ก.คลังเสนอ ครม.ต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือนอีกครั้ง
คลังเตรียมเสนอครม.พิจารณาขยายมาตรการออกไปอีก โดยขอให้คงไว้ทั้งหมดและไม่เกิน 6 เดือน
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้พิจารณาขยายมาตรการ 5 มาตรการ 6 เดือน ที่จะสิ้นสุดเดือน ธ.ค.ปีนี้ ออกไปอีก โดยจะเสนอให้คงทั้ง 5 มาตรการ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะเห็นชอบตามที่เสนอไปหรือไม่ โดยหากต่อก็ไม่ควรเกิน 6 เดือน
นายกรณ์ กล่าวว่า ทั้ง 5 มาตรการที่เสนอไปนั้น มีทั้งส่วนที่ไม่เปลี่ยนแปลง และส่วนที่เปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบ้างเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานหรือมีผลในทางปฏิบัติจริง
ส่วนมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในส่วนของการหักลดหย่อนภาษีเงินได้ 300,000 บาท ในส่วนของเงินต้นที่ซื้อที่อยู่อาศัยและโอนภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะหมดอายุเดือน มี.ค.53 จะยังไม่พิจารณา เพราะไม่ต้องการส่งสัญญาณให้ผู้ซื้อบ้านต้องชะลอการซื้อออกไป
"จุดประสงค์ของการให้หักลดหย่อนภาษีสำหรับเงินต้นซื้อบ้านได้ 300,000 บาท เพื่อต้องการกระตุ้นให้ประชาชนซื้อและโอนภายในเดือน ธ.ค.นี้ จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะต่ออายุหรือไม่ และเมื่อยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงอยากให้ประชาชนที่กำลังตัดสินใจรีบใช้สิทธิภายในเดือนนี้ก่อนจะหมดอายุมาตรการ ส่วนมาตรการด้านอสังหาฯ นั้น คงต้องพิจารณา 2 ส่วนนี้ควบคู่กันไป ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานพบว่าการลดภาษีธุรกิจเฉพาะจะมีผลต่อการกระตุ้นภาคอสังหาฯ มากกว่า แต่การตัดสินใจจะขยายเวลาการใช้มาตรการออกไปหรือไม่นั้น คงต้องประเมินภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง" นายกรณ์ กล่าว
สำหรับ 5 มาตรการ 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ต่ออายุมาแล้ว 3 ครั้ง คือ 1.ลดค่าใช้จ่ายน้ำประปาของครัวเรือนที่ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายการใช้น้ำสำหรับผู้ใช้น้ำประเภทที่อยู่อาศัยและผู้เช่าที่อยู่อาศัยที่มีปริมาณการใช้น้ำเดือนละ 0-30 ลูกบาศก์เมตร มีประชาชนได้ประโยชน์ 4 ล้านครัวเรือน 2.ลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน รัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 90 หน่วย มีประชาชนได้รับประโยชน์ 8.5 ล้านครัวเรือน 3.ลดค่าใช้จ่ายเดินทางรถโดยสารประจำทาง ประชาชนได้ประโยชน์วันละ 430,000 ราย
4.ลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถไฟชั้น 3 รัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 เชิงสังคม 164 ขบวน และรถไฟชั้น 3 เชิงพาณิชย์ 8 ขบวน มีประชาชนได้ประโยชน์เดือนละ 2.8 ล้านราย และ 5.ชะลอการปรับราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน