"ปูติน" ต่อสายคุยผู้นำฝรั่งเศส-เยอรมนี ให้โน้มน้าวยูเครน "หยุดทำผิดกฎหมาย"
มอสโก, 13 มี.ค. (ซินหัว) — แถลงการณ์จากทำเนียบเครมลินเผยว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) พร้อมกระตุ้นเตือนพวกเขาโน้มน้าวทางการยูเครนให้หยุด “การกระทำผิดทางอาญา” ของ “กองทัพชาตินิยมยูเครน”
ด้านรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า มาครงและชอลซ์ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที และหาทางออกทางการทูตกรณีความขัดแย้งในยูเครน โดยการเจรจาครั้งนี้ใช้เวลา 75 นาที นับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนานาชาติเพื่อยุติความขัดแย้งในปัจจุบัน
แถลงการณ์จากทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ปูติน เผย “รายละเอียดการเจรจาหลายครั้งผ่านระบบวิดีโอระหว่างตัวแทนรัสเซียและยูเครนในช่วงวันที่ผ่านมา” และผู้นำทั้ง 3 คนได้ทบทวนประเด็นข้อตกลงเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของรัสเซียก่อนหน้านี้
ปูติน แจ้งมาครงและชอลซ์ถึง “สถานการณ์จริงในพื้นที่” เพื่อตอบรับประเด็นที่พวกเขาหยิบยกขึ้นมา “กรณีสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในอาณาเขตของปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องภูมิภาคดอนบาสส์”
นอกจากนี้ ปูติน อ้างว่า “มีข้อเท็จจริงหลายประการเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศโดยกองทัพและตำรวจยูเครน อาทิ การวิสามัญฆาตกรรมผู้เห็นต่าง การจับตัวประกัน และการใช้พลเรือนเป็นเกราะกำบังมนุษย์ การติดตั้งอาวุธหนักในพื้นที่ที่อยู่อาศัย ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียน หรือโรงเรียนอนุบาล”
ทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่กองทัพชาตินิยมยูเครนขัดขวางปฏิบัติการกู้ภัยและคุกคามพลเรือน ขณะพวกเขาพยายามอพยพ พร้อมเสริมว่า ปูตินได้กระตุ้นเตือนมาครงและชอลซ์โน้มน้าวทางการยูเครนให้ยุติ “การกระทำผิดทางอาญา” รูปแบบนี้ด้วย และผู้นำทั้งสามตกลงที่จะคงการติดต่อสื่อสารในประเด็นยูเครนกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์จากรัฐบาลเยอรมนี ระบุว่า ชอลซ์ได้พูดคุยกับโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (12 มี.ค.) และรับทราบการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของเซเลนสกี โดยทั้งสองตกลงที่จะรักษาการติดต่อสื่อสารเช่นกัน