เจอตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขโมยปืนหลวง ยิงลูกเลี้ยงดับ หนีไปผูกคอตายในป่าร้อยรู
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขโมยปืนหลวง ยิงถล่มบ้านเมียเก่า กระสุนถูกลูกเลี้ยงดับ ตามล่ากว่า 1 สัปดาห์ พบผูกคอตายในป่าร้อยรู
ความคืบหน้ากรณีที่ นายพิทพิรุณ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และหัวหน้าชุดประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ ที่ขโมยรถยนต์หลวงและขโมยปืนลูกซองยาวของทางราชการ ไปก่อเหตุกระหน่ำยิงรถยนต์ และบ้านอดีตภรรยา ที่ ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา
จนเป็นเหตุให้ลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกคนโตของอดีตภรรยา ถูกกระสุนเจาะคอเสียชีวิตคาบ้าน ส่วนอดีตภรรยา แฟนใหม่ และลูกคนเล็ก และอดีตแม่ยายรอดตาย โดยชนวนเหตุเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากเห็นอดีตภรรยาซึ่งขอเลิกรากับนายพิทพิรุณ ได้ประมาณ 1 เดือนเศษอยู่กับแฟนใหม่ที่บ้าน จึงเกิดความแค้นและก่อเหตุสลดดังกล่าว
- ป่าไม้ปืนโหด เห็นอดีตเมียอยู่กับแฟนใหม่ บุกกระหน่ำยิง ลูกเลี้ยงหนีไม่ทันดับคาบ้าน
- ยังจับไม่ได้ ป่าไม้ปืนโหดยิงลูกเลี้ยงดับคาบ้าน ซ้ำโทรหาอดีตเมีย ขู่ฆ่ายกครัว
ซึ่งหลังเกิดเหตุทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 3 , หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธร จ.บุรีรัมย์ , ตำรวจ สภ.ปะคำ , สภ.โนนดินแดง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ กว่า 100 นาย ก็ได้กระจายกำลังติดตามไล่ล่าตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตป่าละเลิงร้อยรู รอบพื้นที่หมู่บ้าน และตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือซ่อนตัว เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ และถูกตำรวจออกประกาศจับเพราะเป็นบุคคลอันตราย
ล่าสุดวันนี้ (21 มี.ค.65) มีรายงานว่าพบศพนายพิทพิรุณ ผู้ต้องหา ผูกคอเสียชีวิตในด้านทิศตะวันตกของป่าละเลิงร้อยรู คาดว่าน่าจะตัดสินใจปลิดชีพตัวเองเพื่อหนีความผิดที่ก่อเอาไว้ เพราะนายพิทพิรุณ ผู้ต้องหารายดังกล่าวถูกศาลอนุมัติหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ,พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพา หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน” ทั้งยังถูกแจ้งความเอาผิดฐานลักทรัพย์ของทางราชการ เพราะขโมยอาวุธปืน และรถยนต์หลวงไปประกอบเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนว่าจุดที่พบศพผู้ต้องหานั้น พบอาวุธปืนที่ขโมยไปใช้ก่อเหตุด้วยหรือไม่ รอพนักงานสอบสวน และแพทย์เวรฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง