สาวสุดช็อก จอดเติมน้ำมันอยู่ดีๆ จู่ๆ เก๋งป้ายแดงพุ่งชนรถยับ เด็กปั๊มขาขาด (คลิป)
เปิดคลิปวงจรปิดนาทีระทึก รถเก๋งป้ายแดงพุ่งเข้าปั๊ม ชนรถเก๋งจอดเติมน้ำมันพังยับ ขณะที่เด็กปั๊มขาขาด
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพอุบัติเหตุรถเก๋งป้ายแดง พุ่งชนรถอีกคันที่กำลังจอดเติมน้ำมันอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.บางขุนเทียน 14 โดยระบุข้อความว่า "จอดเติมน้ำมันอยู่เฉยๆ (มึง) หลุดมาจากไหน ฟาดเคราะห์อย่างหนัก สงสารเด็กปั๊ม ขาขาดเลย กูจะรั่ว"
จากภาพจะเห็นว่ารถคันก่อเหตุเป็นรถเก๋งป้ายแดง พลาสติกที่เบาะยังไม่ได้แกะออก คาดว่าน่าจะเพิ่งออกรถมาหมาดๆ พุ่งเข้าชนรถเก๋งสีขาว ทางด้านล้อหลังฝั่งซ้ายอย่างจังขณะจอดเติมน้ำมัน ซึ่งดีที่หัวจ่ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตได้ตรวจสอบพบว่า รถเก๋งคันก่อเหตุน่าจะเพิ่งออกรถในวันเดียวกับที่พุ่งชนเข้าปั๊ม แถมป้ายทะเบียนทั้ง 2 คันยังคล้ายกันมาก นอกจากนี้ ยังมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เด็กปั๊มคนนี้ซวย 2 รอบแล้ว รอบแรกโดนลูกหลงจากเหตุทะเลาะกัน โดยถูกยิง และรอบนี้เด็กปั๊มก็ถูกลูกหลงชนจนขาขาด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ ที่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ อยู่ใกล้กับปากซอยบางขุนเทียน 14 ที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยคราบเลือดอยู่ที่บริเวณพื้น ใกล้ๆ หัวจ่าย
จากการสอบถาม พนักงานปั๊มที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไม่รู้ว่ารถมาจากทางไหน เห็นว่าพุ่งเข้ามาชนเด็กปั๊มที่เติมน้ำมันอยู่ขาขาด 1 คน และถูกชนกระเด็นได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ส่วนคนขับเป็นผู้หญิง หลังเกิดเหตุอยู่ในอาการตกใจ พอเห็นสภาพเด็กปั๊ม ก็เป็นลมล้มพับไป คาดว่าน่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ
สำหรับ เด็กปั๊มที่ขาขาด ทราบเบื้องต้นว่าเป็นหญิงชาวเมียนมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยายาล ยังไม่ทราบว่าอาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ขณะที่ เจ้าของรถเก๋งคันสีขาว ผู้โพสต์บอกเล่าเรื่องราว ล่าสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นสภาพความเสียหายของรถ พร้อมข้อความว่า "ยับยิ่งกว่ายับ ซ่อมได้แล้วจะเหมือนเดิมไหม ที่มาของคำว่า แรงทะลุปั๊ม พาคนอื่นเขาซวยไปด้วย ขับไม่แข็งอย่าหาขับ คนอื่นต้องมาเดือดร้อน"
ขณะที่ นายสาธร ม่วงศิริ เจ้าของปั๊มน้ำมัน กล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ให้อยากต่อว่าใครและไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว อยากให้ช่วยดูแลผู้บาดเจ็บที่ขาหายไป กลัวอย่างเดียวคืออย่าอาศัยประกันอาศัยใจจะดีกว่า ส่วนฝั่งคู่กรณีก็มีการโทรมาสอบถามอาการของคนเจ็บบ้างแล้ว
ส่วนการป้องกันสถานที่นั้น จริงๆ ไม่น่าเกิดขึ้นเพราะอยู่ที่จิตสำนึกของผู้ขับขี่เอง ควรดูว่าตัวเองขับรถได้หรือเปล่า และน่าจะเพิ่งขับรถ คงจะตกใจหากดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่ามีการเหยียบคันเร่งซ้ำไปอีก ซึ่งเวลาขับทางตรงนั้นไม่ได้ใช้ความเร็ว แต่พอหักเลี้ยวรถเคลื่อนเร็วมาก
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ