สำนักสงฆ์ “หลวงพี่อุเทน” ต้องยื่นขอเช่าที่ดินจากธนารักษ์ ส่อถูกเก็บย้อนตั้งแต่ปี 51
อธิบดีกรมธนารักษ์ เผย ให้สำนักสงฆ์ “หลวงพี่อุเทน” ยื่นหนังสือขออนุญาตใหม่ใน 30 วัน จ่อเก็บค่าเสียหายย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551
วันนี้ (23 มีนาคม 2565) นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย พล.ต.มนิต ศิริรัตนากูล ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 เปิดเผยว่า ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบธรรมสถานวิโมกสิวาลัย หรือมูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี หมู่ 7 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งพบมีการส่อรุกพื้นที่ราชพัสดุนั้น เบื้องต้นเนื้อที่ทั้งหมดของธรรมสถานมีทั้งสิ้น 38 ไร่ และโดยรอบเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่มีการจัดให้เช่าเรียบร้อยแล้วสำหรับประชาชน
สำหรับสถานที่ดังกล่าว ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นมูลนิธิฯ มีการจัดตั้งและมีหนังสือรับรองเรียบร้อย ซึ่งตามขั้นตอนหากเป็นการเช่าที่ดินทำการเกษตรและอยู่อาศัย จะเป็นอำนาจการยินยอมของกองพลทหารพัฒนาที่ 1 แต่หากเช่าในวัตถุประสงค์อื่นจะเป็นอำนาจการยินยอมของกองทัพบก ทั้งนี้ แม้ว่าเป็นมูลนิธิแล้ว แต่ยังต้องขออนุญาตกรมธนารักษ์พิจารณาให้เช่า โดยหลังจากนี้จะให้ทางธรรมสถานดำเนินการจัดขอเช่าพื้นที่อย่างถูกต้อง
หลังจากนี้จะต้องมีการพิจารณาร่วมกันอีกครั้งว่าเหมาะสมที่จะให้เช่าหรือไม่ และหากสามารถให้เช่าได้ จะต้องเรียกเก็บค่าเสียหายย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ตามเงื่อนไขของการเช่า ส่วนความผิดทางอาญา ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง และภาพรวมให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ทางทหารมีการเข้ามาติดตามตั้งแต่ต้น มิได้เพิ่งมาตรวจสอบเพราะกรณีปอและโรเบิร์ต โดยขณะนั้นธรรมสถานมีการแจ้งว่าจะตั้งเป็นวัด ซึ่งก็สามารถอนุญาตให้ใช้ได้โดยไม่ต้องเช่า กรณีนี้หากพูดตามกฎหมายถือว่าผิด แต่ในความผิดนั้นต้องดูองค์ประกอบว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนาหรือไม่ เล็งเห็นผลหรือไม่ ส่วนจะเรียกหลวงพี่อุเทนเข้ามาให้ข้อมูลและชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องดูตามข้อมูลว่าจำเป็นถึงขนาดนั้นหรือไม่
ส่วนกรอบเวลาในการให้ธรรมสถานยื่นดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ยังไม่มีกำหนดเวลา แต่สั่งการให้ทำโดยเร็วที่สุด โดยสั่งการธนารักษ์พื้นที่แล้วให้รีบดำเนินการ
ขณะที่ พล.ต.มนิต กล่าวว่า สำหรับเหตุผลในการสร้างมูลนิธิดังกล่าว ตนยังไม่ได้มีการถามเจ้าอาวาสถึงรายละเอียด เพียงแต่บอกว่าหากเปลี่ยนวัตถุประสงค์จะต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ โดยจากที่ผ่านมากองทัพบกมีการเข้ามาติดตามและชี้แจงเป็นระยะ
ซึ่งเดิมมีวัตถุประสงค์เพื่อตั้งเป็นวัด แต่เมื่อเปลี่ยนวัตถุประสงค์จะต้องแจ้งใหม่ โดยให้ยื่นเอกสารขออนุญาตใน 30 วัน หากหลังจาก 30 วัน ทางธรรมสถานไม่มีการดำเนินการ กองทัพบกจะดำเนินมาตรการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งจะมีหนังสือแจ้งเตือนไปก่อน 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือน จากนั้นจะรวบรวมหลักฐานดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อไป
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ