ดื่มชาและกาแฟป้องกันโรคเบาหวานได้

ผลการศึกษาประชากรกลุ่มตัวอย่างเกือบ 5 แสนคน พบว่า ผู้ที่ดื่มชาและกาแฟ มีความเสี่ยงน้อยลงที่จะป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคเบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติของอินซูลิน

คณะนักวิจัย ของอาร์ไคฟส์ ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซีน รายงานผลการศึกษา 18 ครั้งซึ่งใช้ประชากรกลุ่มตัวอย่างเกือบ 500,000 คน พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 3-4 แก้วสามารถลดความเสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ลงได้ถึง 1 ใน 5 หรือมากกว่านั้น และถ้าหากดื่มกาแฟที่ปราศจากสารกาเฟอีน ก็จะลดความเสี่ยงลงได้ 1 ใน 3 เลยทีเดียว

การป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มักเริ่มต้นขึ้นหลังวัย 40 โดยเป็นเบาหวานที่เกิดจากร่างกายยังคงสร้างอินซูลิน แต่มีไม่เพียงพอ หรืออินซูลินที่ผลิตขึ้นมานั้นทำหน้าที่ได้ไม่เหมาะสม เบาหวานชนิดนี้สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเพิ่มการออกกำลังกาย หรืออาจทำควบคู่ไปกับการใช้ยาและอินซูลินเสริม

นัก วิจัยพบด้วยว่า หากเพิ่มการดื่มกาแฟจากเดิมอีกวันละแก้ว ก็จะลดความเสี่ยงเป็นเบาหวานลงได้อีก 7% แพทย์หญิงราเชล ฮักซ์ลีย์ หัวหน้าผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลีย ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ความเสี่ยงเป็นเบาหวานลดลง ไม่น่าจะเกิดมาจากสารกาเฟอีนในกาแฟและชาเพียงอย่างเดียว แต่เกิดมาจากส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ธาตุแมกนีเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กรดคลอโรจีนิค และถ้าผลการพิสูจน์พบว่าธาตุเหล่านี้ให้ประโยชน์ได้จริง ก็อาจจะนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงป้องกันเบื้องต้นการเป็นเบาหวานได้