เปิดใจ หลวงพ่อ เจ้าของพิตบูลบุกบ้านชาวบ้านไล่ขย้ำแมวตาย ยืนยันหมาไม่ดุ

เจ้าของพิตบูลพังมุ้งลวดบุกบ้านชาวบ้าน ไล่ขย้ำแมวตาย เปิดใจ เตรียมนำหมาทั้งหมดกลับบ้าน หากไม่มีคนดูแลก็ต้องสึกไปเลี้ยงเอง ยืนยันหมาไม่ดุ

ความคืบหน้ากรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด สุนัขพันธุ์พิตบูล จำนวน 3 ตัว พังประตูมุ้งลวดของชาวบ้าน เข้าไปไล่กัดแมวถึงในบ้าน จนทำให้เด็กชายสองคนที่นั่งอยู่ในบ้านตกใจวิ่งหนี จากนั้นสุนัขพิตบูลก็ไปรุมขย้ำแมวชาวบ้านจนตาย

ขณะที่ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่นว่า ถ้าหากสุนัขเปลี่ยนความนสนใจ ไปกัดเด็กจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ ต่อมาทราบว่าหมาพิตบูลทั้ง 3 ตัวในคลิปนั้นเป็นหมาของพระที่เลี้ยงไว้ในวัดเขาเทพนิมิตร

• คลิปนาทีช็อก หมาพิตบูล 3 ตัว พังประตูบุกเข้าบ้านไล่กัดแมวตาย เด็กวิ่งหนีทันหวุดหวิด

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 มี.ค. 65) ทีมข่าวอีจันเดินทางลงพื้นที่ที่วัดเขาเทพนิมิตร ในพื้นที่หมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และได้พบกับ พระสนธยา อายุ 60 ปี บวชมานาน 9 พรรษา ซึ่งเป็นพระเจ้าของสุนัขพิตบูลทั้ง 3 ตัว ที่ปรากฏในคลิป

โดย พระสนธยา กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงสุนัขเอาไว้ทั้งหมด 9 ตัว เป็นพิตบูลแท้ 2 ตัว ลูกผสมพิตบูล 5 ตัว และสุนัขพันธุ์ไทยอีก 2 ตัว โดยพระสนธยา ยืนยันว่าสุนัขที่เลี้ยงทุกตัวไม่มีพฤติกรรมดุร้าย สังเกตได้จากที่เห็นว่าพื้นที่รอบกรงเลี้ยงสุนัขมีทั้งไก่ นก และแพะ ที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงในเขตวัด แต่สุนัขพวกนี้ก็ไม่เคยไปไล่กัด ขณะที่พระรูปอื่นที่อยู่ภายในวัดก็ยืนยันว่า สุนัขเหล่านี้ไม่ดุร้ายอย่างที่คิด ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดยังสามารถเล่นกับสุนัขเหล่านี้ได้โดยไม่มีอันตราย

พระสนธยา ยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนั้น เริ่มจากการที่ตนเองนำสุนัขไปอาบน้ำในบ่อข้างวัดช่วงเย็นตามปกติ ซึ่งขณะนั้นมีแมวของชาวบ้านวิ่งเข้ามาในเขตวัด ฝูงสุนัขหันไปเห็นจึงพยายามวิ่งไล่ตามสัญชาตญาณ ตนเองพยายามจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทัน จนไปเกิดเหตุตามในคลิปวงจรปิดดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากวัดประมาณ 200 เมตร มีรั้วลวดหนามกั้น แต่สุนัขก็ยังลอดเข้าไปได้

ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาสุนัขของตนไม่เคยเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว หรือบ้านหลังอื่นที่อยู่รอบวัดแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าสุนัขเป็นฝ่ายผิด หลังเกิดเหตุก็ได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้ว

รวมถึงได้ไปคุยกับเจ้าอาวาสและตกลงกันว่า หลังจากนี้จะนำสุนัขทั้งหมดกลับไปเลี้ยงที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมาก แต่หากนำกลับไปเลี้ยงแล้วไม่มีคนดูแลหรือสุนัขตามตนกลับมาที่วัด ตนก็จะตัดสินใจลาสิกขาจากความเป็นพระกลับไปเลี้ยงสุนัขทั้งหมดที่บ้าน

พระสนธยา ยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้เลี้ยงสุนัขเหล่านี้มานานกว่า 8 ปีแล้ว โดยมีญาติโยมเคยมาขอไปเลี้ยง ตนก็ยินดีให้ไป แต่สุดท้ายก็นำกลับมาคืน หลังจากนี้หากมีคนใจบุญที่อยากจะนำสุนัขเหล่านี้แบ่งไปเลี้ยงดูแล ตนก็ยินดีมอบให้ โดยสามารถมาติดต่อที่วัดได้โดยตรง