พลุเฉลิมพระเกียรติในหลวงสว่างไสวทั่วฟ้า
สุดอลังการ พลุเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง 20,000 ลูก สว่างไสวทั่วเมืองทองธานี เผยพลุชุดพิเศษจาก 4 ประเทศสว่างไสวเป็นตัวเลข 82 พรรษาตามพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ สำหรับ งานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมี 4 ประเทศที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ ประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และชมรมพลุไทย ประเทศไทย ร่วมกันสร้างสรรค์ให้น่านฟ้าริมทะเลสาบเมืองทองธานี สว่างไสวเจิดจรัสไปด้วยพลุกว่า 2 หมื่นลูก
เมื่อเวลา 19.05 น. วันที่ 13 ธันวาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยหลังจากชมการแสดงวีดิทัศน์เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว นายกรัฐมนตรีจึงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดการแสดงพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มด้วยการแสดงพลุปฐมฤกษ์ชื่อชุด "ปฐมฤกษ์เบิกฟ้า มหาราชาในดวงใจ" ต่อด้วย "ธ จอมไทย เกริกไกร ทั่วทิศ" จากนั้นจึงเป็นการแสดงพลุ "พระร่มโพธิ์เพชรปกเกล้า ร่มเย็นทั่วแคว้น แดนสยาม" และปิดท้ายด้วย "เก็จแก้วแพรวนภาทั่วหล้า เทิดไท้องค์ราชัน"
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฮไลท์ของการแสดงและประกวดพลุในครั้งนี้ คือ การจุดพลุชุดพิเศษจาก 4 ประเทศที่เข้าร่วมการแสดงและการแข่งขัน ที่จะสว่างไสวเป็นตัวเลข 82 พรรษา ตามพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพลุชุดรูปหัวใจ อันเป็นสัญลักษณ์ของหัวใจพสกนิกรชาวไทย ที่มีแต่ความจงรักภักดี รวมทั้งการจุดพลุขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีขนาดยาวกว่า 1 กิโลเมตร และใช้ระยะเวลาการจุดที่ยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง สว่างไสวทั่วน่านฟ้าริมทะเลสาบเมืองทองธานี
ส่วนบรรยากาศบริเวณริมสระน้ำเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เริ่มมีประชาชนทยอยมาจับจองพื้นที่ เพื่อเตรียมรับชมความงามของพลุนานาชาติกันอย่างไม่ขาดสาย พร้อมกับพกพากล้องบันทึกภาพทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว มาบันทึกความยิ่งใหญ่ของพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ด้วย ในขณะที่บางครอบครัวอาศัยจอดรถรอบบริเวณเมืองทองธานี เพื่อนั่งชมการจุดพลุดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรทั้งบริเวณภายในและภายนอกเมืองทองธานีติดขัดไปตามๆ กัน
