้า และเข้าช่วยเหลือคุ้มครองเด็กหญิง ได้ทั้ง 2 คน พร้อมขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ซื้อประเวณีได้อีก จำนวน 12 คน โดยกลุ่มผู้ซื้อประเวณีมีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง
คดีที่ 2 ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ภ.5 ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ จ.ลำปาง และ สภ.ห้างฉัตร ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองเด็ก ให้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือคุ้มครองเด็กหญิง 2 คน โดยจากการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า ยังมีเด็กหญิงอายุ 13 ปีเศษ อีก 9 คน ที่มีพฤติกรรมถูกชักชวนไปค้าประเวณีเช่นกัน จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือคุ้มครองอีก 9 คน ภายหลังจากการฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก ทำให้ทราบรูปแบบพฤติการณ์ โดยมีพ่อเล้า ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาก่อน ของเด็กหญิงทั้ง 2 คน ได้เข้ามาชักชวนติดต่อให้ไปพักอาศัยอยู่ด้วยกัน จากนั้นพ่อเล้าได้พูดจาโน้มน้าวเด็กหญิง ให้ช่วยกันทำมาหากิน พร้อมกับแจ้งว่าให้เด็กหญิงทั้ง 2 ไปรับงานค้าประเวณี กับลูกค้าในลักษณะเพศสัมพันธ์หมู่ ที่โรงแรมในเขต อ.ห้างฉัตรจ.ลำปาง โดยพ่อเล้าได้มีการโพสต์เสนอขายประเวณีเด็กผ่านทวิตเตอร์ หลังจากที่ลูกค้าร่วมประเวณีกับเด็กหญิงแล้วจึงโอนเงินเข้าบัญชีของพ่อเล้า เป็นจำนวน 3,500 บาท โดยพ่อเล้าได้แบ่งเงินให้เด็กหญิงทั้ง 2 เพียง คนละ 300 บาทเท่านั้น ภายหลังสามารถทำการเข้าจับกุม พ่อเล้า ซึ่งเป็นชายไทย อายุ 23 ปี พร้อมขยายผลจับกุมผู้ซื้อประเวณี ซึ่งเป็น ชายไทย อายุ 45 ปี นักธุรกิจ ในพื้นที่ จ.ลำปาง
คดีที่ 3 และ 4 เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง ร่วมกับ มูลนิธิ IMF ร่วมกันสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์โฆษณาขายบริการทางเพศ โดยหากมีผู้สนใจจะให้แอดไลน์ เพื่อส่งนัดหมายและส่งรายละเอียดของหญิงที่จะให้ไปค้าประเวณี โดยคิดค่าบริการทางเพศ ราคาประมาณครั้งละ 2,000 - 3,000 บาท ซึ่งลูกค้าผู้ซื้อประเวณีจะโอนเงินเข้าบัญชีแม่เล้า จากนั้นแม่เล้าจะทำการหักหัวคิวไว้ประมาณ ครั้งละ 200 - 500 บาท แล้วโอนเงินต่อให้เด็กหญิงที่มาค้าประเวณี ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 16 ปีเศษ และอายุ 14 ปีเศษ ที่มาค้าประเวณี และทำการจับกุมแม่เล้า ซึ่งเป็น เยาวชนหญิง อายุ 15 ปีเศษ แอดมินของทวิตเตอร์ได้ที่ จ.ปทุมธานี และขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ซื้อประเวณี จากนั้นได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุระหว่าง 12-14 ปี ในอำเภอฝาง ได้อีกจำนวน 9 คน แลยังทราบว่ามีแม่เล้าอีก 3-5 คน อายุระหว่าง 16-20 ปี ที่เป็นรุ่นพี่ซึ่งมีอิทธิพลในกลุ่มวัยรุ่นหญิง คอยชักชวนหลอกลวงและบังคับขู่เข็ญ กลุ่มเด็กซึ่งเป็นรุ่นน้องให้มารับงานค้าประเวณี โดยแม่เล้าจะเป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในพื้นที่ พร้อมเสนองานในลักษณะการเปิดบริสุทธิ์เด็ก ซึ่งจะมีราคาค่าตัวที่สูง ลูกค้าที่มาซื้อประเวณีมักจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีรายได้สูง เข้ามาติดต่อซื้อประเวณี ครั้งละ 20,000 - 25,000 บาท โดยแม่เล้าจะหักค่าหัวคิวครั้งละ 5,000 - 15,000 บาท อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนจับกุมกลุ่มแม่เล้าเหล่านี้
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากการติดตามทั้ง 4 คดี ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เด็กหญิงที่ถูกล่อลวงหรือบังคับให้ทำนั้นก็เป็นเด็กอายุเพียง 14-15 ปี และ เด็กที่อายุยังไม่เกิน 18 ปี เกือบทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าผู้จัดหา หรือพ่อเล้า-แม่เล้า ที่เป็นแอดมินติดต่อกับลูกค้าก็ยังเป็นเด็กอายุ 15-16 ปี และในบางคดียังมีนักธุรกิจและข้าราชการระดับสูงในพื้นที่ที่ได้กลายเป็นผู้ซื้อบริการเสียเอง ซึ่งในส่วนนี้ยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดที่มีอัตราโทษสูง และถึงแม้ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูงก็ยืนยันว่าจะไม่มีการละเว้นไม่ว่ากรณีใดๆ หากเข้าไปเกี่ยวข้อง และจะต้องได้รับการลงโทษเท่าเทียมกัน เพราะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นการยุยงส่งเสริมเด็กไปในทางมิชอบ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ