ยกฟ้อง ภาพ 70ไร่ คดีอั้งยี่-ซ่องโจร

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับยกฟ้อง ภาพ 70ไร่ คดีอั้งยี่-ซ่องโจร-เรียกดอกเบี้ยเงินกู้สูง ชี้ พฤติการณ์ไม่ครบองค์ประกอบความผิด

(15ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ 514 /2547 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือ สุภาพ สีแดง ฉายา "ภาพ 70 ไร่" นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ย่านคลองเตย อายุ 39 ปี,นายทองรัก งามบุญฤทธิ์ อายุ 62 ปี,นายสมศักดิ์ เจริญสาย อายุ 38 ปี และน.ส.ศยามล สิระนาธร ภรรยานายสุภาพ อายุ 33 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร,กรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209, 210, 213 และ 337 และเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 พ.ค.48 ให้จำคุกนายสุภาพ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี ในความผิดฐานเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่วนนายทองรัก, นายสมศักดิ์ และ น.ส.ศยามล จำเลยที่ 2-4 พิพากษายกฟ้อง อัยการยื่นอุทธรณ์ขอให้พิพากษาลงโทษจำเลย และนายสุภาพ จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์ บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันปล่อยเงินกู้ เก็บดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1-3 ต่อวัน และ ร้อยละ 7-10 ต่อเดือน ซึ่งคำนวณแล้วเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี จึงต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร โดยเป็นคณะบุคคล ปกปิดวิธีการ สมคบกันกระทำการพนัน ปล่อยกู้เก็บอัตราดอกเบี้ยสูงนั้น โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นชัดเจน ว่า พวกจำเลยกระทำการเล่นพนัน และแม้จำเลยที่ 1 จะรับว่าได้ปล่อยกู้ดอกเบี้ยอัตราสูง แต่พฤติการณ์การปล่อยกู้ก็กระทำโดยเปิดเผย พฤติการณ์จำเลยจึงยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้

ส่วนความผิดกรรโชกทรัพย์นั้น โจทก์มีเพียงผู้เสียหายเพียงปากเดียวที่เบิกความว่า ถูกขู่ทำร้าย ส่วนผู้เสียหายอีกหลายปากเบิกความทำนองเดียวกันว่า ได้ขอกู้เงินด้วยความสมัครใจ อุทธรณ์จำเลยที่ 1 จึงฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี สำหรับนายสุภาพ หรือภาพ 70 ไร่ นั้น ปัจจุบันยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ เนื่องจากคดีสมคบกับพวกค้ายาเสพติดนั้น ศาลฎีกา มีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต และยังถูกศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก 20 ปี ฐานทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ส่วน น.ส.ศยามล ภรรยา ก็ยังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 20 ปี ฐานฟอกเงินเช่นกัน ซึ่งคดีอยู่ระหว่างพิจารณาศาลอุทธรณ์