แม่ช็อก ลูกสาววัย 17 ถูกแฟนหนุ่มขืนใจจนท้องโต ไม่รับผิดชอบ อีกไม่กี่วันจะคลอด

แม่ช็อก ลูกสาววัย 17 ถูกแฟนหนุ่มขืนใจจนท้องโต ไม่รับผิดชอบ อีกไม่กี่วันจะคลอด

แม่ช็อก ลูกสาววัย 17 ถูกแฟนหนุ่มขืนใจจนท้องโต ไม่รับผิดชอบ อีกไม่กี่วันจะคลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่เลี้ยงเดี่ยวจูงมือลูกสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความ หลังถูกแฟนหนุ่มข่มขืนจนท้อง ตอนแรกบอกจะรับผิดชอบ ก่อนบล็อกเบอร์หนี มีกำหนดคลอด 1 เม.ย. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 มี.ค.) แม่เลี้ยงเดี่ยว วัย 56 ปี จูงมือลูกสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.พงศกร ทองประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.ควนโดน จ.สตูล กรณี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน ได้มารับลูกสาวของตนไปเที่ยว แต่กลับไปมีอะไรกันในรีสอร์ต จนกระทั่งลูกสาวตั้งท้อง

โดยนายเอบอกจะรับผิดชอบเด็กในท้อง ทำให้ลูกสาวเก็บเด็กไว้ จนขณะนี้ท้องโตได้ 9 เดือนแล้ว และมีกำหนดคลอดในวันที่ 1 เม.ย. 65 นี้ จนถึงขณะนี้นายเอได้บล็อกโทรศัพท์ลูกสาว และไม่คิดจะรับผิดชอบเด็กในท้อง

ซึ่งตนเองก็ไม่มีงานทำ อาศัยอยู่กับลูกสาว มีหลานที่ต้องเลี้ยงอีก 2 ตน โดยมีลูกสาวคนโตเป็นผู้รับผิดชอบในครอบครัว ส่วนคนเล็กก็อยากให้เรียนต่อจนจบ จึงอยากให้พ่อเด็กมารับผิดชอบลูกที่อยู่ในท้อง

หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ติดต่อ นายเอ (นามสมมุติ) ที่แม่และหญิงสาวอ้างว่าเป็นพอเด็กในท้อง แต่นายเอพยายามบ่ายเบี่ยงอ้างว่าถูกกักตัวเพราะติดโควิดบ้าง อยู่ จ.นครศรีธรรมราช บ้าง โดยเจ้าหน้าที่ให้นายเอรีบเข้ามาให้ปากคำ และจะติดต่อพ่อแม่ของนายเอ เนื่องจากทั้ง 2 ยังเป็นเยาวชน

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว กล่าวว่า การมาแจ้งความในครั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำมิดีมิร้าย ข่มขืน ซึ่งฝ่ายชายไม่ยอมรับเด็กในท้อง โดยบอกว่าไม่ใช่ลูกของตน ซึ่งฝ่ายชายนั้นได้มารับลูกสาวของตนที่บ้านขณะที่ตนอยู่ 2 ครั้ง บอกจะออกไปหาอะไรกินกัน

เมื่อลูกสาวตั้งท้องตนเห็นความผิดปกติ เพราะไม่มีประจำเดือนหลายเดือน แต่ลูกสาวไม่ยอมบอกว่าท้อง มาบอกตนท้องโตและแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ในวันที่ 1 เม.ย. 65 นี้ จะเป็นวันครบกำหนดการคลอดของน้อง

และการมาแจ้งความในวันนี้ เพื่อให้ฝ่ายชายมารับผิดชอบ และหากไม่รับผิดชอบก็จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย และในส่วนของเด็กนั้น ตนเองก็จะเลี้ยงดูเอง ซึ่งหากว่าผู้ชายจะดูแล ก็ขอให้ส่งเงินมาให้โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของเด็ก เพราะตนเองก็ลำบากอยู่แล้ว

ด้าน ลูกสาว ก็กล่าวว่า ตนกับนายเอ (นามสมมุติ) เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ ม.5 ส่วนนายเออยู่ ม.4 เกิดปีเดียวกัน แต่อายุห่างกันประมาณ 5 เดือน นายเอย้ายไปเรียนมัธยมปลายที่ จ.กระบี่ โดยนายเอได้ทักมาทางแชทเฟซบุ๊ก จากนั้นก็คุยกันตลอด รู้จักกันได้ 5 เดือนก่อนท้อง

โดยวันเกิดเหตุนายเอได้มารับตนที่บ้านเพื่อไปหาอะไรกินกัน จากนั้นได้พาตนไปที่รีสอร์ต และได้ข่มขืนตนสู้แรงไม่ได้ จนกระทั่งเดือน ต.ค.64 ตนรู้ว่าท้องจึงได้บอกนายเอไป ตอนแรกนายเอไม่ยอมรับ แต่ต่อมาบอกว่าให้เก็บเด็กไว้ เพราะนายเอจะรับผิดชอบเอง แต่เรื่องนี้ไม่อยากให้แม่รู้ เพราะแม่เป็นครู

จนกระทั่งเดือน ม.ค. 65 ตนได้คุยกับนายเอเรื่องลูกในท้องอีก เพราะตนอยากเรียนต่อให้จบ ม.6 อยากให้มารับผิดชอบเรื่องลูก เพราะตนยังเรียนหนังสือไม่มีรายได้ แม่ก็ไม่มีรายได้ รายได้ในบ้าน 5 คน มีพี่สาวคนเดียวที่ดูแล หากนายเอไม่รับผิดชอบตนก็ไม่เป็นไร แต่อยากให้มาคุยเรื่องลูก เพราะตนดูแลเองคงไม่ไหว

ตนไม่เคยทราบเรื่องครอบครัวนายเอและไม่เคยไปที่บ้าน ทราบเพียงแต่แม่เป็นครู พ่อเป็นตำรวจที่ จ.สงขลา เมื่อนายเอพยายามบ่ายเบี่ยง ติดต่อไม่ได้แม่จึงพามาแจ้งความ ตนไม่เคยมีอะไรกับคนอื่น เด็กในท้องเป็นลูกของนายเอ หากนายเอไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นลูกจริง ตนก็พร้อมให้ตรวจดีเอ็นเอ ไม่ต้องมารับผิดชอบตน เพียงแค่รับผิดชอบลูกเท่านั้น เพราะตนสงสารแม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook