เหมืองขุดบิทคอยน์ไฟช็อต ควันพุ่งจากหน้าต่างชั้น 3 ไฟเกือบไหม้ตึกย่านบางพลี

ไฟช็อตเครื่องขุดบิทคอยน์ ควันพุ่งจากหน้าต่างชั้น 3 หวิดไฟไหม้ตึกย่านบางพลี ดับเพลิงมาทันก่อนเกิดประกายไฟ

(17 มี.ค.65) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ต. สุทธิพงศ์  ปานไทสง สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งมาจากชั้น 3 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ ริมถนนบางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงจาก อบต.บางพลีใหญ่จำนวน 2 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ  

ที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นซึ่งปลูกสร้างติดกันอยู่หลายคู่หา อาคารที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างกลาง ได้เพบกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งอกมาจากช่องหน้าต่างชั้นที่ 3 แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เนื่องจากด้านหน้าที่ประตูเหล็กม้วนปิดล็อกกุญแจอยู่ จึงได้ใช้คีมตัดเหล็กทำการตัดแม่กุญแจก่อนขึ้นไปตรวจสอบ พบว่าตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปจนถึงชั้นที่สองเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีใครพักอาศัยอยู่ มีเพียงชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นที่เกิดเหตุซึ่งมีการติดตั้งเหล็กดัดเอาไว้ ซึ่งภายในชั้นดังกล่าวได้มีการติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์เอาไว้นับร้อยเครื่อง และมีการติดตั้งพัดลมขนาดใหญ่ไว้เพื่อระบายความร้อน ได้พบกลุ่มควันดังกล่าวพวยพุ่งออกมาที่เครื่องขุดบิทคอยน์ที่ตั้งอยู่ช่วงกลางอาคาร แต่ยังไม่มีเปลวไปเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเข้าไปทำการใช้น้ำใส่ขวดและนำไปหยดใส่ในจุดที่เกิดการช็อทอยู่พักใหญ่ทุกอย่างก็เข้าสูงสภาวะปกติ พบว่าไฟได้เกิดการซ็อทในเครื่องขุดบิทคอยน์ได้รับความเสียหายไปจำนวน 2 เครื่อง  

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็นกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากช่องหน้าต่างชั้น 3  แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เนื่องจากประตูด้านหน้าปิดล็อกอยู่ และที่อาคารแห่งนี้ก็ไม่มีใครอยู่เขามาเช่าเพื่อติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์เท่านั้นจึงไม่มีคนอยู่ นานๆ คนที่เช่าจะเข้ามาดูสักที พอตนเห็นกลุ่มควันจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบดังกล่าว   

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า  กลุ่มควันดังกล่าวน่าจะเกิดจากเครื่องขุดบิทคอยน์น่าจะเกิดการช็อตตามสายไฟของระบบเครื่องจึงทำให้เกิดกลุ่มควันแต่ยังไม่มีเปลวไฟ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขึ้นไปตรวจสอบได้เสียก่อนที่จะเกิดเปลวไฟลุกไหม้ อย่างไรก็ตามจะได้เรียกเจ้าของมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป