คุ้มไหมเนี่ย? หนุ่มขี่ จยย. ไกลกว่าร้อยกิโลฯ ไปงัดตู้บริจาควัด ได้เงิน 1,080 บาท

คุ้มไหมเนี่ย? หนุ่มขี่ จยย. ไกลกว่าร้อยกิโลฯ ไปงัดตู้บริจาควัด ได้เงิน 1,080 บาท

คุ้มไหมเนี่ย? หนุ่มขี่ จยย. ไกลกว่าร้อยกิโลฯ ไปงัดตู้บริจาควัด ได้เงิน 1,080 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุ้มไหมเนี่ย? หนุ่มขี่ จยย. ไกลกว่าร้อยกิโลฯ ไปงัดตู้บริจาควัด ได้เงิน 1,080 บาท วันเดียวโดนตำรวจจับ

(25 มี.ค.65) พ.ต.อ.พฤหัส สังข์ประเสริฐ ผกก.สภ.กุยบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี คุมตัว นายทวยเทพ อายุ 45 ปี ชาว ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีขโมยเงินบริจาค

โดยเมื่อ วันที่ 23 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.วศิน บูรณศักดิ์ รองสารวัตรสอบสวน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ เป็นเงินสดในตู้บริจาคภายในวิหารหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี หมู่ที่ 1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน พบว่ามีเงินทำบุญซึ่งอยู่ในตู้บริจาคสูญหายไปประมาณ 1,000 บาทเศษ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดกุยบุรี พบคนร้าย จำนวน 1 คน มีพฤติกรรมเข้ามาทำทีกราบขอพรพระภายในวิหาร พอปลอดคนกลับใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจตู้บริจาคแล้วลักเอาเงินสดภายในตู้ไป ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีม่วง ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กด-2530 กรุงเทพฯ ขับหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าลงใต้ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 พ.ต.อ.พฤหัส สังข์ประเสริฐ ผกก.สภ.กุยบุรี จึงได้เรียกชุดสืบสวน สภ.กุยบุรี เพื่อติดตามตัวคนร้าย กระทั่งสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายทวยเทพ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ภานุ ภิรมนา สว.สืบสวน สภ.กุยบุรี ติดตามตัว มาที่ อ.บางสะพาน จนกระทั่ง พบตัวนายทวยเทพ อยู่ที่บ้านเช่าใน ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน ตรวจพบของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีม่วง ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขคต-371 พิษณุโลก และพบแผ่นป้ายทะเบียน 4กด-2530 กรุงเทพ ที่ใช้ติดในวันเกิดเหตุ พร้อมด้วย เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า ที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ  และกระเป๋าเป้สะพายสีดำ

ด้านนายทวยเทพ รับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างซ่อมรถ วันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์จากอำเภอบางสะพาน ก่อนเข้าไปลักเงินในตู้บริจาคภายในวิหารหลวงพ่อในกุฏิจริง ได้เงินไปจำนวน 1,080 บาท โดยนำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย จากนั้นได้นำตัวนายทวยเทพ พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook