"นาซา" เผยเหตุผล ทำไมทุ่มเงินสร้างจรวดทรงอานุภาพที่สุดในโลก (มีคลิป)

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) เสร็จสิ้นการสร้างและเคลื่อนย้ายจรวดยักษ์ที่จะพามนุษย์อวกาศอเมริกากลับสู่ดวงจันทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยเคลื่อนนำไปที่แท่นติดตั้งพร้อมทดสอบระบบการบินขั้นสุดท้ายที่ฐานปล่อยจรวดในรัฐฟลอริดา ของสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการเคลื่อนย้าย 11 ชั่วโมง

นอกจากนี้ มันยังเป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุด ออกแบบมาให้ทำความเร็วได้ถึง 23 มัค เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์

จรวด SLS (Space Launch System) เป็นจรวดยาวที่สุดที่เคยมีการสร้างมา มีความสูงเทียบเท่าตึก 32 ชั้น หรือสูงกว่าอนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่อย่าง "เทพีเสรีภาพ" และจรวดจะถูกใช้คู่กับแคปซูลลูกเรือยาน ORION ที่จะขึ้นไปทำภารกิจภายใต้โครงการที่ชื่อว่า "อาร์ทิมิส"

โดยการทดสอบครั้งแรกนั้นจะเป็นแบบไม่บรรทุกลูกเรือขึ้นไป หากประสบผลสำเร็จด้วยดี ภารกิจที่เหลืออีก 2 ครั้งจะเป็นการนำมนุษย์กลับขึ้นไปยังดวงจันทร์เป็นครั้งแรกหลังจากที่ห่างเหินไปนานกว่า 50 ปี

และครั้งนี้จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษยชาติ เพราะผู้ที่จะเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งจะเป็นสุภาพสตรีคนแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ และอาจจะเป็นสุภาพสตรีผิวสีคนแรกของโลก ภายใต้จุดประสงค์หลักของนาซาที่ต้องการจะส่งสัญญาณว่า "อวกาศนั้นเป็นของมนุษย์ทุกคน ไม่แบ่งแยกสีผิว"

โครงการ SLS-ORION ใช้งบประมาณในการพัฒนาราว 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) ถือเป็นแกนหลักของโครงการอาร์เทมิสของนาซา ที่มีเป้าหมายส่งนักบินอวกาศกลับไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้ง และการสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์ในระยะยาว หรือเป็นฐานที่มั่นสำหรับโครงการตั้งรกรากบนดาวอังคารต่อไป