แค่กดว้าวในเฟซบุ๊ก รุ่นพี่วัย 15 ลวงรุ่นน้องวัย 14 ไปรุมตบ กราบขอโทษยังเตะซ้ำ
เรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นคอซอง รุ่นพี่วัย 15 ลวงรุ่นน้องวัย 14 ไปรุมตบ กราบขอโทษยังเตะซ้ำ เหตุแค่กดว้าวในเฟซบุ๊ก
สังคมโซเชี่ยลแห่แชร์คลิปภาพความยาวประมาณ 2 นาที เป็นภาพกลุ่มวัยรุ่นหญิงอายุประมาณ 15 ปี อยู่ในห้องภายบ้านหลังหนึ่ง โดยมีเด็กหญิงอีกคนหนึ่งใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทองเดินเข้าไปพร้อมทั้งพยายามพูดขอโทษ แต่หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นคนดังกล่าวกลับบังคับให้ถอดแมสก์แล้วกระโดดเข้าทั้งตบและเตะ จนเด็กหญิงที่ใส่ชุดนักเรียนต้องร้องขอโทษอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่อยู่ภายในห้องอีก 5-6 คนซึ่งไม่มีท่าทีห้ามปราม แต่กลับส่งเสียงเชียร์ด้วยความสนุกสนาน
ก่อนที่เด็กหญิงในชุดนักเรียนจะกราบขอโทษแต่ก็ยังถูกเตะซ้ำก่อนที่จะไล่ให้ออกจากห้องไป โดยคลิปดังกล่าวถูกแชร์ในสังคมโซเชียลอย่างกว้างขวางจนกระทั่งสร้างเสียงพากวิจารณ์เป็นอย่ามาก โดยหลังจากมีคลิปแพร่ออกไป สาวที่อยู่ในคลิปและเป็นคนลงมือทำร้ายเด็กหญิงในชุดนักเรียน ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าว และขอโทษทุกคนที่ทำเช่นนั้น
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังน้อง อ.(นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่ถูกทำร้ายในคลิปเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปกดว้าวในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีกลุ่มรุ่นพี่อยู่ในนั้น และรุ่นพี่ด่าตนเองว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ ตนจึงกดว้าวไป ซึ่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งไม่พอใจตนเองจึงขอโทษไปหลายครั้ง หนึ่งในกลุ่มนั่นชื่อพี่ ฟ.ซึ่งเป็นรุ่นพี่อายุ 15 ปี แต่อยู่คนละโรงเรียนก็บอกให้ไปขอโทษที่บ้านหลังหนึ่งแถวเขตรอยต่อ อ.เมือง และ อ.โพธิ์ทอง ตนจึงเดินทางไปจากบ้านเพื่อไปขอโทษโดยมีเพื่อนไปด้วย 3 คน โดยเมื่อไปถึงกลุ่มรุ่นพี่ก็ให้ตนเข้าไปในห้องโดยให้เพื่อนที่ไปด้วยอยู่ข้างนอกและมีผู้ชายเฝ้าไว้
เมื่อเข้าไปตนก็ขอโทษหลายครั้งแต่คนชื่อ ฟ. เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งบังคับให้ตนถอดแมสก์และใช้ช่วงเผลอเข้าทำร้ายตน ซึ่งตนเองก็พยายามร้องขอว่าอย่าทำขอโทษแต่ก็ยังไม่หยุด จนกระทั่งตนเองต้องก้มกราบหลายครั้งสุดท้ายจึงปล่อยให้ตนวิ่งออกมา ด้วยความกลัวตนจึงไม่ได้บอกกับใคร โดยวันรุ่งขึ้นมีอาการเจ็บที่ชายโครง หน้าผาก และศีรษะ รวมถึงปวดไปทั้งตัวแต่ก็ไม่กล้าบอกแม่
ขณะที่นาง พ.(นามสมมติ)อายุ 33 ปี มารดาของน้อง อ. บอกว่าเมื่อเห็นคลิปถึงกับโมโหมากเบื้องต้นตอนนี้ทั้งตนและน้อง อ.ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ระหว่างการกักตัว โดยหากพ้นการกักตัวเมื่อไหร่จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดทันที