เจ้าหน้าที่กุมขมับ ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไม่ขยับ อาจต้องทิ้งล็อตหมดอายุบางส่วน

เจ้าหน้าที่กุมขมับ ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไม่ขยับ อาจต้องทิ้งล็อตหมดอายุบางส่วน

เจ้าหน้าที่กุมขมับ ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไม่ขยับ อาจต้องทิ้งล็อตหมดอายุบางส่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่กุมขมับ นครศรีธรรมราช ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไม่ขยับ ฉีดไปแค่ 21% อาจต้องทิ้งล็อตหมดอายุบางส่วน

ที่ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในศาลาประชาคมโรงละคร สนามหน้าเมืองอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งดำเนินการโดยโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช บรรยากาศการเข้ารับวัคซีนของประชาชนเป็นไปอย่างบางตา โดยผู้ขับวัคซีนเข็ม 3 ในขณะนี้มีจำนวนน้อยมากทำให้สร้างความกังวลให้กับเจ้าหน้าที่อย่างมากเนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ในการระบาดของโควิด 19 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อทั้งระบบ RTPCR และ ระบบ ATK สูงมากกว่า 2,500-3,000 คนต่อวันติดลำดับ 1 ใน 3 ของประเทศทุกวัน และมีผู้เสียชีวิตแบบรายวันอย่างเห็นได้ชัดโดย 2 วันที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุดเพียงแค่ 3 ขวบ เท่านั้น

การฉีดวัคซีนในวันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายงานตัวเลขผู้เข้ารับเข็มที่ 1 แล้วจำนวน 1,244,750 ราย คิดเป็น 80.34 เปอร์เซ็น เข็มที่ 2 จำนวน 1,129,578 ราย คิดเป็น 72.91 เปอร์เซ็น และเข็มที่ 3 มีผู้เข้ารับเพียง 331,331 รายคิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งพบว่าการเข้ารับเข็มที่ 3 เป็นไปอย่างล่าช้าอย่างมาก

ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมปรับแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยกระจายให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต.สามารถฉีดวัคซีนได้ทุกแห่ง โดยแต่ละแห่งมีรายชื่อประชากรในพื้นที่รับผิดชอบอยู่แล้วสามารถติดตามผ่านกลไกที่มีในท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น พร้อมทั้งยังแสดงความกังวลในขณะนี้ว่าหากประชาชนยังไม่ตื่นตัวในการเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 อาจส่งผลให้มีวัคซีนจำนวนหนึ่งต้องถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์เนื่องจากหมดอายุการจัดเก็บ ส่วนสาเหตุที่เข้ารับเข็มที่ 3 น้อยลงเนื่องจากพบว่าประชาชนเริ่มมีความชินชาและขาดการตระหนักรู้กับการแพร่ระบาด รวมทั้งความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเช่นการรับวัคซีนส่งผลกระทบกับร่างกายและสุขภาพ หรือการรับวัคซีนแล้วยังติดเชื้อ หรือการรับวัคซีนแล้วร่างกายเปลี่ยนแปลงไม่สามารถทำงานหนักได้

ส่วนจำนวนผู้ป่วยล่าสุดในวันนี้ (24 มี.ค.) พบผู้ติดเชื้อในระบบ RTPCR จำนวน 1,645 ราย ในระบบ ATK อีกราว 1 พันราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่มกราคม 2565 จำนวน กว่า 52,000 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 77 ราย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook