แม่แตงโม เผยเหตุผลยื่นถอน "หมอพรทิพย์" ไม่พอใจก้าวก่ายคดี ยันไว้ใจตำรวจ

แม่แตงโม ไม่พอใจ หมอพรทิพย์แทรกแซงตำรวจ ลั่นคดีใกล้จบ ไม่มีงานอะไรให้คุณหมอทำอีกแล้ว ยันไว้ใจการทำงานของตำรวจ

(28 มี.ค. 65) ที่รัฐสภา นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมด้วย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอถอดถอนการทำเรื่องคดีแตงโม พร้อมขอให้สั่งการให้ กมธ.ฯ บางคนหยุดแทรกแซงการทำงานของตำรวจ และแจ้งถอดถอนให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว.ในฐานะ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ และ เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ออกจากการเป็นผู้สังเกตการณ์ต่อคดีดังกล่าว

ทั้งนี้  ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา แม่แตงโม ได้ให้ทนายไปยื่นเรื่องให้ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ช่วยติดตามการทำคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

นางภนิดา เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นหนังสือต่อ ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา เพื่อถอดถอนการดำเนินการเกี่ยวกับคดีของลูกสาว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ขอให้ กมธ.เข้ามาช่วยเรื่องคดี ส่วนสาเหตุการมายื่นเรื่องต่อ กมธ.ฯ ชุดดังกล่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากขณะนั้นตนบกพร่องไม่ได้อ่านหนังสือดังกล่าวให้รอบคอบ ทำให้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่ทำคดีก่อนหน้านี้เป็นผู้ดำเนินการเองกับหลานสาวตน

ส่วนกรณีที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ดำเนินการในตอนนี้ นางภนิดา เปิดเผยว่า ตนไม่พอใจที่คุณหมอออกมาให้สัมภาษณ์และดำเนินการหลายอย่าง ซึ่งตนมองว่าการดำเนินการของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ในหลายๆประเด็น อาทิ การเข้าไปดูการทำงานของตำรวจ การดำเนินการเรื่องศพ รวมถึงการตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เหมาะสม

ด้าน ทนายเดชา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ 1. กรรมาธิการ มองตำรวจเหมือนไม่มีศักศรี ทั้งที่มีการสอบสวนแล้ว ยังสั่งให้ไปสอบอีก และกรรมาธิการบางคนมีหน้ามีตา ก็สั่งให้นำเข้าเครื่องจับเท็จ ทำให้ตำรวจรู้สึกว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายตำรวจทนไม่ได้ เหมือน สว. มาย่ำยีศักดิ์ศรี และเป็นเรื่องของการแทรกเเซง

เรื่องที่ 2 เรื่องที่นำผลการพิสูจน์ศพ ออกมาพูดในที่สาธารณะ หยดเลือดที่ผ้าอนามัย ร่องรอยต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจ สังคมไขว้เขว เป็นการพูดแล้วมันไม่ครบ พูดไม่หมด แต่ทนายไม่บอกว่าเป็นใคร

เรื่องที่ 3 ให้สัมภาษณ์ในการดิสเครดิต อ้างว่ามีบาดแผลที่ใบหน้า ถ้อยคำนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เก็บหมดแล้ว แจ้งทนายเดชาแล้ว นอกจากนี้ด่าตำรวจไม่พอ ไปด่าหมอตำรวจทำให้สับสนข้อมูลในการผ่าศพมันเปิดเผยไม่ได้

เรื่องที่ 4 ให้สัมภาษณ์ ว่า ตำรวจไปทวงไม่ยอมส่งศพไปตรวจ เป็นการให้สัมภาษณ์ แล้วทุกคนไปด่าตำรวจอีก

วันนี้ จึงมาขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ หนังสือยินยอม หมอพรทิพย์ และนายเต๊ะ ศตวรรษ ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมการชันสูตรรอบสอง ไม่อนุญาตให้ 2 คนนี้ นำรายละเอียดเผยต่อสื่ออมวล อาจทำให้รูปคดีเสียหายได้

กรณีที่ทำไม แม่แตงโมถึงได้ให้หมอพรทิพย์ เข้ามาทำการชันสูตร ร่างแตงโม ใครเป็นคนเสนอนั้น แม่ได้อธิบายว่า เริ่มมาจากทนายกฤษณะ เเละเป็นความบกพร่องของเเม่เอง ที่ไม่ได้อ่านหนังสือราชการ มันต้องใช้เวลาคิดเยอะ แม่ไม่ได้รู้จักหมอพรทิพย์นะ มารู้จักตอนที่มาช่วยเรื่องคดีเเตงโม แม่คิดว่าบางเรื่องเป็นความลับของคดี

เมื่อถามว่าการออกมาเรียกร้องนี้เพื่อปกป้องเกียรติตำรวจมากกว่าจะคลี่คลายคดีแตงโมหรือไม่ คุณแม่แตงโม มองว่า คนละส่วน ซึ่งตนก็พอใจการทำงานของตำรวจมาตั้งแต่เริ่ม

เมื่อถามต่อว่าวันนี้มั่นใจตำรวจ 100% ใช่หรือไม่ นางภนิดา ยืนยันว่า ไว้ใจการทำงานตำรวจอยู่แล้ว และตอนนี้ตำรวจได้ทำคดีใกล้จะจบแล้ว แต่คุณหมอจะมาผ่าศพรอบ 2 ทำไม ซึ่งคุณแม่ก็โกรธและไม่เข้าใจ

เมื่อถามต่ออีกว่า เต๊ะ-ศตวรรษ เป็นญาติฝ่ายไหนทำไมถึงแต่ตั้งเป็นผู้สังเกตการณ์ แม่แตงโม ระบุว่า แม่ไม่รู้จัก แต่ที่มาที่ไปคือ ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ประธานมูลนิธิคริสตจักร แนะนำให้รู้จักและขอให้มาเป็นผู้สังเกตการณ์กับคุณหมอพรทิพย์

ช่วงท้ายถามว่าไม่อยากให้หมอพรทิพย์มาช่วยคลี่คลายหรือ แม่แตงโม ระบุว่า สำหรับทางนิติเวชและคุณหมอจบแล้ว เรื่องเรือก็จบแล้ว และไม่มีงานอะไรให้คุณหมอทำอีกแล้ว เมื่อถามย้ำว่าอยากบอกอะไรกับหมอพรทิพย์ไหม คุณแม่ ระบุว่า ได้พูดไปหมดและไม่มีเรื่องจะพูดกับท่าน

สำหรับข้อเรียกร้องที่ นางภนิดา แจ้งต่อประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ให้ยุติการทำงานของ กมธ.บางท่าน มี 5 ข้อดังนี้

1.) ก้าวก่ายการทำงานตำรวจ

2.) นำผลพิสูจน์ศพไปเปิดเผยซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของตำรวจผิด

3.) มีการดิสเครดิตแพทย์นิติเวช

4.) อ้างหลักการนิติวิทยาศาสตร์ ของต่างประเทศ

5.) กล่าวหาตำรวจเตาะถ่วง