โหดจัดรัสเซีย! ยิงขีปนาวุธ 30 ลูกถล่มค่ายฝึกทหารยูเครน-นาโต ตาย 35 เจ็บ 134

โหดจัดรัสเซีย! ยิงขีปนาวุธ 30 ลูกถล่มค่ายฝึกทหารยูเครน-นาโต ตาย 35 เจ็บ 134

โหดจัดรัสเซีย! ยิงขีปนาวุธ 30 ลูกถล่มค่ายฝึกทหารยูเครน-นาโต ตาย 35 เจ็บ 134
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มค่ายฝึกทหารขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 ราย บาดเจ็บ 134 คน อ้างอิงจากรายงานของเจ้าหน้าที่ยูเครน

ค่ายทหารยาโวรีฟแห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของยูเครน ห่างจากชายแดนโปแลนด์ 25 กิโลเมตร และ 60 กิโลเมตรจากเมืองลวีฟซึ่งเป็นศูนย์กลางของผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่จะเดินทางเข้าไปในโปแลนด์

นอกจากนี้ ค่ายทหารดังกล่าวยังเป็นสถานที่ที่องค์การนาโตใช้ในการฝึกทหารยูเครนภายใต้ชื่อ ศูนย์เพื่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ (International Center for Peacekeeping and Security) อีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้ว่าการเมืองลวีฟ กล่าวว่า มีขีปนาวุธ 30 ลูกยิงใส่ค่ายทหารยาโวรีฟ ซึ่งไม่ตรงกับรายงานของโฆษกกองทัพยูเครนที่ระบุว่า มีขีปนาวุธราว 8 ลูกที่ยิงใส่ค่ายทหารแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม นักการทูตของชาติตะวันตกบางคนเชื่อว่า การโจมตีค่ายยาโวรีฟสอดคล้องกับสัญญาณเตือนจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) ว่า ขบวนรถทหารของชาติตะวันตกที่เข้าไปในยูเครนจะถูกจัดว่าเป็นเป้าหมายในการโจมตีของกองทัพรัสเซียด้วย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัสเซียเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางทหารในบริเวณภาคตะวันตกของยูเครนมากขึ้น แต่การยิงขีปนาวุธถล่มค่ายทหารยาโวรีฟในวันอาทิตย์ ถือเป็นการโจมตีที่ไกลที่สุดเข้าไปในภาคตะวันตกของยูเครน และทำให้เกิดความกังวลว่าเมืองลวีฟอาจตกเป็นเป้าหมายของการทำสงครามในยูเครนด้วย

ก่อนหน้านี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า เบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซียอาจส่งทหารเข้าร่วมสงครามในยูเครนด้วย โดยใช้วิธีบุกโจมตีเมืองใหญ่ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของยูเครน รวมทั้งเมืองลวีฟ ซึ่งจะทำให้เมืองแห่งนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จำนวนมากอีกต่อไป

ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนเรียกการโจมตีค่ายทหารยาโวรีฟว่าเป็น "การก่อการร้าย" พร้อมเรียกร้องให้องค์การนาโตกำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครน ขณะที่ นอร์เบิร์ต รอตต์เกน นักการเมืองอาวุโสของเยอรมนี ทวีตว่า การโจมตีเมืองลวีฟซึ่งไม่ไกลจากกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี แสดงให้เห็นว่าสงครามครั้งนี้กำลังขยับเข้ามาใกล้ประเทศอื่นในยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเยอรมนีจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อรักษาสันติภาพในยุโรป

ขณะเดียวกัน ยูเครนยังคงเรียกร้องให้องค์การนาโตประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครน แต่ผู้นำชาติตะวันตกยังยืนกรานปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า การจะทำให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบินได้นั้น นาโตจะต้องส่งเครื่องบินรบไปยังน่านฟ้าของยูเครนและยิงเครื่องบินของรัสเซีย ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีแต่จะทำให้สงครามกับรัสเซียขยายตัวยิ่งขึ้น

ทางด้าน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวหาบรรดาผู้นำของนาโตว่า กำลังเปิด "ไฟเขียว" ให้กองทัพรัสเซียโจมตีประชาชนยูเครน ด้วยการปฏิเสธการจัดตั้งเขตห้ามบิน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเขตห้ามบินอาจจะไม่ได้ช่วยป้องกันการโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้อย่างที่ยูเครนหวังไว้

และในขณะที่กำลังเกิดความกังวลต่อการโจมตีของรัสเซียในภาคตะวันตกของยูเครน ผู้ว่าการเขตปกครองดอเนตสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครนกล่าวว่า เมืองโวลโนวาคาในดอเนตสก์ถูกทหารรัสเซียถล่มราบคาบไปแล้ว ขณะที่เมืองมาริอูโพลซึ่งอยู่ไม่ไกลก็กำลังถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมและระดมโจมตีอย่างหนักในช่วง 11 วันที่ผ่านมา

สหรัฐฯ เร่งส่งอาวุธ 200 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครนรับศึกรัสเซีย

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงการส่งอาวุธต่างๆ ไปให้กับยูเครนเพื่อใช้ในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์

ทั้งนี้ ความช่วยเหลือเพิ่มเติมชุดใหม่นี้จะรวมถึงปืนต่อต้านรถถัง ปืนต่อต้านอากาศยาน และปืนสั้นกับปืนยาว รวมมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,600 ล้านบาท) ในขณะที่ยูเครนกำลังร้องขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากชาติตะวันตก

จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ จัดหาความช่วยเหลือด้านความมั่นคงไปให้กับยูเครนรวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 39,600 ล้านบาท) นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook