หนุ่มคลั่งล็อกคอคนแก่ จ้วงแทงด้วยตะไบลับเลื่อย ดับกลางถนนเลือดไม่ไหลสักหยด

หนุ่มคลั่งหลอนยา ล็อกคอคนแก่วัย 69 ก่อนจ้วงแทงไม่ยั้งด้วยตะไบลับฟันเลื่อย เลือดตกในไม่ไหลสักหยด สิ้นใจกลางถนน

เหตุการณ์คนร้ายเมาคลั่งก่อเหตุฆาตกรรมเครือญาติกลางถนนในหมู่บ้านรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 21 มีนาคม 2565 พันตำรวจโทสมเชิญ ทองใหญ่ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมบริเวณถนนคอนกรีตในหมู่บ้านใกล้แยกน้ำพุ ถนนแยกชลประทาน หมู่ 4 ตำบลไชยมนตรี อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช

ในที่เกิดเหตุบนถนนคอนกรีตข้างป่าสวนยางพบศพ นายเสนอ อายุ 69 ปี สภาพเสียชีวิตอยู่กลางถนนหน้าอกด้ายซ้ายมีบาดแผลถูกแทงด้วยของแหลมคล้ายเหล็กขูดชาร์ปหลายแผล ใกล้ศพพบมีดพร้าตกอยู่ 1 เล่ม ตะไบสามเหลี่ยมสำหรับลับคลองฟันเลื่อย น่าจะเป็นอาวุธของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนคนร้ายหลังจากเกิดเหตุได้วิ่งไปหลบอยู่ในบริเวณบ้านห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปคุมตัวไว้ได้

หลังจากนั้นได้คุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ออกมาขึ้นรถไปยัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทันที ทราบชื่อคือ นายเอกพงศ์ อายุ 42 ปี หรือ “ตาอิฐ” เป็นเครือญาติกับนายเสนอผู้ตาย ผู้ก่อเหตุรายนี้ยังอยู่ในสภาพนัยตาเหม่อลอยพูดจาสับสน อ้างว่าถูกคนตายด่าบุพการีทุกวันจนเกิดความแค้น ขณะเกิดเหตุพบนายเสนอเดินอยู่จึงเข้าไปล็อกคอแล้วแทงหลายครั้งจนเสียชีวิต ก่อนที่จะอ้างอีกว่าไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา เพียงแต่ก่อเกิดเหตุนั้นได้ซื้อเหล้าที่ร้านของชำมากิน 10 บาทเท่านั้น ก่อนที่จะบอกอีกว่าแท้จริงแล้วมีปัญหากันในเรื่องที่ดิน

ขณะที่ญาติของนายเอกพงศ์ ได้นำบัตรประจำตัวของนายเอกพงศ์มอบให้พนักงานสอบสวนพร้อมทั้งระบุว่าแท้จริงแล้วนายเอกพงศ์เสพยาเสพติดอย่างหนัก ทั้งกัญชาทั้งยาบ้าจนเกิดอาการหลอนบ่อยครั้ง มักจะไปหาเรื่องกับผู้ตายเสมอ และยังข่มขู่ขอเงินญาติแบบรายวันจนสร้างความเอือมระอาอย่างมาก

ส่วนชาวบ้านอีกรายที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่าวานนี้นายเอกพงศ์ได้ไปยิงหลังคาบ้านนายเสนอมาแล้ว และนายเสนอได้สอบถามว่าจะยิงทำไม และพยายามที่จะห้ามสุนัขที่นายเสนอเลี้ยงไว้กับสุนัขของนายเอกพงศ์ไม่ให้กัดกันน่าจะทำให้นายเอกพงศ์เกิดอาการคลั่งขึ้นมา จนกระทั่งช่วงสายที่ผ่านมานายเอกพงศ์ได้เดินถือมีดพร้าเตร่ไปมาบนถนนพูดจาคนเดียว ทำนองว่า “กูจะฆ่าๆ” ก่อนที่จะมาพบนายเสนอ และเข้าทำร้ายแต่นายเสนอได้แย่งมีดพร้าไว้ได้โดยไม่รู้ว่านายเอกพงศ์มีตะไบลับคลองฟันเลื่อยอีกอัน

ก่อนที่นายเอกพงศ์จะล็อกคอนายเสนอได้แล้วจ้วงแทงหน้าอกไม่ยั้งจนทรุดลงกับถนน โดยที่ไม่มีเลือดออกจากบาดแผลเลย โดยคาดว่าบาดแผลที่ถูกแทงจากตะไบลับคลองฟันเลื่อย แผลจะไม่เปิด ทำให้เลือดไม่ไหลแต่ตกใน เป็นเหตุให้เสียชีวิต

หลังก่อเหตุ นายเอกพงศ์ได้วิ่งไปหลบในบริเวณบ้านของตัวเองที่ห่างไปราว 100 เมตร ส่วนนายเสนอเมื่อวิ่งไปดูกลับพบว่าเสียชีวิตไปแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่นานหลังจากนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้และนำตัวไปดำเนินคดีในสภาพที่ยังเมาไม่สร่าง