"หมิว สิริลภัส" ฉายาเครื่องด่าผี หลังถูกวิญญาณตาม เผยป่วยซึมเศร้า-ทำร้ายตัวเอง
หมิว สิริลภัส นักแสดงสาวสุดแซ่บ ที่วันนี้ออกมาเปิดใจเหตุโดนวิญญาณสองแม่ลูกตามเอาชีวิตหลายครั้งจนเจ้าตัวทนไม่ไหว เดือดจัดถึงกับด่าผีกลางทวิตเตอร์ พร้อมเผยอาการป่วยซึมเศร้าที่ถึงขั้นทำร้ายตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด และเพราะเหตุอะไรทำไมถึงโทรหาโรคจิตทุกครั้งที่ตัวเองอยากคลายเครียด ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกร
ฉายาล่าสุดที่ได้ตอนนี้คือเครื่องด่าผี คือยังไง ?
หมิว : "คือหมิวเคยโดนทักว่าถูกทำของมานานมากเป็นสิบปี อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ ล่าสุดเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เราก็ไปรดน้ำมนต์จนเขาจะออกแล้ว เรารู้ว่าเขาออกไปแล้ว แต่ล่าสุดมีน้องคนนึงมาทักซึ่งไม่เคยรู้จักหมิวมาก่อนแล้วก็เพิ่งเจอแม่ครั้งแรก บอกว่าหมิวจะขับรถไปที่ไกลๆ ใช่มั้ย รถพี่สีดำใช่มั้ย อย่าให้เขาไปนะ เขาจะหลุดโค้ง เพราะว่ามีคนตามอยู่ตามแบบจะเอาให้ตาย แล้วแม่ก็ถามว่าลักษณะเป็นยังไง เป็นผู้หญิงผมยาวแล้วก็จูงมือเด็กผู้ชายอีกคนนึง ซึ่งเป็นคนที่หมิวเห็น เหมือนเราหลับไปแป๊ปนึงแล้วหมิวเห็น เขาก็มาจับมือแล้วก็บอกว่า ป่ะไปด้วยกัน เราก็บอกว่าไม่ไปๆ เราก็คิดว่าไปแล้ว สรุปอ้าว ไม่ไปหรอ ก็เลยโมโหก็เลยด่าไป"
แล้วตอนนั้นด่าใคร ?
หมิว : "ด่าผี ก็ด่าลงทวิตแล้วก็นั่งอยู่ในบ้านมองออกไปนอกบ้าน เพราะรู้ว่าเข้าบ้านไม่ได้ ก็ด่าว่า "มึงมีสิทธิ์อะไรมาทำกับกูแบบนี้กูเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ"
สิ่งที่พี่กลัวแทนนะ ถ้ามีคนมาบอกว่ามีคนตามอยู่ตั้งแต่ตอนแรก พี่เริ่มกลัวแล้วนะ อันนี้กลัวมั้ย ?
หมิว : "ตอนนั้นเราก็กลัว แต่พอมาถึงจุดที่เลยความกลัวไปแล้ว เหมือนกับเราเดินไปไหนมีคนตามอยู่ข้างหลังตลอด ถ้าหันไปแล้วเจอเป็นตัวเป็นตนหยุมหัวไปแล้วนะ"
เรารู้สึกมั้ยว่าเขาตามเราอยู่ ?
หมิว : "หลังๆ ช่วง ปี สองปีที่ผ่านมานี้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ก็พยายามคิดในแง่ดี เพราะทุกครั้งที่เราทำทาน ทำบุญ เราก็จะบอกเขาตลอดว่าเราอุทิศส่วนกุศลให้เขานะ ให้กับลูกเขานะ เพื่อที่เขาจะได้มีบุญไปเกิด เราก็ทำให้ พูดกันง่าย กูก็ใจกับมึงแล้วนะ กูให้มึงเต็มที่เลยนะ แล้วมึงเป็นอะไรมึงมาแว้งกัดกูอีกเหรอ"
แล้ว ณ ตอนนี้เลยยังอยู่มั้ย ?
หมิว : "น้องที่ทักบอกว่ายังอยู่ คือเขาตามอยู่ทุกขณะที่หมิวทำอะไรก็ตามรอแค่ว่าวันไหนหมิวดวงตก จิตตก ก็จะสามารถพาไปได้ทุกเมื่อ"
แล้วตอนที่เขาทักเราว่าขับรถทางไกลมันมีเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ มั้ย ?
หมิว : "หมิวตั้งใจขับรถไปกระบี่คนเดียว คือหมิวชอบไปกระบี่แล้วก็รู้จักน้องที่นั่นด้วย ชอบอยู่กับธรรมชาติ ไปอ่านหนังสือ นั่งดูพระอาทิตย์ตก แล้วครั้งนี้กะว่าจะไปนานซัก 2-3 อาทิตย์เลย จะเอาเปียโนไฟฟ้าไปด้วย เอาหนังสือไปเยอะๆ เอาโน่นนี่ไปเยอะๆ เลยจะไม่นั่งเครื่อง กะว่าจะขับไปเรื่อยๆ ชิลๆ แล้วหมิวไม่เคยบอกใครเลย แม่ก็ไม่เคยบอก จัดกระเป๋าเตรียมไว้แล้ว วันไหนมีอารมณ์ไปก็ไปเลย งานก็เคลียร์เสร็จแล้ว วันนั้นแม่กลับมาก็มาเล่าให้ฟังว่ามีน้องคนนี้ทักว่าพี่หมิวจะขับรถไปไหนไกลๆ แล้วจะขับรถสีดำใช่มั้ย อย่าให้เขาไปนะเขาจะขับรถหลุดโค้ง เราตกใจเลยว่ารู้ได้ยังไง"
แล้วสุดท้ายได้ขับไปมั้ย ?
หมิว : "ยังไม่ทันได้ขับไป"
แล้วถ้าเกิดได้ไปจริง มีโอกาสหลุดโค้ง ?
หมิว : "หมิวก็ไม่รู้ อาจจะเกิดก็ได้ หรือ อาจจะไม่เกิดก็ได้ อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ"
พระทักหลายครั้งด้วยใช่มั้ย ?
หมิว : "3 ครั้ง ครั้งแรกเลยช่วงวันเกิดหมิวไปทำพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย อยู่ดีๆตอนบังสุกุลตายก็ร้องไห้ แม่บอกว่าเกิดมาไม่เคยได้ยินหนูร้องไห้ขนาดนี้มาก่อน พระทักที่แรกแล้วว่าโดนของนะ เขาเอาถึงตายเลยนะ ไม่รู้มาจากไหน สองเราไปถวายเทียนพรรษากับอีกทีนึง ตอนเขาสวดก็ร้องอีก แล้วเราพยายามกลั้นแล้วเหมือนมันสู้กันอยู่ พระก็บอกว่าเนี่ยโดนของแก้ให้ไม่ได้นะ เอาถึงตายนะ ครั้งที่ 3 ไปอีกวัดแถวบ้าน หลวงพ่อให้ไปเด็ดใบไม้มา ซึ่งวัดนี้เขามีชื่อเสียงว่าเป็นพระเขมรถอนคุณไสยได้ดี พระอาจารย์หยิบใบไม้มาดูบอกว่า บ่ายนี้ว่างมั้ยเดี๋ยวมาอาบน้ำมนต์เลยนะ ครั้งล่าสุดที่ก่อนที่จะมาถึงตรงนี้หมิวอาบเกือบ 10 ครั้งได้ ก่อนที่จะมาโดนทักครั้งล่าสุด คืออันนี้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว"
แล้วตอนอาบน้ำมนต์รู้สึกยังไง ?
หมิว : "อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ มันเหมือนมีหมิวอยู่สองคน มันตีกันอยู่ในตัวเอง ร้องไห้แล้วก็บอกว่าอย่าทำกู เขาสั่งกูมา พระอาจารย์ก็จะมีเหมือนมีดหมอเอามาวางบนหัวพอเขาเอามาวางบนท้องก็กรี๊ดเลย แล้วก็ด่าพระด้วย"
แล้วตอนด่าพระรู้ตัวมั้ย ?
หมิว : "รู้ตัวแต่หยุดไม่ได้ เรื่องร้องไห้ก็เหมือนกันมันหยุดไม่ได้เหมือนกัน อยู่ดีๆ มันก็ร้องขึ้นมาเอง เราก็บอกว่าอย่าๆ ร้องมันหยุดไม่ได้แล้วทุกคำพูดที่มันออกมาเรารู้หมดเลย"
งั้นแสดงว่าคนที่สั่งให้เราพูดก็ไม่ใช่เรา ?
หมิว : "หมิวไม่แน่ใจ หมิวอาจจะเป็นโรคสองบุคลิกในตัวก็ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ พระสวดชินบัญชรหมิวก็สวดด้วย สวดไปเสร็จปุ๊ปก็ร้องไห้แล้วก็บอกว่าคอยดูนะกูจะเอาอีนี่ให้ตายเลย แล้วพอบอกว่าตายเสร็จปุ๊ปหมิวก็กลับมาสวดชินบัญชรใหม่ตามพระ คือพยายามสู้กันอยู่ แล้วครั้งสุดท้ายจำได้ว่าหลับไปเลย แม่ก็พยายามเรียก ในฝั่งหมิวที่หลับอยู่ก็เห็นว่ามีผู้หญิงผมยาวๆจูงมือเด็กผู้ชายแล้วบอกว่าไปแล้วนะ หมิวก็บอว่าเออไปซะ เดี๋ยวทำบุญไปให้ แล้วก็มาจับข้อมือหมิวว่าไป ไปด้วยกัน แต่หมิวไม่เห็นหน้าเขานะ"
อันนั้นเชิงไสยศาสตร์แล้วเชิงวิทยาศาสตร์เคยไปปรึกษากับจิตแพทย์มั้ย ?
หมิว : "หมิวปรึกษาค่ะ หมิวพบจิตแพทย์มา 4-5 ปีแล้วนะ เพราะว่าตอนแรกเป็นภาวะซึมเศร้าก่อน คิดว่ารักษาหายแล้ว ก็หยุดรักษาแล้วก็กลับมารักษาใหม่ ทีนี้หมอวินิจฉัยเลยว่าเป็นโรคซึมเศร้าเลย"
อันนี้วินิจฉัยเมื่อไหร่ ?
หมิว : "ประมาณ 3 ปี"
แล้วเขาบอกว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานเท่าไหร่ ?
หมิว : "หมอบอกว่าหมิวเป็นจากกรรมพันธ์ุเลย คือเหมือนมันมีต่อมอยู่ต่อมนึง แล้วถ้าวันนึงมันมีเหตุการณ์อะไรที่มันกระตุ้นขึ้นมาเหมือนไปเปิดต่อมนี้แล้วเราก็จะเริ่มเป็นตั้งแต่นั้นมา จำได้ว่าตอนเด็กๆหมิวเคยเป็นประมาณว่าอยู่ดีๆใจก็หวิวลงไป เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไร จนโตขึ้นมามันผ่านหลายๆเหตุการณ์มา มันทั้งขึ้นทั้งลง"
แล้วพี่หมิวรู้ได้ไง เรามีอาการมั้ย เพราะว่าหลายๆคนที่เป็นภาวะซึมเศร้าเขาก็จะมีอาการที่จะออกมา บางคนก็นั่งร้องไห้บ้าง บางคนก็บอกว่าเศร้าทำร้ายตัวเอง พี่หมิวออกอาการยังไง ?
หมิว : "ตอนแรกเลยคืออาการนอนไม่หลับ นอนได้ 2 ชม แล้วก็ตื่น พอหลังจากนั้นมาก็หาหมอมาเรื่อยๆ เราจะเริ่มสังเกตุตัวเองแล้วว่า เวลาไหนอยู่ดีๆมันจะดาวน์ก็ดาวน์เลย ความรู้สึกเวลาดาวน์ ถ้าคนที่เป็นอาจจะเก็ต มันเหมือนโดนดึงลงไปในหลุมดำซึ่งหาทางออกไม่ได้ มันอยากจะขึ้นมาหายใจบนน้ำก็ขึ้นไม่ได้ มันอึดอัดไปหมด อยากจะร้องได้ก็ร้องไม่ออก"
มันดาวน์ขนาดเรากรีดแขนตัวเอง ?
หมิว : "ใช่ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่อยากเจ็บที่ใจแล้ว พี่เคยเป็นมั้ยว่าเจ็บขนาดใจเราจะพังแล้ว ถ้าใจเราพังเราตายแน่เลย เราก็เลยรู้สึกว่าขอไปเจ็บตรงอื่นได้มั้ย"
ที่เป็นที่แขนหลายทีหรือครั้งเดียว ?
หมิว : "ครั้งเดียวค่ะ รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว มันไม่อยากเจ็บที่ใจจริงๆ"
ล่าสุดนี่เมื่อไหร่ ?
หมิว : "น่าจะหลักเดือน2-3 เดือน ยังเป็นแผลคีรอยด์ เหมือนเราเล่นรถไฟเหาะมันจะลงไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เราต้องรู้เท่าทันตัวเอง"
แล้วทุกวันนี้ที่เราดิ่งดาวน์เราจะทำยังไง ?
หมิว : "สิ่งที่เราทำได้คือนั่งเฉยๆ แล้วรับรู้ว่าเราดาวน์อยู่ ถ้าร้องไห้ไม่ออกก็ไม่ต้องร้อง ก็จำได้แค่นั่ง เพราะมัยทำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่จะไม่ทำร้ายตัวเอง พอแล้วหยุด"
อะไรที่ทำให่เราหยุด ?
หมิว : "สติค่ะ ต้องมีสติมากๆ ต้องบอกตัวเองว่าเฉยๆ อยู่นิ่งๆ อย่า"
ตอนที่เราดาวน์สุดๆ แล้วเอาคัตเตอร์เริ่มตัด ความรู้สึกตอนนั้นมันยังไง มันสะใจ ?
หมิว : "พอตรงแขนมันเจ็บ ตรงใจมันก็จะหายไป เราขอรู้สึกเจ็บที่แขนดีกว่าที่จะรู้สึกเจ็บที่ใจ"
ยังดีที่พี่หมิวได้สติกลับมาทันเวลา ?
หมิว : "ใช่ ไม่หลุดไปไกลกว่านั้น ที่อยากมาออกรายการเพราะอยากจะบอกว่าตัวเองมีแผลแบบนี้ ตัวเองเป็นซึมเศร้า หมิวทำคลิปลงในช่องยูทูบ หมิวเล่าอาการหมดเลยว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าหมิวอยากให้ทุกคนที่กำลังป่วยอยู่คุณไม่ได้อยู่คนเดียวยังมีคนที่เป้นแบบนี้อยู่อีกหลายคนมากๆอย่ารู้สึกอายถ้าจะบอกว่าตัวเองป่วย หมิวอยากให้ตัวหมิวเองอยู่เป็นเพื่อนเขานะ หมิวเป็นดาราหมิวยังป่วยได้เลย"
พี่หมิวมีที่ระบายอารมณ์ส่วนตัวเวลาเครียดๆ ทำไมถึงเรียกว่าอีปลาทอง ?
หมิว : "เคยได้ยินวลีที่ว่า "มีงอย่ามาเก่งกับกูนะอีปลาทอง" มั้ยคะ มันเป็นมีมในเน็ต อีปลาทองมันลองของหมิว เอาง่ายๆ มันคือโรคจิตคนนึงที่โทรมากวนหมิวในตอนที่เรากำลังหลับสบายในตอนเช้าตรู่ วันรุ่งขึ้นเลยโทรกวนมันกลับเลย หลังจากนั้นเวลาที่หมิงจะบ่นดินฟ้าอากาศหรืออยากโวยวายอะไรกับใครหมิวก็จะโทรหา"
แล้วทำไมถึงต้องโทรหาอีปลาทอง ?
หมิว : "ก็มันโรคจิตโทรหาหมิวก่อน แล้วโทรหาหมิวตอนที่คนหลับยากแล้วต้องตื่นมารับแล้วต้องฟังเสียงฟืดฟาด หมิวโมโห"
เวลาโทรไปคุยอะไรกับเขาอ่ะ ?
หมิว : "ถ้าอยากด่าใครบางทีเขียนลงโซเชียลก็ไม่ได้ ไปบ่นกับใครก็ไม่ได้ ตีสาม ตีสี่ ก็โทรไปหามันนั่นแหละ"
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ