ทนไม่ไหว! คนรัสเซียเผ่นหนีปูติน ออกนอกประเทศแล้ว 200,000 คน

ทนไม่ไหว! คนรัสเซียเผ่นหนีปูติน ออกนอกประเทศแล้ว 200,000 คน

ทนไม่ไหว! คนรัสเซียเผ่นหนีปูติน ออกนอกประเทศแล้ว 200,000 คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขณะที่คลื่นผู้ลี้ภัยชาวยูเครนหลั่งไหลออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ทางฝั่งของรัสเซียเอง ชาวรัสเซียจำนวนมากกำลังเร่งอพยพออกนอกประเทศ ตัวเลขจากองค์การสหประชาชาติเผยว่า ล่าสุดมีชาวยูเครนลี้ภัยออกนอกประเทศแล้วมากกว่า 3 ล้านคน และจำนวนตัวเลขยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

นายอเล็กซี่ ทรูเบตสกอย หนึ่งในชาวรัสเซียที่เดินทางออกออกนอกประเทศ ตั้งแต่วันแรกที่กองทัพรัสเซียรุกรานยูเครน เขาขึ้นเครื่องบินจากมอสโกไปศรีลังกาทันที 

"ผมตระหนักได้ว่าต้องรีบออกจากประเทศโดยเร็วที่สุด" อเล็กซี่บอกกับผู้สื่อข่าว

"การรุกรานยูเครนจะเปลี่ยนรัสเซียไปตลอดกาล"

นางสาวพอลินา โพเลียโควา ชาวกรุงมอสโก เดินทางออกจากรัสเซียด้วยรถไฟ The Allegro Express จากนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปยังกรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่เหลืออยู่ในการเชื่อมต่อรัสเซียกับสหภาพยุโรป และพาชาวรัสเซียออกจากประเทศได้เที่ยวละเกือบ 1,000 คน

นางสาวพอลินาบอกว่า หลังการรุกรานยูเครน คนรัสเซียมากมายรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะรู้ว่า สภาพเศรษฐกิจจะยากลำบากมากนับจากนี้ไป และคนจำนวนมากจะไม่สามารถทนอยู่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงได้

 จำนวนผู้โดยสาร The Allegro Express จากรัสเซียเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังกองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนได้เพียง 2 วัน ตั๋วโดยสารขายหมดเกลี้ยงและที่นั่งถูกจองเต็มล่วงหน้าต่อเนื่องกันไปหลายวัน เจ้าหน้าที่รถไฟต้องเพิ่มที่นั่งสำรองร้อยละ 20 และเตรียมเพิ่มเที่ยวรถไฟจากวันละ 2 เป็น 3 เที่ยวต่อวัน เพื่อรองรับการเดินทางออกที่หนาแน่นของชาวรัสเซีย 

ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก เริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซีย ค่าเงินรูเบิลตกต่ำลงมากเกือบร้อยละ 40 ส่งผลให้ค่าครองชีพดีดตัวสูงขึ้น ราคาค่าโดยสารรถไฟ The Allegro express และตั๋วเครื่องบินก็ทะยานสูงขึ้นมากด้วย เที่ยวบินจากมอสโกไปยังอิสตันบูล และเบลเกรด ขายหมดเกลี้ยงในไม่กี่วัน ขณะที่ราคาค่าโดยสารเที่ยวเดียวไปดูไบเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า จากเดิม 334 ดอลลาร์เป็น 4,006 ดอลลาร์ 

เหตุผลที่ชาวรัสเซียทะลักออกนอกประเทศ นอกจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองภายหลังการรุกรานยูเครน ก็เป็นเรื่องที่ชาวรัสเซียรุ่นใหม่วิตกกังวล เนื่องจากมีการจำกัดเสรีภาพการแสดงออก โดยรัฐบาลออกกฎหมายควบคุมข่าวสาร ในนามการต่อต้านเฟกนิวส์ ซึ่งกำหนดโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี ทั้งยังควบคุมการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด และโหมใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อหลักของรัฐ ขณะที่มีข่าวลือหนาหูว่าประธานาธิบดีปูติน อาจจะประกาศกฎอัยการศึก นั่นหมายถึงการให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่กองทัพ 

ขณะที่ในเมืองต่างๆ ของรัสเซีย ประชาชนยังคงรวมตัวประท้วงต่อต้านสงคราม โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อย่าง มอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตัวเลขการจับกุมผู้ชุมนุมต่อต้านสงครามพุ่งสูงมากกว่า 13,000 คน  

สำนักข่าวบีบีซีอ้างตัวเลขชาวรัสเซียที่เดินทางออกนอกประเทศจากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในรัสเซียเผยว่า ขณะนี้มีชาวรัสเซียอพยพออกนอกประเทศไปแล้วมากกว่า 200,000 คน และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

สำหรับเส้นทางการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากสหภาพยุโรปและประเทศต่างๆ รวม 36 ประเทศ ประกาศปิดน่านฟ้าสำหรับสายการบินรัสเซีย ทำให้จุดหมายปลายทางมีค่อนข้างจำกัด คนรัสเซียที่ไม่มีวีซ่าวีซ่าเชงเก้นของยุโรป ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปฟินแลนด์ได้ จะเลือกอพยพไปประเทศจอร์เจีย อาร์เมเนีย และตุรกี 

นางสาวมาช่า เกซเซ่น ผู้สื่อข่าวรัสเซียที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลและลี้ภัยไปประเทศจอร์เจีย บอกว่า ข้อมูลจากทางการจอร์เจียระบุว่า มีชาวรัสเซียเข้าประเทศมายังกรุงทบิลิซิ เมืองหลวงของจอร์เจีย แล้วราว 20,000-25,000 คน และมีผู้สื่อข่าวที่ลี้ภัยออกจากรัสเซียแล้วอย่างน้อย 80 คน  

นายอังเดร โคเลสนิคอฟ เจ้าหน้าที่อาวุโสของ Carnegie Endowment องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีสำนักงานอยู่ในมอสโกบอกว่า การอพยพของชาวรัสเซียจำนวนมาก หมายถึงการลดชั้นลงของประเทศ เมื่อประเทศไม่ได้เป็นแหล่งรวมขนาดใหญ่ของคนที่มีความสามารถ หากปราศจากคนเก่งนี้ รัสเซียก็ไม่สามารถพัฒนาประเทศได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook