ยายวัย 81 ร่ำไห้ เพิ่งรู้ลูกนอกไส้แอบถอนเงิน 2.7 ล้าน นอนกอดสมุดบัญชีเปล่าเป็นปีๆ

ยายวัย 81 ร่ำไห้ เพิ่งรู้ลูกนอกไส้แอบถอนเงิน 2.7 ล้าน นอนกอดสมุดบัญชีเปล่าเป็นปีๆ

ยายวัย 81 ร่ำไห้ เพิ่งรู้ลูกนอกไส้แอบถอนเงิน 2.7 ล้าน นอนกอดสมุดบัญชีเปล่าเป็นปีๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยายวัย 81 ร่ำไห้ เพิ่งรู้เงินหายเกลี้ยงบัญชี 2.7 ล้าน เจ็บยิ่งกว่าโดนปล้น เพราะเป็นฝีมือคนที่เลี้ยงมาแต่เด็ก รักเหมือนลูก

(22 มี.ค.65) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ชมรมทนายจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.เที่ยง ประชุมสาร อายุ 81 ปี  เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังขายที่ดินที่เป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่จำนวน 11 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา อำเภอพุทธบาท จ.สระบุรี ในราคา 2,700,000 บาท เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2563 ได้เรียก น.ส.รสสุคนธ์ หรือ โบว์ ซึ่งรู้จักกันและเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กให้มาทำธุรกรรมในการขายที่ดิน และช่วยนำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากธนาคาร ซึ่งน.ส.โบว์ ได้พายายเที่ยงไปเปิดบัญชี คือ 1.ธนาคารTMB สาขาพระพุทธบาท ชื่อบัญชี น.ส.เที่ยง ประชุมสาร จำนวนเงิน 2,200,000 บาท (สองล้านสองแสนบาท) และเปิดบัญชีธนาคารออมสินสาขาพระพุทธบาทชื่อ
น.ส.เที่ยง ประชุมสาร จำนวนเงิน 500,000บาท (ห้าแสนบาท)

หลังจากนั้นปรากฎว่า น.ส.โบว์ ได้สมัครแอปพลิเคชั่น กับบัญชีทั้งสองแล้วทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารTMB จำนวน 2195,000 บาทและทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารออมสิน จำนวน 500,000 บาทโดยยายเที่ยงไม่ทราบว่ายอดเงินถูกเบิกจนหมดนอนกอดสมุดบัญชีว่างเปล่ามานานกว่า 2 ปี ยายเที่ยงได้สอบถาม น.ส.โบว์ยอมรับว่า เป็นผู้ถอนเงินออกไปจากบัญชีจริง และจะทยอยคืนเงินให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงได้มาร้องทุกข์กับทนายโป้งเพื่อให้ช่วยเหลืออยากได้เงินคืน เหตุเกิดหมู่บ้านป่าแหน ม.10 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี

ยายเที่ยง กล่าวว่ารู้จักแม่น้องโบว์ตอนไปตัดเสื้อผ้าและรู้จักกันมาตั้งแต่น้องโบว์ยังไม่เกิด ยายทำงานเข้ากะละ 8 ชั่วโมง พอกลับจากทำงานก็จะมา เลี้ยงน้องโบว์จนกว่าจะเข้ากะอีกวัน พ่อแม่น้องโบว์เขาตัดเสื้อผ้าไม่ค่อยมีเวลา ซึ่งตนชอบเด็กผู้หญิงรักน้องโบว์ยิ่งกว่าลูก ตนมีที่นาติดกับน้องสาวอยู่ที่จังหวัดสระบุรี 11 ไร่ 2 งาน น้องสาวขายที่ไปก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้บอกกับตน ถ้าบอกตนก็จะพ่วงขายไปด้วยเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ต่อมามีนายหน้ามาขอซื้อที่ดิน ตนเจ็บใจเรื่องน้องสาวที่ขายที่ดินแล้วไม่บอก ตนจึงได้โทรปรึกษาน้องโบว์ น้องโบว์เลยบอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับนายหน้าที่ซื้อที่ดินเองจะทำเรื่องซื้อขายวันเดียวให้จบเลย

หลังจากได้เงินค่าขายที่ดินมา 2 ล้าน 7 แสนบาท ยายเที่ยงให้โบว์กับแฟนนำเงินจัดการฝากธนาคารให้ หลังฝากเงินยายได้สมุดธนาคารมา 3 เล่ม ยายเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีผ่านไป 2 ปีกว่ายายโทรหาโบว์ให้มาหาจะไปธนาคารเพื่อจะดูเงินว่าเหลือเท่าไหร่ได้ดอกไหมแต่โบว์ไม่ยอมมา ยายจึงตัดสินใจไปที่ธนาคารให้พนักงานเช็กให้ ปรากฎว่าเงินทั้ง 3 บัญชี รวม 2 ล้าน 7 แสนบาท หายไปหมดเลย ยายเลยโทรไปหาโบว์ให้มาคุยกันว่าเงินหายไปไหนแต่โบว์ไม่มาอ้างว่าไม่ว่างขายหอยนางรมอยู่ ลูกค้าเยอะบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง กักตัวบ้าง บ่ายเบี่ยงตลอดแต่ยายไม่เคยว่าอะไรโบว์ ยายเสียใจมากเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แม่ไม่มีนมให้กินยายก็ต้องไปซื้อนมมาให้ ยายรักยิ่งกว่าพี่น้องยายอีก เอาเงินยายไปไม่ว่าเก็บเงินไว้ให้ยายสัก 5 แสนก็ยังดี นี่เอาไปหมดเลย ตอนนี้ยายไม่เหลืออะไรแล้ว คิดถึงเมื่อไหร่น้ำตาไหลทุกที เรารักมัน มันทำกับเราแบบนี้เจ็บมากกว่าโจรมาปล้นอีก เมื่อ 2 วันที่แล้วโทรไปโบว์บอกว่าจะผ่อนใช้ให้ ตนไม่เชื่อเพราะเงินไม่มีในธนาคารแล้ว แต่สามีโบว์บอกว่าเงินขี้ปะติ๋วเค้ามีบ้านตั้ง 3 หลังยายไม่รู้จะทำยังไง

ตอนนี้บ้านยายไม่มีอยู่ มันเต็มที่จริงๆ ได้แจ้งความไว้กับทางตำรวจฝากถึงคนแก่ถ้ามีใครมายืมเงินอย่าให้เพราะจะไม่ได้คืน ซึ่งก่อนหน้านี้ยาย ยังไม่ได้ขายที่ โบว์มายืมทองไปจำนำบอกว่าเดี๋ยวเอามาให้ พอทวงก็ไม่ได้ มายืมไปหลายครั้งแล้วเส้น 2 บาทเส้นละ 3 บาท น้ำพักน้ำแรงของยายทั้งนั้น ทุกวันนี้ยังไม่ได้คืน ตอนเอาไปได้ แต่ตอนคืนไม่ยอมมาคืน ตนถามว่าพ่อแม่รู้ไหมเขาตอบว่ารู้ แต่ไม่มีใครช่วยเหลืออะไร ตนเคยถามธนาคารว่าเงินยาย ถูกถอนไปได้ยังไง ทางธนาคารก็งงว่าเบิกไปได้ยังไง วันนี้เลยมาร้องให้ทางทนายโป้งช่วยเหลือ

 

ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่าสืบเนื่องจากคุณยายได้รับเลี้ยงเด็กไว้ 1 คน เริ่มต้นจากคุณแม่เขาตั้งท้อง และ ไม่อยากได้เด็กหญิงคนนี้ จะทำแท้งจึงได้ปรึกษาคุณยาย ด้วยความเมตตาคุณยายเลยบอกว่าอย่าไปทำแท้งเลย ถ้าคลอดมาเป็นผู้หญิง คุณยายจะเลี้ยงเอง ถ้าเป็นผู้ชายไม่เลี้ยงเนื่องจากผู้ชายจะซน หลังจากนั้นได้คลอดออกมาเป็นผู้หญิงชื่อน้องโบว์ คุณยายเลี้ยงมาตลอด จนกระทั่งมีครอบครัวมีลูกมีสามี วันดีคืนดีวันที่ 20 มกราคม 2563 คุณยายได้รับการติดต่อทาบทามมีคนมาซื้อที่ที่อำเภอพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี 11 ไร่กับ 2 งาน คุณยายจึงได้เรียกน้องโบว์ ซึ่งรักเหมือนลูก เลี้ยงมา 20-30 ปี แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ยายบอกน้องโบว์ว่ามาดูเรื่องขายที่ให้แม่หน่อย น้องโบว์มาดูแล้วทำเรื่องขายที่ให้ เป็นเงินทั้งหมด 2 ล้าน 7 แสนบาท ในสัญญาระบุว่าจ่ายเป็นเงินสด จำนวน 5 แสนบาท อีก 2 ล้าน 2 แสนบาท จ่ายเป็นเช็ค ซึ่งคุณยายไม่รู้เรื่องอะไรเลยทางน้องโบว์จัดการให้หมดโดยเอาเช็ค 2 ล้าน 2 แสนบาท ไปเข้าบัญชีธนาคาร บัญชีหนึ่งแล้วถอนเงินมา 1 ล้านบาท เพื่อเอาไปซื้อสลากออมสินให้คุณยาย ส่วนอีก 5 แสน เอาไปเข้าบัญชีธนาคาร อีกธนาคารหนึ่ง โดยบอกคุณยายว่า เงินก้อนนี้เก็บไว้เพื่อจะใช้จ่ายตลอดชีวิต ส่วนเงิน 1 ล้าน 2 แสนบาทฝากประจำไว้ ส่วนเงิน 1 ล้านบาทซื้อสลากออมสินไว้รวมแล้วเป็นเงิน 2 ล้าน 7 แสนบาท คุณยายไว้เนื้อเชื่อใจ

แต่ในระหว่าง ที่ทำธุรกรรมกับธนาคาร คุณยายบอกนั่งอยู่กับโบว์ตลอดถึงเวลาโบว์เขาเรียกไปเซ็นเอกสารหน้าเคาน์เตอร์ แต่ทำอะไรบ้างคุณยายไม่รู้ เซ็นเสร็จก็ได้บัญชีธนาคารมา 3 เล่ม เล่มแรกจำนวนเงิน 1 ล้าน 2 แสนบาท (บัญชีฝากประจำ) , เล่มที่ 2 (สลากออมสิน) จำนวนเงิน 1 ล้านบาท ,เล่มที่ 3 (บัญชีออมทรัพย์) จำนวนเงิน 5 แสนบาท คุณยายได้เก็บสมุดบัญชีทั้ง 3 เล่มนี้ไว้เป็นเวลา 2 ปีกว่า อยากรู้ว่าได้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ เลยเอา สมุดบัญชีไปอัปเดทปรากฏว่าเงินหายหมด ไม่เหลือสักบาท บางบัญชีเหลือเพียง 1 บาท 50 สตางค์ เลยไปสอบถามธนาคาร หลังธนาคารดู statement เจ้าหน้าที่บอกว่า เกิดจากการถอนจากแอปพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือบ้าง ถอนผ่านตู้ ATM บ้าง

สอบถามคุณยายบอกว่า ใช้โทรศัพท์มือถือผ่านแอปไม่เป็นเพราะโทรศัพท์ยายเป็นโทรศัพท์แบบกดปุ่ม ซึ่งคุณยายไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนและไม่ได้รู้เรื่องถอนเงินออกเลย ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นไปได้ที่น้องโบว์อาจจะรู้กันกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะขั้นตอนในการฝากเงิน ถ้าจะมาเปิดเป็นแอปฯ เพื่อทำธุรกรรมผ่านมือถือจะต้องมีการกรอกข้อมูลยืนยันตัวตน  เจ้าหน้าที่ธนาคารน่าจะสอบถามว่าคุณยายใช้เป็นไหมตนสงสัยไว้ก่อนว่าจะเป็นการร่วมไม้ร่วมมือกับน้องโบว์หรือเปล่า ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการ สืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำความผิด

เบื้องต้น จากการที่ปรารถนาดีหรือหวังดีไม่บอกข้อเท็จจริงอาจจะเป็นเรื่องของฉ้อโกง และเปิดแอปพลิเคชั่นในการถอนเงิน ถือว่าเป็นการลักทรัพย์ ผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียหายทั้งคุณยายและทางธนาคาร จะต้องมาดูแลรับผิดชอบทั้งข้อหาคดีอาญา ในการลักทรัพย์ผ่าน บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และข้อหาฉ้อโกงส่วนในเรื่องของ สร้อยคอ แหวน กำไล เลสข้อมือ ซึ่งเป็นทองคำมูลค่าน้ำหนักประมาณ 20 บาท อันนี้จะเป็นเรื่องของการยักยอก ขอฝากน้องโบว์ไว้ น้องโบว์เอาไปจำนำแล้วไม่เอามาคืน หรือแกล้งบอกว่าเอาไปจำนำ จะอยู่กับน้องโบว์ก็จะเป็นข้อหา ฉ้อโกง โดยทั้งหมดจำนวนเงิน 2 ล้าน 7 แสนบาท และทองคำ น้ำหนักประมาณ 20 บาทน้องโบว์ต้องรับผิดชอบ

ในกรณีที่ธนาคารซึ่งตนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารอาจจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือเปล่าต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับพนักงานธนาคาร และเรียกร้องธนาคารออมสิน ธนาคารทหารไทย ออกมาดูแลรับผิดชอบด้วย เพราะคุณยายถือเป็นลูกค้า เงินหายไปที่อยู่ในบัญชี เงินฝากธนาคารมีความ ผิดพลาดของพนักงานธนาคาร เพราะฉะนั้นธนาคารต้องออกมารับผิดชอบ เนื่องจากคุณยายได้ไปแจ้งพนักงานสอบสวนแล้ว ในประจำวันที่ตนเห็น แจ้งเป็นข้อหาลักทรัพย์ผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พรุ่งนี้จะพาคุณยาย ไปพบพนักงานสอบสวน ไปพบผู้กำกับการ สภ.ที่ได้แจ้งความไว้ เพื่อให้พนักงานสอบสวนหรือผู้กำกับ เดินเรื่องตามตามขั้นตอนที่ถูกต้องครบถ้วน ยังไงต้องเรียกน้องโบว์มาให้ปากคำว่ากระทำความผิดหรือเปล่า หวังอย่างยิ่งว่าพนักงานสอบสวนที่คุณยายไปแจ้งความไว้ จะดำเนินการให้คุณยายเร็วๆ เรียกน้องโบว์มาสอบปากคำแจ้งข้อหาดำเนินคดี หาข้อมูลข้อเท็จจริงไปถึงพนักงานธนาคารที่รู้เห็นเป็นใจในการทำแอปพลิเคลชั่นวันนี้ต้องดำเนินคดีกับพนักงานธนาคารด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook