รอง ผบ.ตร. ยืนยัน! ตชด.ดูแลความปลอดภัยตามปกติ ไม่ได้คุกคาม "ปอ-โรเบิร์ต"
รอง ผบ.ตร. ยืนยัน ตชด.ปฏิบัติตามหน้าที่ ป้องกันแนวชายแดนเพื่อความปลอดภัยกับทุกฝ่าย ไม่ใช่การไปคุกคาม "ปอ-โรเบิร์ต" ระหว่างธุดงค์
วันนี้ (18 มีนาคม 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) กล่าวถึงกรณี หลวงพี่อุเทน พร้อมด้วย ปอ-โรเบิร์ต แถลงอ้างถูกตำรวจ ตชด.คุกคามว่า จากที่ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไปธุดงค์ของไฮโซที่เป็นข่าว เพียงแต่ ตชด.ไม่อยากให้ข้ามผ่านจุดตรวจซึ่งเป็นแนวชายแดนด้านความมั่นคง เพราะเป็นแนวชายแดนที่เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ให้มีการกระทำความผิดต่างๆ ทั้งการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว สินค้าหรือของผิดกฎหมาย ยาเสพติด ฯลฯ
ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ค่อนข้างอันตราย และยังเป็นยุทธการของทหารด้วย ประกอบกับขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านมีการต่อสู้กัน เพื่อความปลอดภัยจึงไม่อยากให้คนทั่วไป หรือการไปธุดงค์จะเป็นความเสี่ยง อาจจะดูแลไม่ไหว ไม่ใช่กรณีของการไปเกี่ยวข้องหรือติดตามสะกดรอย เป็นการทำงานปกติของหน่วย ตชด.
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ได้แจ้งไปแล้วว่าเป็นความห่วงใย และเป็นมาตรการด้านความมั่นคง ปกติจะมีการตรวจสอบหากเข้าไปตามแนวชายแดน ซึ่งอาจจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และเป็นแนวที่ไม่ปลอดภัยหากคนปกติเข้าไป ซึ่งเมื่อเข้าไปเราก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อ หากข้ามไปแนวประเทศเพื่อนบ้านก็อาจจะถูกจับกุมอีก และมีประเด็นเรื่องการต่อสู้กันของประเทศเพื่อนบ้านด้วยจึงไม่อนุญาตให้เข้าไป ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นเลย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แนวชายแดนด้านความมั่นคง ซึ่งแนวชายแดนต่างๆ เป็นพื้นที่ยุทธการตามช่องทางธรรมชาติ หรือแนวชายแดนต่างๆ จะขึ้นกับยุทธการทางทหาร ซึ่งทางทหารจะมอบพื้นที่ให้ตำรวจตระเวนชายแดนรับผิดชอบ เชื่อว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของตำรวจ ตชด. ซึ่งทาง ตชด.จะต้องวางระบบการดูแลต่างๆ ทั้งเส้นทางถนน และเส้นทางที่มีการลักลอบต่างๆ ก็จะมีจุดตรวจ
ซึ่งทาง ตชด.คงเห็นว่าจะมีการผ่านไปยังจุดตรวจ ซึ่งไม่มีนโยบายให้คนทั่วไปเข้าไปอยู่แล้ว เพราะหากเข้าไปก็ไม่สามารถควบคุมได้ว่าจะไปไหนต่อ หากข้ามฝั่งไปแนวประเทศเพื่อนบ้านก็อาจจะถูกจับกุมได้ มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิด และเพื่อความปลอดภัยกับทุกคน โดยไม่ได้ให้ข้ามผ่านจุดตรวจเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตำรวจตระเวนชายแดนไม่รู้ว่าจะมาทำอะไรกัน หรือมาธุดงค์ ซึ่งคนปกติก็จะไม่ให้เข้าอยู่แล้วหากไม่มีเหตุผลความจำเป็นจริงๆ เป็นเพียงจุดตรวจที่ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอยู่แล้ว หากมีชาวเมียนมาเข้ามาก็จะจับกุม หรือป้องกันคนไทยข้ามฝั่งไป หรือลักลอบอยู่ในพื้นที่ซึ่งอาจไปทำผิดกฎหมาย ตำรวจที่ไม่ได้รู้อะไรมาก่อน เป็นจุดที่ต้องดูแลความปลอดภัยไม่ให้ใครผ่านเข้าไปง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงกรณีที่โลกโซเชียลชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตระเวนชายแดนนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ เพราะตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ทำงานไปตามพยานหลักฐานต่างๆ ประชาชนคงเข้าใจว่าตำรวจไม่ได้มีเจตนาจะอยู่ฝ่ายไหน ทำงานไปตามหน้าที่เท่านั้น
โฆษก ตร. เผยสั่งเร่งตรวจสอบชายขับรถประกบ "ปอ-โรเบิร์ต" เป็นใคร
ขณะที่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อว่า หลวงพี่อุเทน พระจากวัดท่าไม้ ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อว่ามีชายฉกรรจ์พกปืน ขับรถประกบ และจอดขวางรถ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ผู้ต้องหาคดีแตงโม โดยมีลักษณะคล้ายตำรวจ แล้วฝากร้องเรียนไปยัง พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ช่วยเหลือกรณีดังกล่าวนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากพบว่าเป็นบุคคลใด หรือเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดใด มีเจตนาหรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมายทันที ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบต่อไป
โฆษก ตร. ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้สั่งการหรือมีนโยบายให้ดำเนินการเช่นว่านั้นกับผู้ต้องหาในคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีนี้หรือคดีใดๆ หากผู้ต้องหาในคดีมีพฤติกรรมที่จะผิดสัญญาประกัน ก็สามารถยกเลิกสัญญาประกัน และนำตัวกลับมาควบคุมตัว หรือส่งตัวฝากขังต่อศาลได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ผู้ต้องหา หรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมดังกล่าว สามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่เกิดเหตุ