"ชลน่าน" ปูดข่าว! มีคนจ้องคว่ำกฎหมายลูก หวังกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว

"ชลน่าน" ปูดข่าว! มีคนจ้องคว่ำกฎหมายลูก หวังกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว

"ชลน่าน" ปูดข่าว! มีคนจ้องคว่ำกฎหมายลูก หวังกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชลน่าน” ยอมรับมีใครบางคนพยายามคว่ำกฎหมายลูก เพื่อให้เกิดเดดล็อกจนนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว โวยหากถูกคว่ำวาระ 3 เหมือนฟ้าผ่า

วันนี้ (14 มี.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีเสียงจากกรรมาธิการฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดให้ฟังว่า "เขา" มีความต้องการที่จะได้รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้ได้บัตรเลือกตั้งใบเดียว โดยมีความพยายามใช้กลไกในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยการคว่ำกฎหมายลูกให้เกิดเดดล็อก เพื่อให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ นำไปสู่การกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว

แต่จะจริงหรือไม่ตนไม่ทราบ นี่คือสิ่งที่มีคนเล่าให้ตนฟัง แต่ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ตนคิดว่า นี่คือเงื่อนที่จะทำให้เกิดวิกฤตทางการเมือง เพราะรัฐบาลส่งกฎหมายลูกเข้ามาสู่สภาฯ โดยมีคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งหากไม่ผ่านสภาฯ ก็ควรคิดว่าคุณต้องรับผิดชอบอย่างไร แล้วถามว่าประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหรือไม่ วันนี้เขาพยายามทุกอย่างเพื่อสืบทอดอำนาจ ใช้กลไกทุกอย่างเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนาในการเล่าถึงแนวความคิดเรื่องการคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไร นพ.ชลน่าน ระบุว่า ถามว่าเขาจะคว่ำหรือไม่ ตนไม่ได้เป็นผู้ตอบว่าจะใช้กลไกไหน อย่างไร แต่วาระแรก และวาระ 2 เห็นชอบแล้ว ถ้ามีมติคว่ำในวาระ 3 เหมือนฟ้าผ่า ไม่มีที่มาที่ไป จะอธิบายต่อสังคมนี้ได้อย่างไร แปลว่าสังคมนี้เริ่มบิดเบี้ยว เริ่มใช้อำนาจที่ไม่ชอบในการก้าวก่ายแทรกแซงหรือไม่

ตนไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น เพราะจะกลายเป็นการสร้างวิกฤตใหม่ซึ่งวิกฤตนี้เหมือนประชาชนถูกตบหน้า เหมือนประชาชนไม่มีความหมาย อยากทำอะไรก็ทำ อยากแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรใบเดียวใช่ไหม แล้วถ้าทำอย่างนั้นทำเพื่ออะไร ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินเอง

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่ได้มีการวางตัว ส่วนเมื่อวานนี้ที่มีผู้สื่อข่าวถามชื่อ “อุ๊งอิ๊งค์” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ ตนก็ตอบตามเหตุผล ไม่ได้มีการปิดบัง

ซึ่งตนตอบไปว่า หากประชาชนสนับสนุนก็มีสิทธิที่จะเป็น พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเสนอเพราะประชาชนสนับสนุน ตนตอบไปแค่นี้ ส่วนคำถามที่ว่า “อุ๊งอิ๊งค์” เป็น 1 ใน 3 ของแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตนขอไม่ตอบ เนื่องจากเป็นกลไกของการพิจารณาอยู่แล้วว่าจะต้องพิจารณาอย่างไร แต่จะเป็น 1 ใน 3 หรือไม่ ตอบไม่ได้ ไม่ขอตอบ

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคใหญ่และพรรคเล็กต่างนัดรับประทานอาหารกันบ่อยขึ้นในช่วงนี้ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่ธรรมดามาก เพราะภาวะวิกฤตการเมืองแบบนี้ กลไกหรือวิธีการอะไรที่สามารถทำให้เขาบอกตัวเองว่ายังมีความมั่นใจและมั่นคงอยู่ ก็ต้องใช้ทุกอย่าง

ส่วนท่าทีของพรรคเล็กที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวหลังนายกฯ นัดพรรคใหญ่ทานข้าวนั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า เมื่อพรรคใหญ่นัด พรรคเล็กจึงต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าก็มีของ และมีของที่สำคัญ มีอำนาจต่อรองที่สูงมากในขณะนี้ เพราะ 30 เสียงของพรรคเล็กสำคัญ ทำให้แปรปรวนได้ หาก 30 เสียงนี้โยกไปด้านใดด้านหนึ่งก็จะมีผลทันที เช่น การพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในวาระ 1 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะมีการนัดพรรคเล็กร่วมรับประทานอาหารหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าเราสามารถชวนได้ เราก็อยากชวนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพราะในวิกฤตการเมืองแบบนี้ ทุกพรรคต้องหันมามองแล้วว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าทุกคนมองว่าประเทศสำคัญกว่าคน สำคัญกว่านายกฯ สำคัญกว่ารัฐมนตรีที่เป็นอยู่ ประชาชนสำคัญกว่า

ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า เขาคิด และเป็นปีสุดท้าย วิถีทางการเมือง พรรคการเมืองต้องพยายามรักษาสถานะตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเขามาจากประชาชน อะไรที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การที่เขาจะอยู่กับผีเน่า กับถ้าแยกตัวออกมาเป็นโลงดีๆ อยู่ตรงนั้นเป็นโลงผุจนกระทั่งต้องเผาไปพร้อมกัน เขาสามารถแยกตัวในขณะเป็นโลงดีๆ อยู่ ปล่อยให้ผีเน่าไป เขาก็รอด ประชาชนก็ยังโอบอุ้มเขาอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook